![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
นักดำน้ำเกาะเต่าตาโตพบฉลามวาฬใหญ่ว่ายอวดโฉมที่หินใบ สุราษฎร์ธานี-นักดำน้ำเกาะเต่าตื่นตาตื่นใจพบ"พี่จุด"ฉลามวาฬขนาดใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ 3-4 เมตร ว่ายน้ำเคียงข้างฝูงปลาช่อนทะเลบริเวณ จุดดำน้ำหินใบ เป็นตัวที่สองในรอบปี ![]() ภาพ Ban's Diving Koh Tao เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดดำน้ำหินใบ (Sail Rock)เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็น 1 ในแหล่งดำน้ำที่สวยงามยอดนิยมอยู่ทางทิศใต้ของเกาะเต่ากับเกาะพะงัน ครูสอนดำน้ำแบนส์ไดร์วิ่งเกาะเต่า ได้พบฉลามวาฬ (Whale Shark)ขนาดใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ 3-4 เมตร ว่ายเล่นน้ำอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 18 เมตร โดยมีฝูงปลาช่อนทะเลว่ายเคียงข้างตามสร้างความดีใจและตื่นเต้นให้กับกลุ่มนักดำน้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งฉลามวาฬตัวนี้นักดำน้ำเกาะเต่าตั้งชื่อให้ว่า " พี่จุด " หรือ พี่ฉลามวาฬ เนื่องจากตามลำตัวมีลายจุดจำนวนมาก ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทีมนักดำน้ำเกาะเต่า(KTDT)ลงสำรวจสภาพแนวปะการังได้พบฉลามวาฬ ความยาว 4-6 เมตรที่บริเวณจุดดำน้ำหินเขียว(Green Rock)ที่ระดับความลึก 16.3 เมตร แต่เป็นคนละตัวกับพี่จุด สำหรับจุดดำน้ำหินใบ มีลักษณะเด่นเป็นภูเขาใต้น้ำที่เป็นกองหินโผล่พ้นน้ำสูงประมาณ 15 เมตร มีความลึก 9 ? 30 เมตร เป็นจุดดำน้ำที่มีฝูงปลามากทั้งฝูงปลาข้างเหลือง ปลาหูบาง ปลาสาก ปลาช้าง ส่วนปลาเดี่ยว มีปลาหมอยักษ์ และฉลามวาฬ เข้ามาเยือนบ่อยครั้ง นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การพบฉลามวาฬใหญ่ที่เกาะเต่าไม่ต่ำกว่า 2 ตัว เป็นการยืนยันถึงความสมบูรณ์ทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลเกาะเต่าได้ฟื้นฟูกลับคืนมา ประกอบกับฉลามวาฬ เป็นสัตว์ป่าสงวนทางทะเล 1 ใน 4 ที่ได้รับการประกาศคุ้มครองและมีสถานะใกล้สูญพันธุ์ จึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวช่วยกันดูแลด้วย ข่าวแจ้งว่า ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เรือนักท่องเที่ยวดำน้ำเกาะเต่า ได้พบ " เจ้าแหว่ง " ฉลามวาฬใหญ่ ความยาวประมาณ 4 เมตร มีสัญลักษณ์รอยแหว่งที่หางด้านบน ว่ายน้ำเล่นที่บริเวณจุดดำน้ำกองชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำสวยที่สุดอีกแห่งของเกาะเต่าด้วย https://www.posttoday.com/social/local/625964#cxrecs_s ********************************************************************************************************************************************************* ปลาแซลมอนเป็นพาหะโคโรนาไวรัสหรือไม่? ![]() ภาพ Sockeye salmon จาก US Fish and Wildlife Service มันอยู่ในแซลมอนหรืออยู่ในเขียง? จับตาโควิดรอบใหม่ในปักกิ่ง หลังจากที่มีรายงานข่าวการพบการระบาดกระจุกตัวของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ตลาดอาหารทะเลซินฟาตี้ ในกรุงปักกิ่ง มีการตรวจพบเชื้อไวรัสที่เขียงซึ่งใช้แล่ปลาแซลมอนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เกิดความหวาดกลัวกันในประเทศจีนว่าปลาแซลมอนอาจจะไม่ปลอดภัย เบื้องต้นสาขาซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในจีน เช่น Wumart และ Carrefour ได้สั่งหยุดขายปลาแซลมอนและนำสต็อคออกไปจากคลังสินค้าแล้ว ส่วนหน่วยงานกำกับดูแลการตลาดของปักกิ่งสั่งตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารทั่วเมืองโดยมุ่งเน้นไปที่เนื้อสัตว์ใหญ่ เนื้อสัตว์ปีก และปลา ทั้งแบบสดและแช่แข็งในซูเปอร์มาร์เก็ต คลังสินค้า และบริการจัดเลี้ยง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ดูแลซูเปอร์มาร์เก็ตปักกิ่งกล่าวว่าปลาแซลมอนที่ขายในร้านนั้นนำเข้าจากต่างประเทศหลังจากทราบไวรัสถูกตรวจพบในเขียงของแซลมอนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซูเปอร์มาร์เก็ตจึงเริ่มนำเอาปลาแซลมอนทั้งหมดออกจากร้าน ผู้บริหารอีคอมเมิร์ซอาหารสดเหม่ยถวน (Meituan) ยังกล่าวว่าได้ลบผลิตภัณฑ์ปลาแซลมอนออกทั้งหมดจากแพลตฟอร์มซื้อขายและเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารสด ไม่เพียงเท่านั้นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นจำนวนมากในปักกิ่งที่มีลูกค้าจำนวนมากยกเลิกการจำหน่ายปลาแซลมอนและอาหารที่มีส่วนผสมของแซลมอนอย่างเร่งด่วนและควบคุมการติดเชื้อในร้านอาหารอยา่งเข้มงวดอีกครั้ง การพบเชื้อโรคบนเขียงแล่ปลาแซลมอนทำให้เกิดความวิตกในหมู่ประชาชน แต่ทางการจีนยังไม่เปิดเผยข้อมูลว่าเชื้อมาจากที่ไหนกันแน่โดยบอกเพียงว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ใช่คนในรัฐบาลจีนหลายคนอธิบายชัดว่าโอกาสที่จะติดเชื้อจากเนื้อปลานั้นน้อยมาก 1. สำนักข่าว Sihua Daily News ได้สอบถามจินตงเหยียน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาไวรัสและศาสตราจารย์แพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งกล่าวว่าอาหารทะเลไม่น่าจะเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อ เพราะปลาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีองค์ประกอบทางชีวภาพที่ซับซ้อนเหมือนมนุษย์ และการติดเชื้อไวรัสจากปลาสู่มนุษย์แทบไม่เคยเกิดขึ้น โอกาสที่แซลมอนจะเป็นพาหะนำไวรัสมีอยู่น้อยมาก 2. ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาไวรัสรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CBN ในจีนว่าพาหะของโคโรนาไวรัสใหม่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ส่วนปลาแซลมอนและอาหารทะเลไม่ใช่พาหะและจะไม่ติดไวรัส ดังนั้นไวรัสจะไม่แฝงอยู่ในเนื้อปลา แต่อาจจะติดอยู่บนพื้นผิวได้ 3. นอกจากนี้ยังมีข้อแตกต่างด้านกายภาพระหว่างปลากับมนุษย์อีกอย่างคือ ปลาเป็นสัตว์เลือดเย็นแฃะอุณหภูมิในร่างกายของปลาจะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม ส่วนมนุษย์มีอุณหภูมิคงที่ เป็นเรื่องยากที่ไวรัสจะกระโดดข้ามจากสัตว์ที่มีอุณหภูมิต่างกัน 4. เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมปีนี้ทีมวิจัยของ University College London ตีพิมพ์บทความบนแพลตฟอร์ม bioRxiv เกี่ยวกับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่โดยระบุว่าไวรัสสามารถรวมตัวเข้ากับโปรตีนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ไม่สามารถรวมกับปลา, นก และสัตว์เลื้อยคลานได้ 5. จากการทดสอบโดยนักวิจัยพบว่าในจำนวนปลา 72 ประเภทที่นำมาทดสอบการติดเชื้อ มีเพียงปลานิล (Nile tilapia) เท่านั้นที่มีเงื่อนไขเหมาะที่สุดที่จะติดเชื้อ (แต่ไม่ได้หมายความว่าปลานิลจะเป็นพาหะ) 6. ผู้นำวิจัยสรุปว่า "การคาดการณ์ของเราชี้ให้เห็นว่าในขณะที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนมากมีความไวต่อการติดเชื้อโดย SARS-CoV-2 นก ปลา และสัตว์เลื้อยคลานไม่น่าจะเป็นไปได้" 7. นอกจากนี้ยังมีรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารการประมงแห่งเอเชีย (Asian Fisheries Sciences) ยังชี้ให้เห็นว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อยู่ในวงศ์ Coronaviridae สกุล ?-coronavirus โดยที่ ?-coronavirus นั้นจะติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 8. อีกประเด็นคือโคโรนาไวรัสส่วนใหญ่จะติดเชื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างทำให้เกิดอาการของผู้ป่วยในปอด แต่ปลาส่วนใหญ่ไม่มีปอดดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่จะติดเชื้อไวรัส https://www.posttoday.com/world/625956
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
อวดโฉมโลกใต้ทะเลตะรุเตา ฟื้นเต็มอิ่ม ปิดโควิด-19 ไร้รบกวน สตูล 14 มิ.ย.- โควิด-19 ทำทุกสิ่งอย่างชะงักนานหลายเดือน แต่ดีต่อธรรมชาติได้ฟื้นฟูเต็มที่ ไร้สิ่งรบกวน อุทยานฯ ตะรุเตาลงสำรวจใต้ทะเลพบปะการังสุดสมบูรณ์ อย่างปะการังอ่อน 7 สี ร่องน้ำจาบัง รวมถึงพงไพร นกแก๊กเพิ่มจำนวน ![]() ภาพ : อช.ตะรุเตา นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล เปิดเผยว่า เกาะตะรุเตาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ แต่ช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 ปรากฏว่าทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นตัวสมบูรณ์เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นความงามของผาชะโด ภูเขาป่าทึบ ประชากรนกแก๊กเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปะการังในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาฟื้นฟูเกือบ 100 % ![]() นายกาญจนพันธ์ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ดำน้ำลงสำรวจปะการังพบความสมบูรณ์มากทั้งปะการังอ่อน 7 สี ที่ร่องน้ำจาบัง ซึ่งเป็นปะการังที่สวยงามเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของนักท่องเที่ยว รวมถึงปะการังอีกหลายเกาะ อาทิ เกาะตาลัง อ่าวแม่ม่าย เกาะหินงาม เกาะยาง เกาะอาดัง ส่วนการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ นั้นต้องรอประกาศจากกรมอุทยานฯ ซึ่งอุทยานฯตะรุเตา ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วทั้งบ้านพักและเส้นทางชมธรรมชาติ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวหากเปิดพื้นที่ได้. https://www.mcot.net/viewtna/5ee5c11fe3f8e40af144e15f ********************************************************************************************************************************************************* ยินดี! ประจวบฯ พบเต่าตนุขึ้นวางไข่ครั้งแรกในรอบ 50 ปี ประจวบคีรีขันธ์ 14 มิ.ย.- ชุมชนชายฝั่งแม่รำพึงช่วยกันทำคอกล้อมหลุมไข่เต่าหาดบ้านอ่าวเทียน ป้องกันรบกวนการฟักตัว หลังพบแม่เต่าตนุขึ้นวางไข่เกือบ 100 ฟอง นับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี และเป็นผลจากการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นายปราโมทย์ ชุ่มเชื้อ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชาวประมงพื้นบ้าน และชาวบ้านในชุมชนช่วยกันดูแลกั้นคอกล้อมบริเวณหลุมไข่เต่าชายหาดบ้านอ่าวเทียน ใกล้ท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน เพื่อป้องกันการรบกวน หลังพบว่าแม่เต่าตนุ อายุประมาณ 10 ปี ขึ้นมาวางไข่ 80 ฟอง พร้อมกันนี้ ยังติดป้ายให้ข้อมูลของเต่าตนุ และแนวทางการปฏิบัติ นับจากวันที่แม่เต่าวางไข่เป็นต้นไป จนกว่าลูกเต่าจะฟักตัว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50-55 วัน สำหรับการวางไข่ของเต่าตนุโดยธรรมชาติบริเวณหาดบ้านอ่าวเทียนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี หลังจากชาวบ้านร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. https://www.mcot.net/viewtna/5ee5b30de3f8e40af94569b8 ********************************************************************************************************************************************************* ปิดอ่าวไทยรูปตัว ก. 15 มิ.ย.-15 ส.ค.63 สมุทรสาคร 14 มิ.ย. - เรือประมง จ.สมุทรสาคร ระบุการปิดอ่าวรูปตัว ก. ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ช่วยให้สัตว์น้ำขยายพันธุ์ ยกเว้นปลาทูที่ยังมีปัญหาเรืออวนจมที่อาจทำให้ปลาทูสูญพันธ์ได้ กรณีกรมประมงประกาศปิดอ่าวไทยตอนใน หรืออ่าวไทยรูปตัว ก. ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน-15 สิงหาคม 2563 ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดความยั่งยืน เรือประมงชี้ปิดอ่าวไทยตัว ก. แต่ปลาทูยังอาจสูญพันธุ์ได้ นายศาวงศ์ จุ้ยเจริญ ไต้ก๋งเรือประมงจับปลาทูรายใหญ่ของสมุทรสาคร เปิดเผยว่า การปิดอ่าวจะทำให้สัตว์น้ำต่างๆ เช่น กุ้งหอยปูปลาได้มีโอกาสพักวางไข่ขยายพันธุ์ ยกเว้นปลาทูที่ยังมีปัญหา เนื่องจากยังมีการอนุญาตให้เรือประมงประเภทที่มีเครื่องมือทำลายล้างพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาทู คือเรืออวนจม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เรือช็อต ซึ่งมีขีดความสามารถในการลากถึงหน้าพื้นผิวดินในท้องทะเล จนทำให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาทูที่กำลังวางไข่ถูกจับไปขายด้วย อาทำให้ปลาทูสูญพันธุ์ในอนาคต หากกรมประมงไม่เร่งแก้ไขเรื่องเครื่องมือในการทำประมงประเภทนี้ นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า เป็นห่วงผู้ประกอบการเรือประมงชายฝั่งที่มีขนาดเล็กที่จะต้องออกไปทำการประมงไกลจากฝั่งมากกว่าเดิมคือ15 ไมล์ทะเล ในช่วงที่ปิดอ่าว อาจเกิดอันตรายได้เพราะเป็นเรือเล็ก นอกจากนี้ ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือแก้ไขเรื่องคุณภาพน้ำจากต้นน้ำที่จะลงสู่ปลายน้ำ คือ จากแม่น้ำลงสู่อ่าวตัว ก. ตอนบน ซึ่งคุณภาพของน้ำไม่ดี เช่นในช่วงฤดูฝน เมื่อน้ำลงมาที่อ่าวตัว ก.ตอนบน ทำให้สัตว์น้ำลอยตายเป็นจำนวนมากทุกๆ ปี แม้จะเป็นช่วงปิดอ่าวก็ทำให้การอนุรักษ์พันธุ์ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ มีปัญหาหากไม่มีการแก้ไขเรื่องนี้ควบคู่กับการปิดอ่าว. https://www.mcot.net/viewtna/5ee62a14e3f8e40af9456d0e
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 15-06-2020 เมื่อ 04:42 |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|