![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
ภูเขาน้ำแข็งใหญ่สุดของโลกติดกลางน้ำวน หมุนคว้างไร้ทางออกใกล้แอนตาร์กติกา ............. โดย โจนาธาน เอมอส และ เออร์แวน รีวอลต์ ![]() ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ A23a มีส่วนยอดรูปทรงคล้ายโต๊ะที่แบนราบและยาวจรดขอบฟ้าที่มาของภาพ,Derren Fox/BAS เกิดปรากฏการณ์บางอย่างที่สุดแสนจะเหลือเชื่อขึ้นกับ A23a ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากตอนนี้มันยังคงหมุนคว้างอยู่กับที่ในมหาสมุทรใต้ ตรงบริเวณใกล้ชายฝั่งตอนเหนือของทวีปแอนตาร์กติกามาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยไม่ยอมล่องลอยไปตามกระแสน้ำที่ทรงพลังที่สุดของโลกเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งทั่วไป นักวิทยาศาสตร์บอกว่าภูเขาน้ำแข็งยักษ์ A23a ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่กว่ามหานครลอนดอนและเขตปริมณฑลรวมกันกว่า 2 เท่า ติดอยู่ในวังน้ำวนซึ่งด้านล่างเป็นกระแสน้ำรูปแท่งทรงกระบอกที่หมุนปั่นอย่างรุนแรง ซึ่งนักสมุทรศาสตร์เรียกกระแสน้ำที่ไหลในลักษณะนี้ว่า "แท่งเสาเทย์เลอร์" (Taylor column) ทั้งคาดการณ์ว่าภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่ติดอยู่ในนั้น อาจจะต้องหมุนคว้างอยู่ในตำแหน่งเดิมไปอีกนานหลายปี ศาสตราจารย์มาร์ก แบรนดอน จากมหาวิทยาลัย Open University ของสหราชอาณาจักร บอกกับบีบีซีว่า "ตามปกติแล้วเรามักมองว่า ภูเขาน้ำแข็งคือสิ่งที่คงอยู่เพียงชั่วคราวโดยไม่ยั่งยืนถาวร เพราะมันจะแตกตัวออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วละลายหายไปในที่สุด แต่ดูเหมือนว่าภูเขาน้ำแข็งยักษ์ลูกนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นง่าย ๆ อันที่จริงแล้ว A23a คือภูเขาน้ำแข็งที่ไม่ยอมตาย" ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามบันทึกความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของ A23a โดยละเอียด เริ่มจากตอนที่มันแตกออกเป็นอิสระจากแผ่นน้ำแข็งของชายฝั่งแอนตาร์กติกในปี 1986 ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปทางเหนือ แต่ทว่าไม่นานหลังจากนั้น A23a กลับติดอยู่กับพื้นโคลนเลนของก้นทะเลเวดเดล (Weddell Sea) เป็นเวลานานกว่า 3 ทศวรรษ จนแทบจะเรียกได้ว่ากลายเป็น ?เกาะน้ำแข็ง? ซึ่งตั้งอยู่กับที่อย่างถาวรเหมือนเกาะทั่วไปเลยทีเดียว ต่อมาในปี 2020 ภูเขาน้ำแข็งยักษ์นี้สามารถลอยตัวขึ้นได้อีกครั้ง และเริ่มล่องไปตามกระแสน้ำอย่างช้า ๆ ในตอนแรก ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นโดยมุ่งไปทางทิศเหนือ สู่น่านน้ำที่มีสภาพอากาศและอุณหภูมิของน้ำทะเลอบอุ่นกว่าเดิม เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา A23a ได้เคลื่อนเข้าไปในกระแสน้ำวนขั้วโลกแอนตาร์กติก (ACC) ซึ่งเป็นกระแสน้ำทรงพลังที่เคลื่อนย้ายมวลน้ำทะเลปริมาณมหาศาล คิดเป็นหลายร้อยเท่าของมวลน้ำจากแม่น้ำทุกสายบนโลกรวมกัน กระแสน้ำ ACC ได้เพิ่มแรงขับเคลื่อนให้กับภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่หนักเกือบ 1 ล้านล้านตัน จนดูเหมือนว่ามันกำลังจะแล่นฉิวเข้าไปในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ และใกล้จะเผชิญชะตากรรมเดียวกับภูเขาน้ำแข็งอื่น ๆ ที่ต้องละลายหมดไปในที่สุด แต่ใครจะคาดคิดว่า A23a กลับต้องมาติดแหง็กอยู่กลางมหาสมุทรอีกครั้ง หลังพบเข้ากับกระแสน้ำวนบริเวณทิศเหนือของหมู่เกาะออร์กนีย์ใต้ (South Orkney Islands) วังน้ำวนที่ทรงพลังดังกล่าวทำให้มันหมุนเคว้งอยู่กับที่ โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาไปวันละ 15 องศา ในพิกัดตำแหน่งเดิม และตราบใดที่ยังติดอยู่ในกระแสน้ำวนที่เย็นยะเยือกนี้ ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็จะไม่ละลายหายไปง่าย ๆ แต่อย่างน้อย A23a ก็ไม่ได้ติดแน่นอยู่กับพื้นก้นสมุทรอีกแล้ว เพราะขณะนี้มันลอยอยู่เหนือกระแสน้ำที่หมุนวนเป็นทรงกระบอกลำยาวหลายพันเมตร ซึ่งกระแสน้ำแบบนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1920 โดยเซอร์จอฟฟรีย์ อินแกรม เทย์เลอร์ (G.I.Taylor) นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกสาขาวิชาพลศาสตร์ของไหล (fluid dynamics) เขายังเคยเข้าร่วมในโครงการแมนฮัตตัน เพื่อช่วยสร้างแบบจำลองของความเสถียรในการทดสอบระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก เซอร์เทย์เลอร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อกระแสน้ำเจอเข้ากับสิ่งกีดขวางที่พื้นทะเลในบางสถานการณ์ อาจเกิดการแยกไหลเป็นสองสายจนสามารถสร้างวังน้ำวนที่เหมือนแท่งเสาลำยาว ซึ่งทอดตัวจากผิวน้ำไปจรดก้นมหาสมุทรได้ โดยในกรณีของ A23a นั้น วังน้ำวนที่กักขังมันเอาไว้เกิดจากมูนดินกว้าง 100 กิโลเมตร ชื่อว่า Pirie Bank ที่ขณะนี้กลายเป็นส่วนฐานของมวลน้ำทรงกระบอกที่หมุนปั่นอย่างบ้าคลั่ง ศาสตราจารย์ไมก์ เมเรดิธ จากองค์กรสำรวจแอนตาร์กติกแห่งอังกฤษ (BAS) แสดงความเห็นว่า "มหาสมุทรนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจมากมาย และพลวัตของวังน้ำวนนี้คือสิ่งอัศจรรย์ระดับย่อม ๆ ซึ่งถือว่าน่ารักจุ๋มจิ๋มที่สุดเท่าที่คุณเคยเห็นมา" "ปรากฏการณ์แท่งเสาเทย์เลอร์นั้นเกิดขึ้นในอากาศได้ด้วย โดยจะสังเกตเห็นได้จากการเคลื่อนตัวของกลุ่มเมฆเหนือภูเขา มันอาจมีขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซนติเมตรในแทงก์น้ำของห้องปฏิบัติการ หรืออาจมีขนาดใหญ่ยักษ์จนดักจับภูเขาน้ำแข็งเอาไว้ได้เหมือนในกรณีนี้" ศ. เมเรดิธกล่าว แม้จะไม่มีใครทราบว่า A23a จะยังคงติดอยู่ในวังน้ำวนแห่งนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่ศ. เมเรดิธบอกว่า เขาเคยนำทุ่นลอยน้ำสำหรับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ใส่เข้าไปในแท่งเสาเทย์เลอร์บริเวณทางตะวันออกของมูนดิน Pirie Bank เมื่อ 4 ปีก่อน แต่มันก็ยังคงลอยวนอยู่ตรงจุดเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ กรณีของ A23a จัดว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ในการชี้ให้เราเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสภาพภูมิประเทศที่พื้นก้นสมุทร เนื่องจากภูเขา หุบเหว และบริเวณลาดชันต่าง ๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำ สามารถจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางการไหลและการรวมตัวของกระแสน้ำ รวมทั้งการกระจายสารอาหารที่ขับเคลื่อนกิจกรรมทางชีวภาพในมหาสมุทร นอกจากอิทธิพลที่มีต่อระบบนิเวศในมหาสมุทรแล้ว กระแสน้ำทะเลยังส่งผลต่อระบบภูมิอากาศโลก เนื่องจากการไหลเวียนของมันช่วยกระจายพลังงานความร้อนไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ตามที่ควรจะเป็น การที่เราสามารถให้คำอธิบายต่อพฤติกรรมแปลกประหลาดของ A23a ได้ในครั้งนี้ เป็นเพราะเคยมีการสำรวจพื้นก้นสมุทรบริเวณตอนเหนือของหมู่เกาะออร์กนีย์ใต้มาแล้วเป็นอย่างดี แต่กับน่านน้ำในส่วนอื่น ๆ ของโลกนั้น เคยมีการสำรวจทำแผนที่ด้วยอุปกรณ์อันเหมาะสมและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพียง 1 ใน 4 ของพื้นที่มหาสมุทรทั้งหมด https://www.bbc.com/thai/articles/credd2dqe94o
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|