สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


อ.ธรณ์จี้ ทส. จะเปิดเกาะตาชัยต้องเข้มจริงๆ ไม่งั้นพังอีก อย่าให้ที่ผ่านมาเสียเปล่า



อ.ธรณ์จี้ ทส.จะเปิดเกาะตาชัยต้องเข้มจริงๆ ไม่งั้นพังอีก อย่าให้ที่ผ่านมาเสียเปล่า
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) โพสต์เรื่องการเปิดพื้นที่เกาะตาชัยอีกครั้ง หลังจากปิด เพื่อให้ธรรมชาติรอบเกาะได้รับการฟื้นฟูมาตั้งแต่ปี 2559 โดยระบุว่า

เมื่อวานมีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานทางทะเล มีท่านรองปลัดกระทรวงเป็นประธาน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ #เกาะตาชัย จึงนำมาอัปเดทให้เพื่อนธรณ์ทราบครับ

ขอสรุปความเป็นมาจะได้เข้าใจตรงกัน

เกาะตาชัยอยู่ในอุทยานสิมิลัน ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอันดามัน

อยู่ใต้เกาะสุรินทร์ 33 กม. ห่างจากเกาะแปด สิมิลัน 48 กม. และห่างฝั่งเป็นเส้นตรง 50 กม.

เกาะตาชัยไม่มีคนอยู่ ไม่มีชุมชนในรัศมี 50 กิโลเมตร ยกเว้นชาวมอแกนที่เกาะสุรินทร์ที่คงไม่มาถึงตาชัย

จึงต่างจากเกาะเกือบทั้งหมดในทะเลไทย เพราะที่นี่ไม่มีชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ ไม่มีเรือหางยาวพานักท่องเที่ยวมา ไม่เหมือนเกาะพีพีที่มีคนท้องถิ่นอยู่เกือบพัน

เมื่อกรมอุทยานร่วมกับคณะวนศาสตร์ จัดทำแผนบริหารอุทยานทางทะเล จึงกำหนดให้เกาะตาชัยเป็นเขตสงวน ไม่ใช่พื้นที่ท่องเที่ยวทั่วไป

เพราะนอกจากดงปะการังสีฟ้าที่อยู่ในน้ำตื้น หายากยิ่งในทะเลไทย บนบกยังมีหอยมรกตและปูไก่จำนวนมาก

แต่กระแสการท่องเที่ยวที่บูมมากในช่วงนั้น ทำให้เกาะตาชัยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีคนไปจำนวนมาก ปะการังสีฟ้าเสียหายจากการทิ้งสมอตอนนำเรือเข้าหาด ยังมีน้ำเสียจากการทำอาหาร ฯลฯ

กรมอุทยานจึงประกาศปิดเกาะตาชัย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เพื่อให้โอกาสธรรมชาติฟื้นฟู

การปิดดังกล่าวไม่เกี่ยวอะไรกับการดำน้ำลึกแบบ SCUBA จะเกี่ยวเฉพาะการขึ้นเกาะไปเที่ยว/ดำน้ำตื้น

การสำรวจล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2565 โดยกรมอุทยานและนักวิชาการ พบว่าปะการังฟื้นตัวตามที่เห็นในภาพ หมายถึงที่ปิดมา 6 ปีได้ผล

อย่างไรก็ตาม เกาะตาชัยมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวเช่นกัน จึงมีการนำเสนอความเป็นไปได้ในการเปิดเกาะตาชัยอีกครั้ง ทำให้กรมอุทยานนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการอุทยานทางทะเล

ที่ประชุมตกลงกันว่า เนื่องจากเกาะตาชัยมีทรัพยากรบอบบาง อยู่ในเขตสงวนอุทยาน หากจะตัดสินใจใดๆ จำเป็นต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราจะไม่มีทางปล่อยให้เกิดผลกระทบต่อปะการังโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะปิดมาทำไม

การท่องเที่ยวหากเปิด จำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สอดคล้องกับเขตสงวนรักษาตามที่กรมอุทยานเคยกำหนดไว้


เมื่อเทียบกับอ่าวมาหยา เกาะตาชัยจะพิเศษยิ่งกว่า เพราะมีความแตกต่างกันหลายประการตามที่บอกไว้

หากลองติดตามข้อมูลในต่างประเทศ จะเห็นแหล่งท่องเที่ยวพิเศษแบบนี้หลายแห่ง และมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น อินโดนีเซีย มัลดีฟส์ ฯลฯ

คณะกรรมการจึงเสนอกรมอุทยาน ให้จัดทำการศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุด

จึงมารายงานให้เพื่อนธรณ์ทราบเรื่องเกาะตาชัย มีความคืบหน้าเมื่อไหร่ จะมาเล่าให้ฟังเป็นระยะ

ตอนนี้อมยิ้มดูภาพปะการังสีฟ้าที่ฟื้นตัวเยอะแยะไปก่อนนะครับ


https://www.matichon.co.th/social/news_3501740