เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 25-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


น้ำแข็งแอนตาร์กติกตะวันตกละลายเร็วกว่าเดิม 3 เท่า เมืองชายฝั่งเตรียมรับผลกระทบ



ดูเหมือนปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะเริ่มออกฤทธิ์ให้เราได้เห็นกันเรื่อย ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อสัตว์ ผลกระทบต่อมนุษย์ หรือธรรมชาติ และล่าสุดอย่างธารน้ำแข็ง ละลายเร็วกว่าเดิม 3 เท่า ทำน้ำทะเลสูงขึ้น 5 เมตร
งานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่ทาง NATURE CLIMATE CHANGE พบว่า การละลายของชั้นน้ำแข็งในแอนตาร์กติกตะวันตกเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้แล้ว สืบเนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นั่นทำให้ผลกระทบที่ตามมาคือ ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และแม้เราจะช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขนาดไหน ก็จะไม่ทำให้น้ำแข็งละลายช้าลง

การศึกษาดังกล่าวนำทีมโดย Kaitlin Naughten ในการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เราเห็นว่าอัตราการละลายของน้ำแข็งที่ลอยอยู่ในทะเลอามุนด์เซนที่แอนตาร์กติกตะวันตกจะเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่าในช่วงศตวรรษนี้

แม้ว่าโลก จะร่วมกันทำข้อตกลงปารีสในเรื่องการรักษาระดับอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียสก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น แม้เราจะช่วยกันลดความร้อนของโลกลง ณ ตอนนี้ก็ช่วยสถานการณ์นี้ได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ที่จะหยุดน้ำในมหาสมุทรไม่ให้อุ่น จนไปละลายน้ำแข็งที่แอนตาร์กติกตะวันตก

เป็นที่ทราบดีว่า แอนตาร์กติกตะวันตกเป็นภูมิภาคสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และแอนตาร์กติกตะวันตกก็มีปริมาณน้ำแข็งมากเพียงพอที่จะทำให้น้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นกว่า 5.3 เมตร

นอกจากนี้ แอนตาร์กติกตะวันตกยังเป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็ง THWAITES หรือที่รู้จักกันในชื่อ ?ธารน้ำแข็งแห่งวันโลกาวินาศ? เนื่องจากน้ำทะเลที่สูงขึ้นหลายเมตรจากการละลายของธารน้ำแข็ง ทำให้ประเทศแถบชายฝั่งได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง

ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ย่อมมีผลกระทบถึงประเทศไทยด้วย เพราะกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลแค่ 1.5 เมตร หมายความว่า ถ้าระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นถึง 5.3 เมตรจริง กรุงเทพฯ ก็มีโอกาสสูงทีเดียวที่น้ำจะท่วม รวมถึงพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลในส่วนอื่น ๆ ของประเทศไทยด้วย

เท็ด สคัมบอส นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกษาครั้งนี้ กล่าวว่าการค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจก็เพราะ

"ผู้คนในปัจจุบันจะทันได้เห็นอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลที่จะเพิ่มสูงขึ้นในประเทศแถบชายฝั่งทะเลทั่วโลก"

ผู้เชี่ยวชาญอีกหนึ่งท่านที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการศึกษาครั้งนี้คือ TIAGO SEGABINAZZI DOTTO นักวิทยาศาสตร์อาวุโสที่ศูนย์สมุทรแห่งชาติในสหราชอาณาจักร โดยกล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้ควรต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการศึกษาหรือสรุปอะไรออกมา

ทางด้านของ NAUGHTEN และผู้ร่วมศึกษาได้แจ้งว่า เธอเข้าใจว่าการศึกษานี้มีข้อจำกัดอยู่ และการจะทำนายอัตราการละลายในอนาคตของแอนตาร์กติกตะวันตกนั้น เป็นเรื่องซับซ้อนมาก แต่ทาง NAUGHTEN ก็ยังยืนยันว่า 'ขณะนี้การละลายของน้ำแข็งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว'

"คำถามเรื่องความเศร้าและหายนะเป็นสิ่งที่ฉันใช้เวลาครุ่นคิดอยู่มากเหมือนกันกับการศึกษาครั้งนี้ เพราะฉันไม่รู้จะสื่อสารข่าวร้ายนี้ออกไปอย่างไร" NAUGHTEN กล่าว

"ถ้าเป็นวิธีตามขนบ ฉันก็ควรจะต้องให้ความหวังกับผู้คนบ้าง แต่กับเรื่องนี้ฉันไม่เห็นว่าเราจะมีหวังกันได้อย่างไร แต่นี่คือสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกฉัน และฉันต้องบอกให้ทุกคนรู้"

"การละลายของชั้นน้ำแข็งในแอนตาร์กติกตะวันตกถือเป็นผลกระทบหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แล้วเราทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากปรับตัวให้อยู่รอดให้ได้ เพราะถึงยังไง เราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นได้แล้ว" NAUGHTEN กล่าว


https://www.nationtv.tv/gogreen/378934117


******************************************************************************************************


โลกเสี่ยงเดือดหนัก ผลวิจัยเผยโลกปล่อยคาร์บอนเพิ่มขึ้น 1.5% ในปี 66



ต้นเหตุของสภาวะโลกร้อน มนุษยชาติสอบตก เพราะแทนที่โลกจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และลดการปลดปล่อยคาร์บอนลงตามเป้าหมาย 5% แต่กลับพบว่า อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลับสูงขึ้นถึง 1.5% คาดว่าระดับการปล่อยคาร์บอนจะขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลภายในสิ้นปีนี้

สถาบันวิจัยสภาพภูมิอากาศ CICERO ในนอร์เวย์เผย โลกกำลังพลาดเป้าแก้โลกร้อน หลังจากพบว่าอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น 1.5% สวนทางกับแนวทางสู่เป้าหมายความตกลงปารีสที่ในปีนี้เราควรจะต้องลดอัตราการปล่อยคาร์บอนลง 5%


โลกเดินสวนทางแก้วิกฤตโลกเดือด

ผลตรวจการบ้านด้านการแก้ไขวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศออกแล้ว และผลประเมินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอัน เป็นต้นเหตุของสภาวะโลกร้อนในปีนี้ มนุษยชาติสอบตก เพราะแทนที่โลกจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และลดการปลดปล่อยคาร์บอนลงตามเป้าหมาย 5% แต่กลับพบว่า อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลับสูงขึ้นถึง 1.5% และคาดว่าระดับการปล่อยคาร์บอนจะขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลภายในสิ้นปี 2566 นี้

Glen Peters ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสถาบันวิจัยสภาพภูมิอากาศ CICERO ในนอร์เวย์ กล่าวว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีสในการจำกัดภาวะโลกร้อนและหลีกเลี่ยงผลกระทบวิกฤตภูมิอากาศ โลกจำเป็นที่จะต้องลดการปล่อยคาร์บอนลงครึ่งหนึ่งภายในทศวรรษนี้ ดังนั้นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกในปี 2566 ควรจะต้องลดลงประมาณ 5%

อย่างไรก็ตาม จากผลการประเมินโดยทีมวิจัย กลับพบว่า

โลกยังคงอัตราการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ เราจะเห็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นระหว่าง 0.5% - 1.5%

"มีความเป็นไปได้ยากอย่างยิ่งที่เราจะเห็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะลดลงในปี 2566" Peters กล่าว

เขาระบุว่า ผลการประเมินขั้นสุดท้ายจะเปิดเผยระหว่างการประชุมโลกร้อนประจำปี COP28 ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วงปลายปีนี้ เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนให้ประชาคมต้องเร่งเจรจากรอบการแก้ไขปัญหาโลกร้อนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เร็วที่สุด ก่อนที่เราจะพลาดเป้าหมายในการป้องกันวิกฤตสภาพภูมิอากาศตลอดกาล


ทำไมเราต้องรีบลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเร็ว

ก๊าซเรือนกระจกอย่าง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ รวมถึงก๊าซพิษอื่นๆ อันเกิดจากกิจกรรมมนุษย์ ถือเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปรากฎการณ์สภาวะโลกร้อน เพราะก๊าซเหล่านี้พอสะสมตัวมากเข้าในชั้นบรรยากาศ จะทำหน้าที่กักเก็บความร้อนที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์ ไม่ให้กระจายออกสู่อวกาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

จากการประชุมความตกลงโลกร้อน COP21 ที่กรุงปารีส ประชาคมโลกได้ตกลงกันว่า เราจะต้องควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้พุ่งเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับอุณหภูมิเฉลี่ยโลกช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม เพราะนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นจนเกินเกณฑ์ดังกล่าว อาจก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนอันตรายต่อระบบภูมิอากาศโลก นำไปสู่ภัยธรรมชาติร้ายแรงจนอารยธรรมมนุษย์ไม่อาจรับมือไหว

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงทะลุเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส ภายในศตวรรษนี้ กำลังน้อยลงเรื่อยๆ จากการที่โลกยังคงปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นๆ ดังนั้นผลการประเมินชิ้นนี้ จึงอาจเป็น final call ก่อนที่มนุษยชาติจะพลาดเป้าหมายลดโลกร้อน และต้องเผชิญกับพิษการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสุดขั้วในอนาคตอันใกล้


https://www.nationtv.tv/gogreen/378934118

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:17


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger