เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 20-08-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


กทม.วอนคนเมืองกรุงอย่าตระหนกสถานการณ์น้ำท่วมจากสภาวะโลกร้อน ยืนยันมีความพร้อมรับมือได้



" ประกอบ จิรกิติ" รองผู้ว่าฯกทม. ชี้เหตุการณ์น้ำท่วมจากสภาวะโลกร้อนยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ยันถ้าน้ำสูงมีมาตรการรับมือ ระบุถ้าจะเพิ่มความสูงของเขื่อนหรือระบายน้ำออกทะเล ต้องคำนึงถึงผู้ได้รับผลกระทบด้วย

นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่นายพิจิตต รัตตกุล ผู้อำนวยการบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชีย และอดีตผู้ว่าฯกทม. มีข้อกังวลว่า มาตรการรับมือน้ำท่วมของกทม.จะใช้ไม่ได้ผล เนื่องจากเกิดสภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรง ทำให้เกิดความแปรปรวนของปริมาณน้ำฝนและมีน้ำในทะเลเพิ่มสูงขึ้น ว่า การออกมาเตือนดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพื่อที่ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ บรรเทาสาธารณภัยของกทม.อีกครั้ง อาทิ เครื่องสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ ท่อระบายน้ำ ให้มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำในพื้นที่กทม. อย่างไรก็ตามตนไม่อยากให้คนกรุงเทพฯตื่นตระหนกกับการคาดการณ์ที่ว่ากทม.จะ ไม่สามารถระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ออกสู่ทะเลได้ เนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงเกินไป เพราะตนมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะยังไม่มาถึงในช่วงเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม กทม.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยระหว่างนี้กทม.โดยสำนักการระบายน้ำได้ประสานในยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำหริ (กปร.) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมอุตุนิยมวิทยา รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.อ่างทอง เพื่อรับทราบถึงสถานการณ์น้ำและนำข้อมูลดังกล่าววางแผนในการรับมือและป้องกันต่อไป

นายประกอบ กล่าวถึงข้อเสนอที่ว่าให้เพิ่มความสูงของเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 50 เซนติเมตร รวมถึงการสร้างคันกั้นน้ำนั้น คงต้องนำประเด็นดังกล่าวพิจารณากับคณะทำงานของสำนักการระบายน้ำ(สนน.)อีก ครั้งหนึ่ง เบื้องต้นต้องพิจารณาตามความเหมาะสม อาทิ เขื่อนกั้นน้ำเจ้าพระยามีความสูงเฉลี่ย 2.5 เมตร หากจะสร้างเพิ่มอีก 50 ซม. นั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ หากพิจารณาตามโครงสร้างฐานรากของเขื่อน เพราะหากสร้างสูงกว่านั้นประชาชนที่อยู่หลังเขื่อนจะได้รับความเดือดร้อน รวมไปถึงนำข้อมูลระดับน้ำสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมานำมาวิเคราะห์ ซึ่งหากพบว่าในอนาคตระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเกินระดับเขื่อน อาจจะมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น นำกระสอบทรายเสริมความสูงให้กับเขื่อน เป็นต้น

รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่าตนคาดว่าช่วงปลายปี 2552 นี้ หากสถานการณ์ฝนตกไม่มีพายุเกิดขึ้น ระดับน้ำทะเลไม่หนุนสูง กทม.น่าจะรับมือกับสถานการณ์ได้ ทั้งนี้จากรายงานของสนน.เรื่องปริมาณฝนตกในเดือนสิงหาคมพบว่ามีปริมาณ 93 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับสถานการณ์รอบ 30 ปีที่ คือ 114.2 มิลลิเมตร แม้การรายงานปริมาณน้ำฝนจะไม่ถึงขั้นวิกฤต กทม.ก็ได้เตรียมรับมือเบื้องต้น คือ พร่องน้ำในคลองแสนแสบ และคลองอื่นๆ รวมไปถึงระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เพื่อเตรียมการหากมีฝนตกในปริมาณมากก็จะสามารถระบายลงคลองได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการระบายน้ำออกสู่ทะเลนั้น กทม.ได้คำนึงถึงประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งด้วย เนื่องจากหากระบายน้ำจืดออกสู่ทะเลมากเกินไป ก็อาจกระทบต่อการประมงชายฝั่งได้




จาก : มติชน วันที่ 19 สิงหาคม 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 22-09-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


เตือนภัยแผ่นดินปากแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้จมทะเล


วารสารด้านธรณีวิทยาระบุอ้างจากภาพถ่ายดาวเทียม หากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของภาวะโลกร้อน พื้นที่ปากแม่น้ำหลายแห่งทั่วโลกมีอัตราการทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน...

สำนัก ข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ ( 21 ก.ย. ) อ้างข้อมูลจากวารสารด้านธรณีวิทยา “เนเชอร์ จีโอไซน์” ระบุทำนายพื้นที่แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำสายสำคัญๆ ของโลกราว 2 ใน 3 ซึ่งเป็นถิ่นพำนักของผู้คนรวมมากเกือบ 500 ล้านคน จะถูกน้ำทะเลท่วมในที่สุด รวมถึงพื้นที่แถบปากแม่น้ำเจ้าพระยาของไทย

รายงานฉบับดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากภาพถ่ายผ่านดาวเทียม แสดงให้เห็นพื้นที่แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของโลก 33 แห่ง พบว่า 85 เปอร์เซ็นต์ เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยภาวะน้ำท่วมกระทบผืนแผ่นดินบริเวณกว้างมากกว่า 260,000 ตารางกม. และภายในสิ้นศตวรรษนี้สถานการณ์น้ำท่วมจะขยายตัวขึ้นอีก 50 เปอร์เซ็นต์

หากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของภาวะโลกร้อน พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ออสเตรเลียกับแอนตาร์คติกา เผชิญหายนะภัยลักษณะดังกล่าวไปแล้ว แต่พื้นที่แถบนั้นไม่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น ผิดจากพื้นที่แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำของเอเชีย ซึ่งแต่ละแห่งมีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น ไล่ตั้งแต่พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด 3 ใน 11 แห่ง คือ ปากแม่น้ำเหลืองหรือแม่น้ำหวงเหอทางภาคเหนือของจีน ปากแม่น้ำแยงซีใกล้มหานครเซี่ยงไฮ้ และปากแม่น้ำมุกใกล้เมืองกวางโจว ส่วนพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ อาทิ ปากแม่น้ำไนล์ในอิยิปต์ ปากแม่น้ำเจ้าพระยาของไทย ปากแม่น้ำไรน์ของฝรั่งเศส ปากแม่น้ำคงคาในบังกลาเทศ ปากแม่น้ำอิระวดีในพม่า ปากแม่น้ำโขงในเวียดนามและปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ในสหรัฐ ถ้ามนุษย์ไม่แทรกแซงจัดการแก้ปัญหาหรือปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปตามสภาวะ จะก่อให้เกิดน้ำท่วมแผ่นดินกินบริเวณกว้าง

ทั้งนี้ ตามรายงานของสหประชาชาติ ระบุภายในปี 2643 หรือสิ้นศตวรรษนี้ ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย18-59 ซม. ขณะที่พื้นที่ปากแม่น้ำหลายแห่งทั่วโลกมีอัตราการทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างพื้นที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยามีอัตราทรุดตัวลงเฉลี่ยปีละ 5-15 ซม. เนื่องเพราะการสูบน้ำบาดาลมาใช้อย่างกว้างขวาง ส่วนพื้นที่ปากแม่น้ำโพในอิตาลี ตลอดช่วงศตวรรษที่แล้วแผ่นดินทรุดลงมากถึง 3.7 เมตร เพราะการทำเหมืองเจาะก็าซมีเทนใต้ดิน และพื้นที่ปากแม่น้ำอิระวดีของพม่าหลังเผชิญพายุไซโคลนนาร์กีซพัดถล่มเมื่อ ปีที่แล้ว ทำให้บางพื้นที่เกิดน้ำท่วมเหนือระดับน้ำทะเลลึกถึง 6 เมตร นั่นคือเหตุผลทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายมากถึง 138,000 ราย.



จาก : ไทยรัฐ วันที่ 22 กันยายน 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 22-09-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


เตือนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเสี่ยงจม


สามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี

ผลศึกษาชี้ พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ 2 ใน 3 ของโลก เสี่ยงจมอยู่ใต้น้ำ รวมถึง ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ทรุดลงทุกปี เพราะการใช้น้ำบาดาล

วารสารจีโอไซแอนซ์ เผยแพร่ผลการศึกษาใหม่สุดว่า พื้นที่ปากแม่น้ำขนาดใหญ่ราว 2 ใน 3 ของโลก ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรเกือบ 1,000 ล้านคน กำลังตกอยู่ในภาวะหนีเสือปะจระเข้ กล่าวคือเจอทั้งดินทรุด และระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น

การค้นพบดังกล่าว ที่มีพื้นฐานการจากศึกษาภาพถ่ายดาวเทียม แสดงให้เห็นว่า 85% ของพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำขนาด ใหญ่สุด 33 แห่ง ประสบกับภาวะน้ำท่วมหนักในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กินพื้นที่ราว 260,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งคาดว่าภายในศตวรรษนี้ พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่มีความเสี่ยงเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ จะเพิ่มขึ้นมากถึง 50% หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก

เจมส์ ซิฟอิทสกี้ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยขั้วโลก และเทือกเขาแอลป์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด แกนนำจัดทำการศึกษาครั้งนี้ ระบุว่า แม้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจะเป็นเอเชีย แต่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น และทำการเกษตรอย่างมาก ในทุกๆ ทวีป ยกเว้นออสเตรเลีย กับขั้วโลกใต้ ก็ล้วนแต่ตกอยู่ในภาวะอันตราย
ในการวัดระดับความรุนแรงที่แบ่งออกเป็น 5 ระดับนั้น พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะจมอยู่ใต้น้ำล้วนอยู่ในจีน คือ สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเหลืองทางตอนเหนือของประเทศ สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้ และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ใกล้กับกวางโจว

ขณะสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไน ล์ ของอียิปต์ แม่น้ำเจ้าพระยาของไทย และแม่น้ำโรนของฝรั่งเศส ล้วนแต่ติดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยปากแม่น้ำที่มีความเสี่ยงรองลงมา 7 แห่ง รวมถึง แม่น้ำคงคา ในบังกลาเทศ แม่น้ำอิระวดีของพม่า แม่น้ำโขง ในเวียดนาม และแม่น้ำมิสซิสซิปปี ของสหรัฐ

ผลการศึกษาระบุว่า สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจะมีตะกอนมาสะสมตามธรรมชาติเมื่อน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นแล้วท่วมกินพื้นที่กว้าง แต่มนุษย์มีส่วนทำให้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำหลายแห่งจมจากการทำเขื่อนกั้นต้นน้ำแ ละเปลี่ยนเส้นทางไหลของน้ำ ทำให้ตะกอนไม่ไหลลงมาสะสม

นอกจากนี้การทำเหมืองใต้ดินและการสูบน้ำบาดาลก็มีส่วนทำให้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจมด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีอัตราการทรุดตัวถึงปีละ 2-6 นิ้ว ผลจากการสูบน้ำบาดาลไปใช้



จาก : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 22 กันยายน 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 13-11-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


กองทุนโลกเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ 'ทำ 'กทม.'ยิ่งเสี่ยงจมน้ำ

WWF ชี้กรุงธากา มะนิลา และจาการ์ตา เป็น3 เมืองใหญ่ในเอเชียที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิ อากาศ ขณะที่กรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงสูงต่อภัยคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นและ ปัญหาน้ำท่วม

เมื่อวันพฤหัสบดี (12) กองทุนโลกเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (World Wide Fund for Nature : WWF) องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่มีฐานอยู่ที่เมืองแกลนด์ ในสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยรายงานล่าสุดที่ชื่อว่า “Mega-Stress for Mega-Cities” ซึ่งศึกษาถึงภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อ 11 เมืองใหญ่ในเอเชีย ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลหรือดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ คือ กรุงธากาของบังกลาเทศ, เมืองกัลกัตตาของอินเดีย , กรุงเทพมหานคร, กรุงพนมเปญของกัมพูชา, นครโฮจิมินห์ในเวียดนาม,สิงคโปร์, กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย,ฮ่องกง, กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์, กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย,และนครเซี่ยงไฮ้ของจีน

รายงานฉบับนี้ระบุว่า ธากา , มะนิลา, และจาการ์ตา ป็น 3 เมืองที่มีความเปราะบางมากที่สุด ต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเป็นเมืองที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และพายุ โดยในทั้ง 3 เมืองนี้ ธากาเป็นเมืองที่ตกอยู่ในอันตรายมากที่สุดโดยได้คะแนนความเสี่ยงระดับ 9 จากทั้งหมด 10 ระดับ เนื่องจากมีประชากรแออัดกันอยู่มากกว่า 13 ล้านคนบนเนื้อที่เพียง304 ตารางกิโลเมตรและยังอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปัจจุบันเพียงไม่กี่เมตรเท่า นั้น นอกจากนั้น ยังมักได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนจนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เป็นประจำ ขณะที่ขีดความสามารถของเมืองในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกลับ อยู่ในระดับต่ำมาก


จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
เก่า 27-03-2017
moon1245
ข้อความนี้ถูกลบโดย สายน้ำ.
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:32


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger