เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 23-06-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


'โลมาอิรวดี' สัตว์ป่าคุ้มครองแห่งทะเลสาบสงขลา เร่งอนุรักษ์ก่อนสูญพันธุ์


KEY POINTS

- โลมาอิรวดีที่อาศัยในน้ำจืด เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (CR) และในไทย ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

- ในปี พ.ศ. 2565 เหลือเพียง 14 - 20 ตัว ซึ่งโลมาอิรวดีแห่งทะเลสาบสงขลา เป็นเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกมีเพียง 5 ประชากรย่อยเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด

- หากประเทศไทยไม่สามารถอนุรักษ์โลมาอิรวดีกลุ่มนี้ไว้ได้ นับเป็นความสูญเสียในระดับสากลซึ่งเมื่อสูญเสียไปแล้วก็ไม่สามารถทดแทนได้




โลมาอิรวดี นับเป็นสัตว์น้ำหายาก ประเทศไทยถือเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 แห่งของโลก ที่พบโลมาอิรวดี ได้แก่ ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา กลับพบว่าโลมาอิรวดี ตายไปทั้งหมดกว่า 140 ตัว

ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เผยว่า การประเมินสถานภาพประชากรโลมาอิรวดีทั่วโลก จากบัญชีแดงของ IUCN ( IUCN Red List of Threatened Species ) ในปี ค.ศ. 2017 ระบุให้โลมาอิรวดีที่อาศัยในน้ำจืด เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (CR) อีกทั้ง ในประเทศไทยโลมาอิรวดีถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562

ประกอบกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีการศึกษาวิจัย สำรวจและติดตามประชากรโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตอนบน โดยคาดการณ์ว่า จำนวนประชากรโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาก่อนปี พ.ศ. 2534 มีมากกว่า 100 ตัว แต่จำนวนประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในปี พ.ศ. 2565 เหลือเพียง 14 - 20 ตัว ซึ่งโลมาอิรวดีแห่งทะเลสาบสงขลาเป็นเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกมีเพียง 5 ประชากรย่อยเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด

หากประเทศไทยไม่สามารถอนุรักษ์โลมาอิรวดีกลุ่มนี้ไว้ได้ นับเป็นความสูญเสียในระดับสากลซึ่งเมื่อสูญเสียไปแล้วก็ไม่สามารถทดแทนได้ เป็นภาพลักษณ์ที่สะท้อนถึงความอ่อนแอของการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ

ดังนั้น การอนุรักษ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตอนบน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยจะต้องทำควบคู่กับการดูแลวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนประมงพื้นบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบทะเลสาบสงขลา จำนวน 60 ชุมชน เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน


ทั่วโลก มีการค้นพบโลมาอิรวดีในน้ำจืดเพียง 5 แห่ง

1. แม่น้ำอิรวดี ประเทศเมียนมา

2. แม่น้ำโขง ในส่วนที่เป็นประเทศลาวและกัมพูชา

3. แม่น้ำมะหะขาม ประเทศอินโดนีเซีย

4. ทะเลสาบซิลิก้า ประเทศอินเดีย

5. ทะเลสาบสงขลาของประเทศไทย


แผนอนุรักษ์ "โลมาอิรวดี"

ทช. ได้มีการจัดทำ "แผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา" (พ.ศ. 2567 - 2576) วัตถุประสงค์เพื่อลดภัยคุกคามที่เป็นอันตรายต่อโลมาอิรวดีและแหล่งที่อยู่อาศัย ฟื้นฟูความสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลาและเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ รวมถึงการศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาและชีววิทยาของโลมาอิรวดี วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในการเพิ่มประชากรโลมาอิรวดี และเป็นแนวทางการอนุรักษ์โลมาอิรวดีและการเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืน รวมถึง การบริหารจัดการแผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา

แผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ประกอบด้วยตัวชี้วัด 3 ข้อ ได้แก่

1. อัตราการตายของโลมาอิรวดีจากเครื่องมือประมงเป็นศูนย์

2. จำนวนประชากรโลมาอิรวดีเพิ่มขึ้นเป็น 30 ตัว ในระยะเวลา 10 ปี

3. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงมีการลาดตระเวนเชิงคุณภาพครอบคลุมพื้นที่อย่างสม่ำเสมอและระบบฐานข้อมูลการปฏิบัติงานที่ตรวจสอบได้


แผนอนุรักษ์ฯ 5 ปี

สำหรับ แผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลาระยะ 5 ปี เป้าหมายเพื่ออนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลาให้คงอยู่อย่างยั่งยืน (20 ตัวในเวลา 5 ปี) ดังนี้


แผนงานที่ 1 การลดภัยคุกคามที่เป็นอันตรายต่อโลมาอิรวดี และแหล่งที่อยู่อาศัย (3 โครงการ 8 กิจกรรม)

- เป้าหมาย

1. ไม่มีเครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อโลมาอิรวดี ทำการประมงในทะเลสาบ

2. กำหนดเขตพื้นที่คุ้มครอง และพื้นที่หวงห้ามสำหรับอนุรักษ์โลมาอิรวดี

3. ประชาชนในพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลาตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามต่อโลมาอิรวดีและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์


แผนงานที่ 2 การฟื้นฟูความสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลา และการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ (1 โครงการ 1 กิจกรรม)

- เป้าหมาย
เพิ่มปริมาณสัตว์น้ำที่เป็นอาหารของโลมาอิรวดีในแหล่งที่อยู่อาศัย


แผนงานที่ 3 การศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาและชีววิทยาของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา (2 โครงการ 5 กิจกรรม)

- เป้าหมาย

1. ข้อมูลการแพร่กระจายและจำนวนประชากรของโลมาอิรวดีที่เป็นปัจจุบัน

2. เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการตื้นเขินและการลดมลพิษของทะเลสาบสงขลาตอนบน


แผนงานที่ 4 การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประชากรโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา (1 โครงการ 1 กิจกรรม)

- เป้าหมาย
ข้อมูลรูปแบบและความหลากหลายทางพันธุกรรมของโลมาอิรวดี


แผนงานที่ 5 การดำเนินงานอนุรักษ์โลมาอิรวดีและการเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืน (7 โครงการ 17 กิจกรรม)

- เป้าหมาย

1. เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ปฏิบัติงานลาดตระเวน คุ้มครอง เฝ้าระวังเชิงคุณภาพ และช่วยชีวิตโลมาอิรวดีอย่างมีประสิทธิภาพ

2. นายสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการช่วยชีวิตโลมาอิรวดีและสัตว์ทะเลหายาก

3. พัฒนาศูนย์เรียนรู้และช่วยชีวิตโลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลาและสัตว์ทะเลหายาก

4. การอนุรักษ์โลมาอิรวดีและการเสริมสร้างรายได้ของชาวประมงในแต่ละชุมชนรอบทะเลสาบสงขลา

5.การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์โลมาอิรวดีบนพื้นฐานของมิติความเท่าเทียมกันทุกเพศสภาพ (Genderequality)



แผนงานที่ 6 การบริหารจัดการแผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา (1 โครงการ 4 กิจกรรม)

- เป้าหมาย
การบริหารจัดการ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลาในทุกมิติ


สร้างความยั่งยืน

ทั้งนี้ แผนดังกล่าว สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) แห่งสหประชาชาติ ใน 4 เป้าหมาย ได้แก่

เป้าหมายที่ 5 : บรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน

เป้าหมายที่ 10 : ลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ

เป้าหมายที่ 12 : สร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และ

เป้าหมายที่ 14 : อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

อ้างอิง : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


https://www.bangkokbiznews.com/environment/1132574
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 23-06-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


อุทยานฯ โกยเงิน 1.7 พันล้าน ต่างชาติเที่ยวไทย ฮิตสุด "เกาะพีพี"

นักท่องเที่ยวต่างชาติ เที่ยวอุทยานฯเพิ่มขึ้น ทำยอดเงินพุ่ง 8 เดือน กว่า 1.7 พันล้านบาท อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มากสุด "พัชรวาท" สั่งเร่งเพิ่มศักยภาพเร่งพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ย้ำจัดเก็บและใช้จ่ายงบฯ โปร่งใส



วันนี้ (22 มิ.ย.2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่งเพิ่มศักยภาพและพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยการนำเงินอุทยานแห่งชาติที่จัดเก็บได้ ไปใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวให้ได้รับความพึงพอใจต่อการเข้ามาใช้บริการในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเน้นย้ำการจัดเก็บเงินอุทยานฯและใช้จ่ายงบอย่างโปร่งใส

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้เปิดเผยข้อมูลยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ต.2566 ถึงปัจจุบัน (20 มิ.ย.2567) ปรากฏว่ามียอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,785,493,410 บาท ซึ่งเป็นยอดสถิติการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่สามารถจัดเก็บเงินจนแซงหน้ายอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ทั้งปีของปี พ.ศ 2566 ไปแล้ว โดยในปี พ.ศ 2566 จัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติทั้งปีได้จำนวน 1,467,641,971 บาท

จากยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว มีปัจจัยมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม จนทำให้เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ประกอบกับการจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยวชายหาดที่สวยงามของโลก โดยมีเกาะกระดานในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นชายหาดที่มีความสวยงามในระดับโลก จึงส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอื่นๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน โดยอุทยานแห่งชาติที่สามารถจัดเก็บเงินได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 500,866,577 บาท
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 243,655,470 บาท
3. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 127,820,710 บาท
4. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 114,226,610 บาท
5. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 100,545,505 บาท

โดยการจัดเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สามารถจัดเก็บเงินรายได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2566 ถึงปัจจุบัน (วันที่ 20 มิ.ย.2567) สามารถจัดเก็บเงินได้จำนวนทั้งสิ้น 500,279,247 บาท ซึ่งเป็นสถิติการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ที่สามารถจะเก็บเงินจนแซงหน้ายอดการจัดเก็บเงิน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท

โดยยอดการจัดเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ระหว่างเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือน มิ.ย.2566 เป็นจำนวนเงิน 208,572,803 บาท โดยสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่าง พ.ศ. 2566 จำนวน 2,660,308 คน และ พ.ศ. 2567 จำนวน 4,548,762 คน เพิ่มขึ้นถึง 1,888,454 คน หรือคิดเป็น 41.5 %

สำหรับเงินอุทยานแห่งชาติซึ่งจัดเก็บได้ จะถูกนำมาใช้จ่ายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในพื้นที่โซนบริการของอุทยานแห่งชาติ ใช้จ่ายเป็นค่าจ้างให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรในหน่วยงาน ตลอดจนการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติ

สำหรับการพิจารณาใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ โดยมีผู้แทนจากองค์กรภายนอกอันเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสถาบันการศึกษา ตลอดจนองค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่างๆที่อยู่โดยรอบ

อีกทั้งที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการพัฒนาการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติให้เกิดความโปร่งใส ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนส่งผลให้ยอดการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตลอดจนการนำเงินอุทยานฯไปใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน


https://www.thaipbs.or.th/news/content/341297

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:06


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger