เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 09-07-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


อึ้ง! น้ำแข็งในแอนตาร์กติกาละลายหายไปกว่า 2.6 ล้าน ตร.กม. หรือมากกว่าไทยอินโดนีเซียรวมกัน



NOAA รายงานเกี่ยวกับความผิดปกติของปริมาณน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาน้ำแข็งในขั้วโลกใต้มีปริมาณขอบเขตต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกาหายไปมากกว่า 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหว The National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) หรือ หน่วยงานด้านชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรศาสตร์ รายงานเกี่ยวกับความผิดปกติของปริมาณน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาน้ำแข็งในขั้วโลกใต้มีปริมาณขอบเขตต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

โดยน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกาหายไปมากกว่า 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร หรือเทียบเท่าพื้นที่มากกว่าครึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


รายงานของ NOAA ยังเผยอีกว่า

นักวิทยาศาสตร์วิตกกังวล เกี่ยวกับการละลายของน้ำแข็งในขั้วโลกใต้เป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ช่วงนี้เป็นช่วงของการเติบโตของน้ำแข็งซึ่งจะเริ่มขยายตัวจนถึงขีดสุด 18.4 ล้านตารางกิโลเมตรในช่วงกลางเดือนกันยายน แต่ปริมาณน้ำแข็งมันหายไปในปริมาณมหาศาล

นี่อาจเป็นสัญญาณบางอย่างจากโลกหรือเปล่า?

หน่วยงานด้านชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรศาสตร์ หรือ NOAA เผยถึงปริมาณน้ำแข็งในขั้วโลกใต้หายไปมากมหาศาลถึง 1 ล้านตารางไมล์ หรือ 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร เทียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือมากกว่าประไทยและอินโดเซียรวมกันเสียอีก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 1981-2010

นักวิทยาศาสตร์กังวลว่า นี่อาจเป็นสัญญาณของภาวะโลกรวน ซึ่งถือว่าปรากฎการณ์นี้ผิดปกติเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วงเวลานี้ทวีปแอนตาร์กติกาเป็นฤดูหนาวเป็นช่วงที่มีการสะสมของน้ำแข็งในปริมาณมาก แต่กลับกลายเป็นว่าปริมาณน้ำแข็งมันหายไปอย่างน่าตกใจ

จากพฤติกรรมอันไม่ปกติของน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ การสูญเสียน้ำแข็งในขั้วโลกใต้อย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อลักษณะภูมิประเทศของทวีปแอนตาร์กติก ระบบนิเวศบริเวณขั้วโลกใต้ รวมถึงส่งผลกระทบกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ยังต้องทำการศึกษาภูมิภาคนี้อีกมาก เนื่องจากขั้วโลกใต้อยู่ห่างไกลทำให้งานศึกษาวิจัยยังมีไม่มากนัก


https://www.nationtv.tv/gogreen/378922524


******************************************************************************************************


สุดทึ่ง สภาวะโลกรวน ส่งผลกระทบอาหารทะเลกว่า 90% บนโลกหายไป



จับตา กระแสร้อน จากสภาวะโลกรวนกำลังจะทำให้อาหารทะเลกว่า 90% บนโลกหายไป วารสาร Nature Sustainability เผยผลกระทบปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ำทะเลที่สูงขึ้นตามระดับอุณหภูมิโลก ฝนตกไม่ตรงตามฤดูทำให้แหล่งอาหารที่สำคัญเริ่มลดลง

ล่าสุด วารสาร Nature Sustainability นำเสนอผลการศึกษาโดยระบุว่า ผลกระทบจากปัญหาทางสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นตามระดับอุณหภูมิโลก ความเป็นกรดที่เพิ่มขึ้นในทะเล ฝนตกไม่ตรงตามฤดู สาหร่ายบูม รวมถึงมลพิษจากสารปรอท ยาฆ่าแมลง และยาปฏิชีวนะ

สิ่งดังกล่าวเหล่านี้ล้วนทำให้แหล่งอาหารที่สำคัญเริ่มลดลงแล้ว โดยผู้ผลิตชั้นนำอย่างจีน นอร์เวย์ และสหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุด

สำหรับ Blue food หรือแหล่งอาหารของมนุษย์ที่จะได้รับผลกระทบนั้น หมายรวมถึงปลาทะเลกว่า 2,190 สายพันธุ์ สัตว์ชนิดมีเปลือกอย่างกุ้งและหอย พืชใต้น้ำและสาหร่ายทะเล

รวมถึง ปลาน้ำจืด ที่เลี้ยงในฟาร์มกว่า 540 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญนี้คอยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนบนโลกกว่า 3.2 พันล้านคน โดยนอกจากปัญหาที่กล่าวมา การประมงที่มากเกินไปยังทำลายระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คุณภาพและปริมาณอาหารลดลงอีกด้วย


ทางด้าน Rebecca Short นักวิจัยได้แสดงความคิดเห็นว่า

แม้ว่าประเทศทั่วโลกจะมีความพยายามแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ในด้านการปกป้องแหล่งอาหารนั้น ยังด้อยพัฒนาและจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ งานวิจัยยังเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า

สภาวะโลกรวน ส่งผลกระทบให้ อาหารทะเลกว่า 90% บนโลกกำลังจะหายไป เรื่องดังกล่าวนี้บรรดาประเทศที่จะได้รับผลกระทบก่อนใคร คือประเทศที่พึ่งพาอาหารทะเลเป็นหลัก อย่างเช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เวียดนาม และประเทศเกาะเล็กๆ

โดยยังมีความหวังว่าการร่างสนธิสัญญาทะเลหลวงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จะช่วยกระตุ้นให้แต่ละประเทศสมาชิกพูดคุยกันเรื่องนี้มากขึ้น

ทางด้าน หลิง เฉา ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเซียะเหมินของจีน ผู้ร่วมเขียนรายงาน กล่าวว่า

ความเปราะบางที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์ชักนำ ทำให้การผลิตอาหารทะเลอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก

จากความต้องการของมนุษย์ที่ไม่สิ้นสุด อาทิ กรณีที่ ประเทศนาอูรู พยายามจะทำเหมืองในมหาสมุทรเพื่อเก็บแร่เหล็ก หรือกรณีประเทศนอร์เวย์ ที่มีโครงการจะทำเหมืองใต้ทะเลเช่นกัน ทำให้นักสิ่งแวดล้อมได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งว่ามันจะสร้างความเสียหายให้กับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอย่างมหาศาล โดยนักวิทยาศาสตร์หลายคนก็พยายามเตือนรัฐบาลให้คิดดทบทวนก่อนจะทำเหมืองเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น


https://www.nationtv.tv/gogreen/378922552

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:29


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger