#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำได้เคลื่อนไปปกคลุมเกาะสุมาตรา ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 13 - 16 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในวันที่ 17 - 18 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวต่อเนื่องกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
นักวิทยาศาสตร์พบปลาออร์ฟิชลอยตาย เจอขยะในท้องแม้อาศัยในน้ำลึกกว่า 1,000 เมตร ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล เผยหลังนักวิทยาศาสตร์พบปลาออร์ฟิชที่อาศัยในน้ำลึกกว่า 1,000 เมตรลอยตาย และยังพบมีขยะในท้องเพียบ วันนี้ (12 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความ หลังนักวิทยาศาสตร์พบปลาออร์ฟิชที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกกว่า 1,000 เมตร ลอยตายและพบขยะในท้องเป็นจำนวนมาก ผู้โพสต์ระบุว่า "oarfish เป็นปลาน้ำลึก ส่วนใหญ่อยู่ที่ 1,000 เมตร บริเวณนั้นไม่มีกระแสน้ำ ออร์ฟิชจึงเติบโตจนยาวหลายเมตร คนไทยบางครั้งเรียกปลาพญานาค เพราะเคยมีภาพนำมาบอกว่าเป็นพญานาคจากแม่น้ำโขง (ภาพทหารอเมริกันอุ้มปลา) ปรกติออร์ฟิชไม่พบในที่ตื้น นานทีอาจหลุดมาแต่ตายอย่างเร็วเพราะกล้ามเนื้อมีน้อยมาก ทนกระแสน้ำคลื่นลมในที่ตื้นไม่ได้ บางทีมีออร์ฟิชขึ้นมาชายฝั่ง คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นปลาบอกแผ่นดินไหว เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลลึก เกิดคลื่นกระแทกทำให้ออร์ฟิชที่ทนแรงน้ำไม่ได้ จะอ่อนแอและลอยขึ้นมา แต่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป หลายหนก็ไม่ใช่ อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น เช่นออร์ฟิชตัวนี้ขึ้นมาดิ้นรนอยู่พักใหญ่ก่อนตาย นักวิทยาศาสตร์พบว่ามีขยะอยู่ในท้องตามภาพ ขยะทะเลจะทำให้ปลาตายหรือไม่? คงไม่มีใครบอกได้ แต่ที่บอกได้แน่คือปลาที่อยู่ลึกพันเมตร ยังกินขยะเข้าไปในท้องมากมาย หมายความว่าจะลึกแค่ไหน ขยะจากมนุษย์ก็ลงไปถึง และทำร้ายสรรพสัตว์ในโลกที่ไม่มีแม้มนุษย์อยู่อาศัย ทุกวัน ปลาน้ำลึกกำลังกินขยะที่เกิดจากความรับผิดชอบของเรา?ที่มีไม่พอ ในอีกไม่นาน คงมีปลาตัวต่อไปและต่อไป ลอยขึ้นมาทำให้เป็นข่าว ทำให้ผู้คนตื่นตกใจจะมีแผ่นดินไหว มีภัยพิบัติหรือไม่? ทั้งที่แท้จริงอาจไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ต้นเหตุอาจอยู่ในท้องปลา อาจมีที่มาจากมือของเราความรับผิดชอบของเรา https://mgronline.com/onlinesection/.../9650000117866 ****************************************************************************************************** สีสันวิถีชาวเลเสี่ยงฝ่าคลื่นลมแรง จับปูม้าขายได้ราคาดี กก.ละ 320 บาท วันเดียวได้นับหมื่น ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐ อ.เมืองสงขลา เสี่ยงฝ่าคลื่นลมแรงออกไปเก็บอวนปูม้ากลางทะเลที่วางทิ้งไว้ 3 วันกลับเข้าฝั่ง เพราะต้องการปูม้าตัวเป็นๆ ถึงจะขายได้ราคาดี กก.ละ 320 บาท บางรายจับได้วันเดียว 30 กก. ขายได้เกือบ 1 หมื่นบาทคุ้มค่าเสี่ยง ที่ จ.สงขลา แม้ว่าขณะนี้สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทย บริเวณชายฝั่งของ จ.สงขลา ยังต้องเผชิญกับภาวะคลื่นลมแรง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านส่วนใหญ่หยุดออกเรือชั่วคราว แต่ก็ยังมีชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนที่ยอมฝ่าคลื่นลมแรงออกไปจับปูม้า เพราะราคาดีกิโลกรัมละ 320 บาท เช่น ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนชาวเลของ จ.สงขลา โดยเรือประมงพื้นบ้านหลายลำได้ฝ่าคลื่นลมแรงเพื่อออกไปเก็บอวนปูม้ากลางทะเล ซึ่งวางทิ้งไว้หลายวันแล้ว แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับภาวะคลื่นลมแรง และอาจซัดเรือจมได้ แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพราะราคาปูม้าดีมากกิโลกรัมละ 320 บาท และต้องจับมาเป็นๆ ถึงจะขายได้ราคา หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐที่ฝ่าคลื่นลมแรงออกไปเก็บอวนปูม้า คือนายชามิล หนุดทอง วัย 33 ปี ได้เสี่ยงนำเรือคู่ชีพ ?ชามิล บารอกัต? ฝ่าคลื่นลมแรงพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ออกไปเก็บอวนปู 50 ผืน ความยาว 3.5 กิโลเมตรกลับเข้าฝั่ง และบอกว่าหวิดโดนคลื่นซัดเรือจม เพราะคลื่นลมแรง แต่ก็สามารถนำเรือกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นก็ต้องมาปลดปูออกจากอวนบนเรือ โดยต้องไม่ให้ปูตาย เพราะปูเป็นๆ ขายได้ราคาดีอยู่ที่กิโลกรัมละ 320 บาท ซึ่งวันนี้วันเดียวสามารถจับปูม้าได้ 30 กิโลกรัม ขายได้เกือบ 1 หมื่นบาท คุ้มค่าที่ได้เสี่ยง โดยนำส่งให้กับแพปลาที่เป็นเอเยนต์รับซื้อสัตว์น้ำของชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐ เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าต่อไป ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้รายงานสภาพอากาศในวันนี้ (12 ธ.ค.) ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังปานกลาง บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝน หรือฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ขอให้ประชาชนยังคงระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงมา https://mgronline.com/south/detail/9650000117962
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|