เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 23-03-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


บทบรรณาธิการ: ปัญหาน้ำในวันที่โลกเผชิญวิกฤต COVID-19


ในเวลาที่ทั้งไทยและโลกกำลังจับตาไปยังสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่กำลังลุกลาม คุกคามชีวิตและสุขภาพของประชากรทั่วโลก ปัญหาหนึ่งที่นับเป็นปัญหาใหญ่ของทั้งไทยและโลก ที่มีความร้ายแรงและสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของคนทั้งโลกไม่แพ้กัน นั่นก็คือปัญหาเรื่องน้ำ

แน่นอนเมื่อเรากำลังเผชิญภัยที่เราไม่คาดคิดมาก่อนอย่าง COVID-19 ก็ไม่แปลกนักที่สังคมจะให้ความสำคัญกับปัญหานี้มากกว่า อย่างไรก็ดี เนื่องในวันน้ำโลก 22 มีนาคม นี้ เป็นโอกาสอันดีที่ สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม จะขอมาให้ข้อมูลถึงปัญหาเรื่องน้ำ และความเร่งด่วนที่เราจะต้องหันมาสนใจปัญหานี้เช่นกัน เพราะคนเราจะมีสุขภาพดี มีชีวิตยืนยาวไม่ได้เลย หากปราศจากการเข้าถึงน้ำสะอาด

ปีนี้นับเป็นปีที่คนไทยเรากำลังเผชิญวิกฤตแล้งหนักสุดในรอบหลายสิบปี จากข้อมูลของกรมชลประทาน รายงานว่า ขณะนี้ 22 มีนาคม ได้มีการจัดสรรน้ำฤดูแล้งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา (4,000 ล้าน ลบ.ม.) ไปแล้ว 3,589 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 80 ของแผน ซึ่งน้ำที่เหลือจะต้องเก็บไว้ใช้จนถึงสิ้นเดือนเมษายน หรืออีก 40 วันข้างหน้า

เมื่อคำนึงถึงปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ก็พบว่าเรามีปริมาณน้ำเหลือน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ได้แก่

- เขื่อนภูมิพล ปีนี้เหลือน้ำอยู่ 4,872 ล้าน ลบ.ม. (36% ของความจุอ่างฯ) เมื่อเทียบกับปีก่อน มีน้ำอยู่ 7,270 ล้าน ลบ.ม. (54% ของความจุอ่างฯ)

- เขื่อนสิริกิติ์ ปีนี้เหลือน้ำอยู่ 4,089 ล้าน ลบ.ม. (43% ของความจุอ่างฯ) เมื่อเทียบกับปีก่อน มีน้ำอยู่ 5,548 ล้าน ลบ.ม. (58% ของความจุอ่างฯ)

- เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปีนี้เหลือน้ำอยู่ 341 ล้าน ลบ.ม. (36% ของความจุอ่างฯ) เมื่อเทียบกับปีก่อน มีน้ำอยู่ 405 ล้าน ลบ.ม. (43% ของความจุอ่างฯ)

- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปีนี้เหลือน้ำอยู่ 169 ล้าน ลบ.ม. (18% ของความจุอ่างฯ) เมื่อเทียบกับปีก่อน มีน้ำอยู่ 285 ล้าน ลบ.ม. (30% ของความจุอ่างฯ)

จะเห็นได้ว่าสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาค่อนข้างที่จะน่ากังวล แต่ก็ไม่เท่ากับหลายๆพื้นที่ในประเทศไทย ที่ประสบกับสถานการณ์ภัยแล้งสาหัสกว่าหลายเท่า เช่นที่ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่มีปริมาณน้ำในเขื่อนถึงระดับติดลบ โดยในขณะนี้ปริมาณน้ำใช้การได้ของเขื่อนอยู่ที่ -195 ล้านลบ.ม. (-8% ของความจุอ่างฯ) ซึ่งหมายถึงคนขอนแก่นกำลังต้องใช้น้ำจากก้นอ่าง (dead storage) มาใช้ในการอุปโภคบริโภคกันแล้ว

จนถึงวันนี้ ปัญหาน้ำแล้งได้แผ่ขยายส่งผลกระทบต่อพื้นที่รวมทั้งสิ้น 23 จังหวัด (เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี) 139 อำเภอ 714 ตำบล 3 เทศบาล 6,065 หมู่บ้าน/ชุมชน จากข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำให้เกษตรกรไม่มีน้ำในการทำเกษตร ผู้คนในบางพื้นที่ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้

นี่ยังไม่ใช่ปัญหาทั้งหมดที่เราพบจากสถานการณ์ภัยแล้ง เพราะในบางพื้นที่ที่มีน้ำก็ยังประสบปัญหาเรื่องน้ำเช่นกัน พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นพื้นที่ที่เห็นผลกระทบจากสภาวะภัยแล้งชัดเจน แม้ว่าเราจะยังคงเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเต็มฝั่ง แต่ถ้าเราลองตักน้ำขึ้นมาชิมจะพบว่าน้ำที่เราเห็นมันเป็นน้ำกร่อยเค็ม ไม่สามารถนำมาใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ ค่าความเค็มของน้ำในน้ำประปาระยะนี้ยังทำให้ผู้บริโภคเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการได้รับโซเดียมเข้าร่างกายมากกว่าปกติ

อย่างไรก็ดี คงไม่มีใครกล้าตักน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ขึ้นมาชิมกันจริงๆ เพราะนอกจากน้ำเจ้าพระยาจะเค็มเพราะไม่มีน้ำจืดมากพอไปดันน้ำทะเลแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยา ? แม่น้ำท่าจีนตอนล่างยังเป็นพื้นที่ที่มีคุณภาพน้ำย่ำแย่ที่สุดจากการรายงานของกรมควบคุมมลพิษ เพราะน้ำเสียและขยะที่เราปล่อยลงแม่น้ำจากทั้งภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม สร้างความเสื่อมโทรมให้กับระบบนิเวศแม่น้ำ ซึ่งอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายสุขภาพของเราผ่านปลาที่เรากิน อาหารทะเลที่เราชื่นชอบ

ปัญหาเรื่องน้ำจึงเป็นปัญหาเกี่ยวโยงอย่างแยกไม่ออกจากเรื่องสุขภาพของเรา

เนื่องในโอกาสวันน้ำโลกประจำปี พ.ศ.2563 นี้ ซึ่งตรงกับวาระที่ไวรัส COVID-19 ระบาดทั่วโลก และสังคมกำลังให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงสุขภาพจากการติดโรคระบาด สำนักข่าวสิ่งแวดล้อมเห็นด้วย และอยากจะให้กำลังใจทุกๆฝ่ายในการผนึกกำลังกันต่อต้านการระบาดของไวรัส COVID-19

อย่างไรก็ดีเราก็อยากย้ำเตือนทุกคนในสังคมว่า COVID-19 ไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เรากำลังเผชิญ เรายังไม่ผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้ง ที่ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตแอละสุขภาพของประชาชนส่วนมากเช่นกัน ดังนั้นหน่วยงานรัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องจึงยังควรทำหน้าที่ของตนอย่างรอบคอบในการจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อประชาชน โดยคำนึงถึงความต้องการ และสิทธิของประชาฃนที่ได้รับผลกระทบเป็นหลัก และทุกๆคนยังคงต้องตระหนักถึงปัญหาเรื่องน้ำ ใช้น้ำทุกหยดอย่างมีค่า ประหนึ่งที่เรากำลังใช้หน้ากากอนามัย

เราเชื่อว่าด้วยการดำเนินนโยบายในการแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบในทุกๆด้าน และการประสานความร่วมมือกันระหว่างทุกภาคส่วน เราจะสามารถผ่านทั้งวิกฤต COVID-19 และปัญหาภัยแล้งได้อย่างราบรื่น และประเทศไทยจะชนะอย่างแท้จริง


https://greennews.agency/?p=20472

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:47


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger