เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 16-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


ปิดอุทยานให้ธรรมชาติฟื้น ดีแต่ไม่ยั่งยืน นักอนุรักษ์แนะจัดท่องเที่ยวให้เหมาะสม ................. โดย ณิชา เวชพานิช

นักอนุรักษ์ชี้ นโยบายปิดอุทยานนั้นดี แต่ไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน แนะควรจำกัดจำนวนคนและส่งเสริมคุณภาพนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หลังกรมอุทยานฯ ประกาศให้ 133 แห่งทั่วไทยต้องมีช่วงปิดฟื้นฟูธรรมชาติไม่น้อยกว่า 3 เดือนทุกปี ตามแนวคิดใหม่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


ฝูงช้างออกหากิน ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี // ขอบคุณภาพจาก: ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วราวุธ ศิลปอาชา เผยบนเพจเฟซบุ๊กถึงแนวคิดปิดอุทยานแห่งชาติ 133 แห่งทั่วไทย ไม่ต่ำกว่า 3 เดือนทุกปีเพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้น หลังพบทรัพยากรธรรมชาติฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดเพราะปราศจากการรบกวนจากมนุษย์ในช่วงอุทยานปิดเพื่อลดการแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม

นับตั้งแต่กรมอุทยานแห่งชาติ ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ เพจเฟซบุ๊กฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอุทยานต่างๆ ได้เผยภาพและคลิปสัตว์ป่าในพื้นที่ออกหากินอย่างคึกคักอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอุทยานทางบก และอุทยานแห่งชาติทางทะเล เช่น พบฝูงช้างออกหากิน ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และฝูงโลมาปากขวดนับร้อยตัวบริเวณใกล้เกาะบอน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

"แนวคิดนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลร่วมกับนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนการปิดอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งในช่วงเวลาที่เหมาะสม ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป" วราวุธ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวเป็นที่ตั้งคำถามของนักอนุรักษ์หลายรายถึงประสิทธิภาพ ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทางทะเล โพสเฟซบุ๊กว่า เห็นด้วยกับนโยบายปิดอุทยาน แต่จะต้องปฏิบัติด้วยความรอบคอบและครบถ้วน เนื่องจากอุทยานแต่ละแห่งมีลักษณะแตกต่างกัน เช่น บางแห่งมีการปิดอุทยานเป็นธรรมเนียมทุกปีอยู่แล้ว บางแห่งมีนักท่องเที่ยวมาตลอดทั้งปี แต่ละที่มีศักยภาพรับนักท่องเที่ยวได้แตกต่างกัน จึงมีรายละเอียดหลายประการต้องพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทยานทางทะเล ซึ่งจะกระทบกับการท่องเที่ยวอันเป็นรายได้หลักของประเทศ นอกจากนี้ เขาย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำควบคู่คือการจำกัดจำนวนผู้มาเยือนในเวลาหนึ่งไม่ให้มากเกินไป



ฝูงโลมาปากขวดนับร้อยตัวบริเวณใกล้เกาะบอน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน // ขอบคุณภาพจาก: สำนักอุทยานแห่งชาติ ? National Parks of Thailand

อย่างไรก็ดี เอกโชค บูรณอนันต์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมและการศึกษา สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปิดอุทยานจะปิดกั้นการมีส่วนร่วมดูแลธรรมชาติของภาคประชาชน โดยนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นับเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเก็บข้อมูลและเฝ้าดูแลรักษาธรรมชาติ เห็นได้จากเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากเกาะเต่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดให้นักท่องเที่ยวดำน้ำได้หลังการปิดเพราะสถานการณ์โควิด แทนที่จะพบภาพธรรมชาติฟื้นฟู นักดำน้ำกลับพบหลักฐานการลักลอบเข้ามาทำประมงบริเวณกองหินชุมพรช่วงไร้เรือนักท่องเที่ยว พวกเขาพบว่าปลาในบริเวณดังกล่าวหายไปผิดธรรมชาติ พร้อมพบซากลอบปลาและซากอวนในบริเวณ

เอกโชคยังเสริมว่า การปิดอุทยานอาจกระทบวัตถุประสงค์หลักของสถานที่ ซึ่งเป็นการเปิดให้ผู้คนเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ โดยจะกระทบกับการจัดกิจกรรมเดินป่าเรียนรู้ธรรมชาติของนักเรียน ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนเรียนรู้ธรรมชาติจากของจริง

ทางออกที่ยั่งยืนสำหรับการฟื้นฟูธรรมชาติอาจไม่ใช่เพียงการปิดรับนักท่องเที่ยว นัท สุมนเตมีย์ ช่างภาพใต้น้ำ ให้ความเห็นว่า

"ผมว่าสิ่งที่เราควรจะต้องพิจารณามากกว่าคือ อุทยานแห่งชาติในแต่ละที่ได้มีการจัดการ หรือให้ความรู้ในด้านธรรมชาติกับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในเชิงรุกมากกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่"


เจ้าหน้าที่อุทยานให้ความรู้เรื่องไฮยีน่าระหว่างกิจกรรมเดินชมอุทยาน ณ อุทยานแห่งชาติ Zion สหรัฐฯ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ฟรีทุกวัย / สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม / ณิชา เวชพานิช

เขายกตัวอย่างอุทยานในต่างประเทศซึ่งมีการอบรมนักท่องเที่ยวว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร เช่น อุทยานแห่งชาติในสหรัฐฯ บางแห่งที่เป็นถิ่นอาศัยของหมี นักท่องเที่ยวจะต้องเข้าร่วมอบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเวลาอยู่ในป่าก่อนเข้าชม นอกจากนี้อุทยานต่างๆ จะมีกิจกรรมนำโดยเจ้าหน้าที่ให้เลือกเข้าร่วมได้หลากหลายตามความสนใจ เช่น เดินชมอุทยาน ดูนก และถ่ายภาพ เป็นการส่งเสริมความรักและเข้าใจในธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

"จากประสบการณ์ที่ได้ไปอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกมาสิ่งที่ผมพบเห็นอย่างหนึ่งก็คือ การทำสื่อเพื่อสื่อความหมายธรรมชาติของอุทยานไทยนั้นยังทำได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ และเราไม่เคยเน้นในเรื่องของความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ให้กับนักท่องเที่ยวเลย"


https://greennews.agency/?p=21047

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:45


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger