![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ซากสัตว์ทะเลใหญ่เบิ้ม เกยตื้นหาดแอฟริกาใต้-คาดเซ่นใบพัดเรือ ![]() ซากสัตว์ทะเลใหญ่เบิ้ม ? วันที่ 5 เดอะมีร์เรอร์รายงานว่า เกิดเหตุซากสัตว์ทะเลลักษณะคล้ายปลาหมึกขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่หาดลองบีช เมืองโคมาคีย์ ใกล้กรุงเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ที่พบเห็น เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่โดยนายอาลี เพาลัส ที่ถ่ายภาพซากสัตว์ทะเลคล้ายปลาหมึกไว้ได้ โดยสภาพนั้นมีบาดแผลเหวอะหวะเต็มตัว ส่วนลำตัวยาวถึง 2.2 เมตร ไม่รวมหนวดที่พันระโยงระยาง คาดว่าถูกใบพัดเรือปั่น รายงานระบุว่า ปลาหมึกยักษ์นั้นเป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่หาตัวพบยากที่สุดในโลกเนื่องจากพวกมันอาศัยอยู่ที่ระดับความลึก 300 ถึง 1,000 เมตร และมักไม่ขึ้นมาที่ผิวน้ำ การพบซากของพวกมันก็หาได้ยากเช่นกัน โดยครั้งสุดท้ายนั้นมีผู้พบซากปลาหมึกยักษ์ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่ชายหาดกรุงเคปทาวน์ในปี 2563 นายเพาลัสเผยแพร่ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมระบุว่า "ปลาหมึกยักษ์ ลองบีช เมืองโคมาคีย์ มนุษย์เรามีความรู้เกี่ยวกับมันน้อยมาก แล้วก็ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าพวกมันเหลือกันอยู่มากน้อยเพียงใด" "สายพันธุ์ของมันที่ทราบแน่ๆ มีอยู่ 3 สายพันธุ์ แต่ของจริงอาจจะมากกว่านั้น เพราะสามารถพบเจอพวกมันได้ทั่วโลก" และว่า "เจ้าตัวที่น่าสงสารนี้น่าจะถูกใบพัดเรือปั่นเอา" ด้านผู้ที่แสดงความคิดเห็นต่างพากันระบุถึงความน่าตื่นตาตื่นใจและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเจ้าปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ ทั้งนี้ ข้อมูลจากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ระบุว่า ปลาหมึกยักษ์มีขนาดตัวเต็มวัยที่ใหญ่มหึมามาก นับเป็นสิ่งมีชีวิตไม่มีกระดูกสันหลังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_7034063
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
ทุ่งหญ้าทะเลทั่วโลกเปลี่ยนคาร์บอนเป็นน้ำตาลนับล้านตัน เก็บไว้ใต้พื้นมหาสมุทร ![]() ฝูงปลาแหวกว่ายเหนือทุ่งหญ้าทะเล ที่นอกชายฝั่งเกาะอีบิซาของสเปน ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันมักซ์พลังก์เพื่อการศึกษาจุลชีววิทยาทางทะเล (MPIMM) ของเยอรมนี ค้นพบแหล่งกักเก็บน้ำตาลซูโครสปริมาณมหาศาลนับล้านตันใต้พื้นมหาสมุทร โดยน้ำตาลเหล่านี้คือผลผลิตจากการสังเคราะห์ด้วยแสงของหญ้าทะเล รายงานวิจัยข้างต้นซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Ecology & Evolution ระบุว่ากระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงที่มีประสิทธิภาพดียิ่งของทุ่งหญ้าทะเลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่มีแสงอาทิตย์เจิดจ้าเช่นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้คาร์บอนในบรรยากาศถูกดึงมากักเก็บไว้ใต้ทะเลในรูปของน้ำตาลซูโครสจำนวนมาก กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) เป็นกระบวนการสร้างอาหารของพืชสีเขียว โดยมีสารคลอโรฟิลล์ทำหน้าที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ เปลี่ยนวัตถุดิบคือน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้กลายเป็นน้ำตาลและก๊าซออกซิเจน ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยให้หญ้าทะเลดูดซับคาร์บอนและจมมันลงก้นมหาสมุทรในปริมาณมหาศาล นับว่าเป็นผลดีต่อการชะลอภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างมาก ตามปกติแล้วหญ้าทะเลจะปล่อยน้ำตาลที่ผลิตได้ล้นเกินออกทางราก จนซึมลงสู่ใต้พื้นมหาสมุทรทั่วโลกถึง 1.3 ล้านตัน คิดเป็นปริมาณเทียบเท่ากับน้ำตาลที่ใส่ในน้ำอัดลม 32,000 ล้านกระป๋อง ทำให้พื้นมหาสมุทรบริเวณที่มีทุ่งหญ้าทะเลขึ้นอยู่อิ่มด้วยน้ำตาล ซึ่งตรวจวัดได้ว่าเข้มข้นกว่าที่อื่นถึง 80% ![]() นักวิทยาศาสตร์ตรวจหาน้ำตาลและสารเคมีที่หญ้าทะเลผลิตออกมา นอกจากจะผลิตน้ำตาลซูโครสแล้ว หญ้าทะเลยังหลั่งสารจำพวกฟีนอล (Phenol) หรือกรดฟีนอลิกที่พบในกาแฟ ไวน์แดง และผลไม้บางชนิดออกมาด้วย โดยสารนี้จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่จะมากินน้ำตาลซูโครสเป็นอาหารได้ ทีมผู้วิจัยบอกว่า การเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์เป็นน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทุ่งหญ้าทะเลดูดซับกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่าป่าไม้บนบกที่มีขนาดเท่ากันถึง 2 เท่า ทั้งยังดูดซับคาร์บอนได้รวดเร็วกว่า 35 เท่าอีกด้วย ดร. แม็กกี โซกิน หนึ่งในทีมผู้วิจัยบอกว่า "ทุ่งหญ้าทะเลมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมโลกมากมายเกินคาด แต่เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยเมื่อเทียบกับป่าไม้บนบก เราหวังว่าการค้นพบครั้งนี้จะช่วยให้โลกตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทุ่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่ถูกคุกคามทำลายมากที่สุดเช่นกัน" https://www.bbc.com/thai/international-61338241
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|