![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
บางอย่างอยู่ในน้ำ ทำไมเราชอบหนังฉลาม ........... โดย ชาร์ลอตต์ กัลลาเกอร์ ผู้สื่อข่าววัฒนธรรม บีบีซีนิวส์ ![]() คำบรรยายภาพ,หลงอยู่กลางทะเล: ฉากหนึ่งจาก Something in the Water หนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลามที่เพิ่งออกฉาย / STUDIOCANAL จากภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง Jaws (จอวส์) ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก สู่ภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลามที่ออกล่าเหยื่อในแม่น้ำแซนใน Under Paris (ชื่อไทย - มฤตยูใต้ปารีส) มีภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลามมากมายให้เลือกรับชม ฮอลลีวูดและคอหนังต่างชื่นชอบภาพยนตร์เหล่านี้ และดูเหมือนจะไม่เคยเบื่อกับความระทึกขวัญ เลือดสาด และความสยอดสยอง มีฉลามยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในภาพยนตร์เรื่อง The Meg (ชื่อไทย - โคตรหลามพันล้านปี) ฉลามที่ดัดแปลงพันธุกรรมในเรื่อง Deep Blue Sea (ชื่อไทย - ฝูงมฤตยูใต้มหาสมุทร) และฉลามที่เสพโคเคนในภาพยนตร์ชื่อ Cocaine Shark (โคเคนชาร์ค) แม้แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังเป็นแฟนตัวยงของหนังฉลาม เพราะเขาเคยรับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในภาพยนตร์เรื่อง Sharknado (ชื่อไทย ? ฝูงฉลามทอร์นาโด) ก่อนจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จริง ๆ ผู้เขียนสนใจภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลามมาตลอดชีวิต หลังจากได้ชม Thunderball (ธันเดอร์บอลล์ 007) ซึ่งเป็นหนี่งในภาพยนตร์ชุด เจมส์ บอนด์ ซึ่งผู้ร้ายได้เลี้ยงฉลามไว้ในสระว่ายน้ำ ทำให้ผู้เขียนเกิดความกลัวสระว่ายน้ำอย่างไม่มีเหตุผล แม้กระทั่งสระน้ำที่เต็มไปด้วยคลอรีนในศูนย์นันทนาการ หนังฉลามเรื่องใหม่ Something in the Water (ชื่อไทย - ครีบขย้ำคลั่งสมุทร) บอกเล่าเรื่องราวของแก๊งเพื่อนสาวที่รวมตัวจัดทริปปาร์ตี้สละโสดก่อนไปติดอยู่ในท้องทะเล มี เฮลีย์ อีสตัน สตรีท ผู้กำกับชาวอังกฤษอยู่เบื้องหลัง ในฐานะแฟนตัวยงของภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลามว่า เธอ "อยาก" สร้างหนังเรื่องนี้มาก ภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลามได้รับความนิยมมากขนาดนั้นเลยหรือ "ความกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่ไม่รู้จักใน [ท้องทะเล]" เธอบอกกับบีบีซีนิวส์ "ลำพังการติดอยู่กลางมหาสมุทรก็น่ากลัวแล้ว เพราะคุณกำลังติดอยู่ในโลกของสิ่งอื่น อะไรก็เกิดขึ้นได้" ซูซาน ยัง นักจิตวิทยาทางนิติเวชศาสตร์ เห็นด้วยว่า ความกลัว "สิ่งที่ไม่รู้จัก การอยู่คนเดียว และไร้ทางสู้" เป็นสิ่งที่มีพลังมาก เธอบอกว่า การชมภาพยนตร์ฉลามที่น่ากลัวในบ้านหรือในโรงภาพยนตร์ "ช่วยให้คุณเผชิญหน้ากับความกลัวได้โดยปราศจากอันตรายที่เกิดขึ้นจริง และปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและควบคุมได้" ศาสตราจารย์ยังกล่าวเสริมว่า "นั่นหมายความว่าผู้คนสามารถเผชิญหน้ากับขอบเขตของพฤติกรรมมนุษย์ได้ และด้วยการชมเนื้อหาที่รุนแรง พวกเขากำลังทดสอบขีดจำกัดและขอบเขตของตนเอง... และการปลดปล่อยอารมณ์ดังกล่าวเป็นรูปแบบหนึ่งของการชำระล้างจิตใจ" เธออธิบายว่า ทฤษฎีของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ใช้ได้ "จากมุมมองทางจิต ภาพยนตร์เหล่านี้ช่วยกระตุ้นความกลัวและความปรารถนาในจิตใต้สำนึก และเป็นทางออกที่ปลอดภัยสำหรับการสำรวจอารมณ์และสัญชาตญาณที่ถูกกดขี่ เช่น ความก้าวร้าว และการกลัวความตาย" "เราผูกครีบไว้กับนักดำน้ำ" การทำให้ฉลามในฮอลลีวูดดูเหมือนของจริงนั้นถือเป็นสิ่งท้าทาย การสร้าง Jaws ประสบปัญหา เนื่องจากฉลามขาวทำงานผิดปกติ ฉลามตัวหนึ่งจมน้ำและถูกกัดกร่อนโดยเกลือของมหาสมุทร นักแสดงนำต้องนั่งคอยเป็นเวลานานเพื่อรอให้ฉลามตัวประกอบซ่อมเสร็จ สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับ Jaws บอกกับรายการ Desert Island Discs ของบีบีซีในปี 2022 ว่า ความล้มเหลวครั้งนี้ทำให้ได้ "ภาพยนตร์ที่ดีกว่ามาก" เพราะเขาต้อง "คิดหาวิธีสร้างความตื่นเต้นและสยองขวัญโดยไม่ต้องเห็นฉลาม" "โชคดีจริง ๆ ที่ฉลามยังถูกกร่อนจนแหลกสลายอยู่เรื่อย ๆ" เขากล่าว "เป็นโชคดีของผม และผมคิดว่าเป็นโชคดีของผู้ชมด้วยเช่นกัน เพราะผมคิดว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่ดูน่ากลัวกว่า โดยไม่ต้องเห็นฉลามมากเกินไป" สตรีท กล่าวว่า พวกเขาทำงานด้วยงบประมาณที่จำกัดในการถ่ายทำ Something in the Water ดังนั้นทีมงานจึงคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่ชาญฉลาดขึ้นมา "เราทำครีบฉลามเสือ" เธอเล่า "เรามีนักดำน้ำที่เก่งกาจมากชื่อ แบปติสต์ ซึ่งสามารถกลั้นหายใจได้นานมาก ดังนั้นเราจึงติดครีบนี้ไว้กับเขาและให้สกู๊ตเตอร์ใต้น้ำ ซึ่งเขาสามารถขี่ได้เร็วพอ ๆ กับฉลาม "มันยอดเยี่ยมมาก เพราะว่านักแสดงมีครีบฉลามติดกับตัว ทำให้พวกเขารู้สึกว่าจะเป็นอย่างไรหากมีฉลามวนอยู่รอบ ๆ ตัว" ถึงแม้ สตรีท จะชอบหนังเกี่ยวกับฉลาม แต่เธอก็ไม่อยากให้หนังของเธอถูกพรรณนาว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องทางทะเล "เราฆ่าฉลาม 100 ล้านตัวทุกปี" เธอกล่าว ผู้กำกับรายนี้ตระหนักดีว่า การออกฉายของ Jaws นำไปสู่สถิติการล่าฉลามที่พุ่งสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉลามถูกบรรยายว่าเป็นนักฆ่าที่โหดร้าย "แม้ว่าฉันจะรักหนังเกี่ยวกับฉลามมาก แต่ฉันก็รักฉลาม ฉันตระหนักดีถึงเรื่องนั้น เพราะผู้คนเริ่มมองว่าฉลามเป็นเครื่องจักรสังหาร... หรือสัตว์ประหลาด ซึ่งมันไม่ใช่" เธอกล่าวและว่า "ฉันรู้สึกว่าการสร้างภาพยนตร์ที่เน้นความสมจริงนั้นน่ากลัวกว่า เพราะถ้าคุณอยู่ในมหาสมุทรและมีฉลามอยู่ และพวกมันเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นอย่างอื่น พวกมันจะฆ่าคุณ" แม้ว่า Jaws จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ สปีลเบิร์ก กล่าวว่าเขา "เสียใจจริง ๆ ที่ประชากรฉลามลดลงเพราะหนังสือและภาพยนตร์... ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ" "ปัญหาใหญ่สำหรับการอนุรักษ์" สปีลเบิร์ก ไม่ใช่คนเดียวที่กังวลเกี่ยวกับการนำเสนอพล็อตหนังฉลามของฮอลลีวูดและผลกระทบที่ยังคงมีอยู่ แอนเดรียนา ฟรากอลา นักชีววิทยาทางทะเลของสหรัฐฯ ทุ่มเทให้กับการให้ความรู้เกี่ยวกับฉลามแก่ผู้คนทั่วไป ด้วยการแบ่งปันวิดีโอการดำน้ำของเธอให้พวกมันดู เธอบอกว่า ฉลามเป็น "นักล่าที่ถูกเข้าใจผิด" และได้รับอันตรายจากภาพยนตร์และสื่อ แอนเดรียนา กล่าวว่า เธอเพิ่งชมภาพยนตร์ฉลามเรื่องใหม่ของ Netflix เรื่อง Under Paris และรู้สึกไม่ประทับใจเลย "พวกเขาสนใจแต่การอนุรักษ์และศึกษาฉลาม แต่ยังไงฉลามก็ยังคงกินคนอยู่ดี" "ดังนั้นเรื่องราวจึงมีความรอบรู้มากขึ้นเล็กน้อยและมีความลึกซึ้งมากขึ้น ไม่ใช่แค่คนว่ายน้ำที่ชายหาดแล้วถูกโจมตีและกิน แต่ประเด็นสำคัญและสิ่งที่ผู้คนสามารถดึงมาจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คือฉลามยังคงเป็นอันตรายต่อผู้คนจริง ๆ และจะล่าและกินคนต่อไปอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เราก็คงลดบทบาทลงในฐานะมนุษย์ ทุกคนที่ไปเที่ยวชายหาดก็จะถูกคุกคาม" ซาเวียร์ เจนส์ ผู้กำกับและผู้เขียนบทร่วมของ Under Paris กล่าวว่า เขาเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย เขาบอกกับ The Hollywood Reporter ว่า แม้ฉลามจะเป็นตัวอันตรายใน Jaws แต่เขาต้องการ "เน้นย้ำถึงอันตรายจากความโลภของมนุษย์" ในภาพยนตร์ของเขา อันเดรียนา กล่าวว่า การรับรู้เกี่ยวกับฉลามเป็นปัญหาที่แท้จริงสำหรับการอนุรักษ์ "มันเป็นปัญหาใหญ่เพราะผู้คนไม่อยากปกป้องสิ่งที่พวกเขากลัว" เธอกล่าวว่า สิ่งที่ผู้คนรับรู้คือฉลามเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดังนั้นเราจึงควรกำจัดพวกมัน และนั่นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการอนุรักษ์ และต้องการให้คนเห็นอกเห็นใจหรือเห็นใจฉลามและต้องการปกป้องพวกมันจริง ๆ "เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะฉลามถูกฆ่าตายปีละ 100 ล้านตัว และฉลามฆ่าคนทั่วโลกไม่ถึง 10 คนทุกปี" "เราให้ความสำคัญกับฉลามในฐานะที่เป็นสัตว์ประหลาดและพวกมันออกมาล่าเรา แต่ในความเป็นจริงมันตรงกันข้าม" ดูเหมือนเป็นไปได้ยากที่ฮอลลีวูดจะหยุดสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับฉลาม หรือเราจะหยุดดูมัน แต่ตัวเลขแสดงให้เห็นว่าฉลามไม่ได้เป็นฆาตกรต่อเนื่องของท้องทะเล ตรงกันข้ามพวกมันมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของมนุษย์มากกว่า https://www.bbc.com/thai/articles/c87rne3k7keo
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|