เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 03-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


World Wetlands Day เมื่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศคุกคามพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วโลก ............... โดย Supang Chatuchinda

'วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก' ถูกกำหนดขึ้นในทุกๆวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี จริง ๆ แล้วเราเองรู้จักพื้นที่ลักษณะนี้ดีในชื่อภาษาไทยว่า "ป่าชายเลน" "พรุ" "ดอน" นั่นเอง ซึ่งป่าพรุหรือป่าชายเลนเหล่านี้มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในธรรมชาติเพราะเป็นพื้นที่เพื่ออนุบาลสัตว์น้ำตามธรรมชาติ คอยผลิตอาหารให้แก่สัตว์ในระบบนิเวศ ช่วยควบคุมกระแสน้ำในเวลาที่เกิดพายุหรือคลื่นแรงรวมทั้งควบคุมคุณภาพน้ำ


ภาพมุมสูงของพื้นที่ชุ่มน้ำในภูมิภาค Pantanal ในบราซิล ? Markus Mauthe / Greenpeace

พื้นที่ชุ่มน้ำมีบทบาทสำคัญต่อการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศอีกด้วยเพราะพื้นที่อันมีเอกลักษณ์นี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถปรับตัวรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับมาสมบูรณ์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่ง เช่น ป่าชายเลน สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เร็วกว่าป่าฝนเขตร้อนถึง 55 เท่า นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ป่าพรุที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ในดินได้มากถึง 30% ของก๊าซที่ถูกปล่อยออกมาสู่บรรยากาศด้วยพื้นที่เล็กๆเพียง 3% ทั่วโลกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ระบบนิเวศแบบนี้กลับถูกคุกคามและถูกทำลายไปอย่างรวดเร็วกว่าพื้นที่ป่าถึง 3 เท่า แน่นอนว่าความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ดังกล่าวที่เคยมีมากมายก็สูญพันธุ์ตามไปด้วย


สถานการณ์พื้นที่ชุ่มน้ำทั่วโลก

ยกตัวอย่างในปี 2564 ที่ผ่านมา กรีนพีซได้เผยแพร่รายงานสถิติไฟป่าที่ทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำในภูมิภาค Pantanal ของบราซิลไปว่า 1 ใน 3 ของพื้นที่ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมผลิตเนื้อสัตว์ระดับโลก ซึ่งพื้นที่ชุ่มน้ำดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยบริษัทอุตสาหกรรมดังกล่าวผลิตเนื้อสัตว์ให้กับแบรนด์อาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก

นอกจากการทำลายป่าแล้ว จากรายงาน Global Wetland Outlook ฉบับพิเศษปี 2564 ขององค์กร Ramsar Conventions on Wetlands ระบุว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุ่มน้ำเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ เพราะการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล การกัดเซาะชายฝั่งรวมทั้งปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว ทำให้พื้นที่ชุ่มน้ำไม่สามารถทำงานตามคุณสมบัติของตัวเองได้อย่างเต็มที่ (การผลิตอาหาร อนุบาลสัตว์น้ำ และการปกป้องชายฝั่ง)


ไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุ บริเวณอุทยานแห่งชาติ North York Moors National Park สหราชอาณาจักร จากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ? Steve Morgan / Greenpeace

ทั้งนี้ ยังระบุอีกว่าพื้นที่ชุ่มน้ำในทะเลเมดิเตอเรเนียนนั้นมีความเสี่ยงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศสูงมากเพราะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นมากกว่าพื้นที่อื่นๆ 20% สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อน พายุฝน และภัยแล้ง โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2583 อาจมีประชากรที่ต้องอาศัยอยู่กับการขาดแคลนน้ำสะอาดและผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

ในรายงานได้แนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อช่วยชะลอวิกฤตสภาพภูมิอากาศอีกด้วยว่า หากโลกต้องการบรรลุเป้าหมายคงอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกไว้ไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามความตกลงปารีสแล้วก็จะต้องปกป้องไม่ให้พื้นที่ชุ่มน้ำถูกทำลายไปมากกว่านี้ และจะต้องฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำที่เคยถูกทำลายไปก่อนหน้านี้กลับคืนมา 50% ก่อนปี 2573


พื้นที่ชุ่มน้ำอุดมสมบูรณ์ = ความมั่นคงทางอาหาร

การฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำไม่เพียงแต่จะช่วยให้ระบบนิเวศตามธรรมชาติกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง แต่จะช่วยให้เรายังคงมีความมั่นคงทางอาหารและน้ำสำหรับการดำรงชีวิต เพราะมีผู้คนมากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลกที่มีวิถีชีวิตพึ่งพิงพื้นที่ชุ่มน้ำเหล่านี้ หากคิดเป็นมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจแล้วแต่ละปีพื้นที่ชุ่มน้ำได้ให้ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และสุขภาพที่ดี ปลอดภัย แก่มนุษย์ประมาณ 47.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาวะโลกร้อนและอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่มีพรมแดน ในปี 2564 เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วเกิดขึ้นทั่วโลกแทบจะทุกเดือนของปี ตั้งแต่พายุหิมะไปจนถึงน้ำท่วมฉับพลัน สภาพอากาศรุนแรงสุดขั้วนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย และในภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ ไม่มีระบบเศรษฐกิจใดที่มั่นคงยั่งยืน



วิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉยหรือถูกปฏิเสธอีกต่อไป เราเดินทางมาถึงจุดสำคัญของประวัติศาสตร์ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอีกมากมายจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราตัดสินใจทำในวันนี้ เราจะปกป้องสภาพภูมิอากาศได้หากเหล่าผู้นำประเทศดำเนินนโยบายอย่างจริงจังเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้งเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานสู่พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด


https://www.greenpeace.org/thailand/...limate-crisis/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:34


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger