#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 15 - 16 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 20 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 6 - 8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และอันตรายที่อาจเกิดจากลมแรง และขอให้ประชาชนภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก
แชร์สนั่นเตือนภัย ไทยจะเกิด "สึนามิ" ครั้งใหญ่ งานนี้ อุตุฯ ตอบแล้ว โลกโซเชียลแห่แชร์ข้อมูลเตือนภัยสนั่น เรื่องไทยจะเกิด "สึนามิ" ครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวภูเขาไฟปะทุให้รีบหนีทันที ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาออกมาให้คำตอบแล้ว ตามที่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องไทยจะเกิด "สึนามิ" ครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวภูเขาไฟปะทุให้รีบหนีทันที ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้ให้ข้อมูลโดยระบุว่าไทยจะเกิดสึนามิครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวภูเขาไฟปะทุให้รีบหนีทันที ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา "สึนามิ" สามารถเกิดได้จากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดแต่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ทำได้เพียงแจ้งเตือนเวลาที่คลื่นสึนามิจะเคลื่อนมาถึงภายหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดเท่านั้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน (10 ธันวาคม 2565) จากการตรวจสอบไม่พบการแจ้งเตือนสึนามิจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟจากหน่วยงานภายในประเทศและหน่วยงานต่างประเทศแต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูล "สึนามิ" ดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อมิให้เกิดความสับสน และตื่นตระหนกขึ้นในสังคม หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th โทรสายด่วน 1182 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : จากการตรวจสอบไม่พบการแจ้งเตือนสึนามิจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟจากหน่วยงานภายในประเทศและหน่วยงานต่างประเทศแต่อย่างใด https://www.komchadluek.net/hot-social/538732
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
นักวิจัยเตือนน้ำแข็งอาร์กติกละลายไว กระทบระบบนิเวศน์ นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยรายงานประจำปีของทวีปอาร์กติก เมื่อวันอังคาร (13 ธ.ค.)ว่า น้ำในทวีปอาร์กติกเริ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ระบบนิเวศน์ที่อ่อนไหวง่าย และชุมชนในท้องถิ่นมีความเสี่ยงมากขึ้น สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานผลการศึกษาของนักวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เกี่ยวกับอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งในทะเลละลาย, ช่วงหิมะตกลดลง,ไฟป่าเพิ่มขึ้น และระดับความเสี่ยงของฝนตก ทำให้สัตว์ป่า และชนพื้นเมืองในภูมิภาคอาร์กติกต้องปรับตัว โดยปีนี้ ถือเป็นปีที่ทวีปอาร์กติกมีสถิติอุณหภูมิร้อนสูงสุดเป็นอันดับที่ 6 จากที่เคยบันทึกสถิติมา ยกตัวอย่างเช่น เกิดคลื่นความร้อนในกรีนแลนด์เมื่อเดือนก.ย. ทำให้น้ำแข็งละลายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงยังทำให้เกิดฤดูร้อนที่ยาวนานขึ้นในกรีนแลนด์ และเร่งให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่า การขนส่งทางเรือเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากน้ำแข็งอาร์กติกลดลง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการเดินเรือขนส่งจากทะเลแปซิฟิกผ่าน ช่องแคบแบริ่ง และทะเลโบฟอร์ต การจราจรทางเรือที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่ช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในเส้นทางการค้าใหม่ แต่อาจทำลายระบบนิเวศน์ และชุมชนต่างๆ ในอาร์กติกด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่า ในปี 2578 เส้นทางทะเลอาร์กติกอาจปราศจากน้ำแข็งในช่วงฤดูร้อน ทั้งยังเตือนว่าหยาดน้ำฟ้าในอาร์กติกเพิ่มขึ้นในทุกฤดู และฤดูกาลกำลังเปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงต่างๆ นี้ จะกระทบกับชีวิตผู้คน สัตว์ และพืชที่ปกติต้องอาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น และแห้งแล้ง ทั้งนี้ อาร์กติกเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบ 4 เท่าของอุณหภูมิทั่วโลก หากระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1 ฟุต อาจกระทบต่อชุมชนตามชายฝั่งเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อาจทำให้ประชาชนไม่มีที่อยู่กว่า 200 ล้านคน ในช่วงปลายทศวรรษนี้ https://www.bangkokbiznews.com/world/1042937
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|