เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 10-09-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ตรังเปิดปฎิบัติการระดมเจ้าหน้าที่กว่า 100 นายรื้อถอนโป๊ะผิดกฎหมายกว่า 18 หลัง

เปิดปฎิบัติการ! บูรณาการเจ้าหน้าที่กว่า 100 นายรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมายประเภทโป๊ะ 18 หลังในพื้นที่อำเภอปะเหลียนเพื่อป้องกัน ยับยั้ง ขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย



วันนี้ (9 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเลจังหวัดตรัง มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมายประเภทเครื่องมือโพงพางและโป๊ะในเขตพื้นที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ปฏิบัติการรื้อถอนฯ โดยการนำของนายณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน (หัวหน้าชุดปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยภาคพื้นดิน) พร้อมด้วยคณะทำงานจากป้องกันจังหวัดตรัง ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง สถานีตำรวจภูธรปะเหลียน จังหวัดตรัง ชุดอาสารักษาดินแดน และนางพรรณี เดชภักดี ประมงจังหวัดตรัง (หัวหน้าชุดปฏิบัติการรื้อถอน) พร้อมด้วยคณะทำงานจากกองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 สำนักงานประมงจังหวัดตรัง และประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง ร่วมคณะทำงานปฏิบัติในครั้งนี้จำนวน 100 นาย

ในเวลา 08.30 น.คณะทำงานชุดปฏิบัติการรื้อถอนฯ ได้สนธิกำลังบูรณาการรื้อถอนเครื่องมือโพงพางและโป๊ะ ในเขตพื้นที่ทะเลอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง สำหรับเครื่องมือโพงพางเป็นเครื่องมือผิดกฏหมายที่ห้ามใช้หรือมีไว้ในครอบครองตามมาตรา 67(1) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 และเครื่องมือโป๊ะ เป็นเครื่องมือที่ห้ามใช้ตามประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดตรัง เรื่อง ห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางประเภท หรือวิธีการทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่งของจังหวัดตรัง พ.ศ. 2566 โดยปฏิบัติการได้เริ่มออกจากท่าเทียบเรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง และได้มีการรื้อถอนเครื่องมือประเภทโป๊ะ จำนวน 18 หลัง ซึ่งจะดำเนินการรื้อถอนจนกว่าจะแล้วเสร็จ

ปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเล จังหวัดตรัง เป็นการป้องกัน ยับยั้ง ขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และการบริหารจัดการแหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยังยืน อีกทั้งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากเครื่องมือผิดกฎหมายเหล่านี้ต่อไป


https://www.naewna.com/local/827960

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 10-09-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'มนพร' สั่งเจ้าท่าเร่งเครื่อง 4 โปรเจกต์ 'ท่าเรือวงแหวนอันดามัน' วงเงิน 740 ล้านบาท



'มนพร' สั่งเจ้าท่าเร่งเครื่อง 4 โปรเจกต์ 'ท่าเรือวงแหวนอันดามัน' วงเงิน 740 ล้านบาท ประเดิมสร้างปีนี้ 2 แห่ง?ท่าเรือมาเนาะห์-ช่องหลาด?เชื่อมคมนาคมทางน้ำ 3 จังหวัด?ภูเก็ต-พังงา-กระบี่? ร่นเวลาเดินทาง 1 ชม. ครึ่ง รองรับการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประเทศ

9 กันยายน 2567 นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า เร่งดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือวงแหวนอันดามัน เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งทะเล บริเวณสามเหลี่ยมอันดามัน มีพื้นที่เชื่อมต่อชายฝั่ง จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศในด้านการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ เพื่อสนับสนุนการขนส่งผู้โดยสารทางน้ำและการเดินทางท่องเที่ยว ยังไม่มีท่าเรือที่สมบูรณ์เหมาะสมกับการรองรับเรือในสภาพปัจจุบันและที่กำลังจะพัฒนาในอนาคต และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาท่าเรือเฟอร์รี่ สำหรับการขนส่งรถยนต์และผู้โดยสาร รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยการเชื่อมโยงข้ามระหว่างอ่าวจาก จังหวัดภูเก็ตไปยังจังหวัดกระบี่ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา จำเป็นต้องพัฒนาท่าเรือที่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต ท่าเรือท่าเลน จังหวัดกระบี่ และท่าเรือมาเนาะห์ ท่าเรือช่องหลาด จังหวัดพังงา สนับสนุนการเดินทางทางน้ำที่จะลดเวลาการเดินทางและการท่องเที่ยวทางน้ำ เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางทางบกจากสนามบินกระบี่ไปสนามบินภูเก็ต ระยะทาง 145 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที

"แต่ถ้ามีการเดินทางทางน้ำตามเส้นทางเดินเรือในอนาคตท่าเทียบเรือมาเนาะห์ จังหวัดพังงา - ท่าเทียบเรือช่องหลาด จังหวัดพังงา - ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต - ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ท่าเลน จังหวัดกระบี่ ระยะทาง 97 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าการเดินทางทางบก ประหยัดเวลาได้ถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่สำคัญยังช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำและเมืองรองให้สามารถเข้าถึงและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย" นางมนพร กล่าว

ด้านนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือวงแหวนอันดามัน จำนวน 4 โครงการ งบประมาณรวม 740 ล้านบาทนั้น กรมเจ้าท่าได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2567 จำนวน 360 ล้านบาท เพื่อดำเนิน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือมาเนาะห์ ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา งบประมาณ 175 ล้านบาท (งบผูกพัน 3 ปี ปี 2567 - 2569) และ 2.ก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือช่องหลาด ตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา งบประมาณ 185 ล้านบาท (งบผูกพัน 3 ปี ปี 2567 - 2569) ซึ่งสถานะทั้ง 2 โครงการ อยู่ระหว่างหาจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าเริ่มก่อสร้างในปี 2567 แล้วเสร็จในปี 2569 ระยะเวลาดำเนินการ 900 วัน

สำหรับท่าเรือทั้ง 2 แห่ง เดิมเป็นท่าเรือคอนกรีตเสริมเหล็ก มีสะพานท่าเรือ หน้าท่าเรือยาว มีบันไดขึ้นลงเรือ ค่อนข้างแคบ ไม่มีหลักผูกเรือ ไม่มียางกันกระแทก ท่าเรือเก่า ชำรุดทรุดโทรม ความปลอดภัยในการใช้งานต่ำ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงก่อสร้างท่าเรือใหม่ อาทิ อาคารบริการ - ที่พักนักท่องเที่ยว รองรับเรือบรรทุกสินค้า ผู้โดยสาร เรือเร็ว เรือหางยาว พื้นที่จอดเรือ ลานจอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งการนำงานออกแบบสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นมาใช้ เพื่อให้เกิดความสวยงาม และสื่อถึงอัตลักษณ์ในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

ขณะเดียวกันอีก 2 โครงการ งบประมาณ 380 ล้านบาท ได้แก่ 1.ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต งบประมาณ 280 ล้านบาท และ 2.ท่าเรือเฟอร์รี่ท่าเลน จังหวัดกระบี่ งบประมาณ 120 ล้านบาท กรมเจ้าท่าได้ขอจัดตั้งงบประมาณในปี 2568 เพื่อดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 ระยะเวลา 900 วัน

ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จทั้งหมดจะช่วยยกระดับมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือ ส่งเสริมการเดินทาง ขนส่งทางน้ำให้มีความสะดวกปลอดภัย และสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำ เกิดการเชื่อมโยงการเดินทางทางน้ำเป็นวงแหวนเชื่อมระหว่าง จ.ภูเก็ต-พังงา-กระบี่ (วงแหวนอันดามัน) ลดระยะเวลาการเดินทางเมื่อเปรียบเทียบกับทางถนนลงได้ ก่อให้เกิดการขนส่งรถยนต์ผ่านทางเรือวิ่งตัดอ่าวพังงา สร้างรูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ กระตุ้นเศรษฐกิจและภาคธุรกิจการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน


https://www.naewna.com/business/827913

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 10-09-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


เติมพลังชีวิต ที่เกาะรอก ราชินีแห่งอันดามัน สวรรค์นักดำน้ำ

9 ก.ย.67 - สักครั้งในชีวิต เติมพลังกับความสวยงามของ "เกาะรอก" อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา "ราชินีแห่งอันดามัน สวรรค์ของนักดำน้ำ"



ถือฤกษ์ดี วันที่ 9 เดือน 9 นี้ พาเพื่อนๆ มาเติมพลังชีวิตกับความสวยงามของ "เกาะรอก" อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา : ราชินีแห่งอันดามัน สวรรค์ของนักดำน้ำ โดยข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่า "เกาะรอก" อยู่ในพื่นที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยได้รับสมญานามว่า "ราชินีแห่งอันดามัน"

เกาะรอกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล ประกอบด้วย 2 เกาะ คือ เกาะรอกใน และเกาะรอกนอก ด้านที่หันหน้าเข้าหากันเป็นหาดทราย คั่นด้วยร่องน้ำทะเลตื้น ๆ ระยะห่างของเกาะประมาณ 250 เมตร

????จุดเด่นของหมู่เกาะรอก คือ มีแนวปะการังรอบเกาะและตามร่องน้ำ มีดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอาศัยอยู่มากมาย บริเวณที่ลึกยังพบปะการังอ่อน เกาะรอกจึงเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น

หากอยากไปเยือน "เกาะรอก" ราชินีแห่งอันดามัน สามารถสอบถามรายละเอียดการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หมายเลขโทรศัพท์ 075-656-576

ขอบคุณภาพ และข้อมูล : ส่วนอุทยานแห่งชาติ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช / อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา - Mu Ko Lanta National Park


https://www.mcot.net/view/zw1xyU6p

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 10-09-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


เผยแนวคิด "ถมทะเลบางขุนเทียน - สร้าง 9 เกาะ" ป้องกันน้ำทะเลท่วมกรุงเทพ


SHORT CUT

- วิกฤติโลกร้อนที่ทำให้น้ำแข็งละลาย และระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น กำลังจะทำให้เกิดน้ำทะเลท่วมหลายเมืองทั่วโลก

- นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เผยแนวคิดที่จะถมทะเลบาางขุนเทียน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลท่วมกรุงเทพในอนาคต

- โครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาศึกษาและงบประมาณจำนวนมาก แต่เชื่อว่าจะได้ใช้ประโยชน์ที่คุ้มค่าทั้งด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม




จะทำอย่างไร เมื่อ 'กรุงเทพ' ก็เป็นหนึ่งในเมืองที่ถูกคาดการณ์ว่า 'กำลังจะจมลงใต้น้ำ' เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน มาทำความรู้จักกับแนวคิด 'ถมทะเล - สร้างเกาะ' ที่เชื่อว่าจะป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพได้ในอนาคต

นี่เป็นแนวคิดที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงาน Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง โดยระบุว่าเป็นโครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์สำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับป้องกันกรุงเทพ

ต่อมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาขยายความแนวคิดดังกล่าว ระบุว่ามีความจำเป็นที่ต้องเร่งผลักดัน เพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีการวางแผนและศึกษาไว้นานแล้ว

เบื้องต้นมีการประเมินว่า น้ำแข็งที่ละลายจากภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำทะเลในอ่าวไทยสูงขึ้นมากถึง 5 ? 6 เมตร และท่วมเข้ามาในพื้นที่ลุ่มภาคกลางได้ถึง 16,000 ตารางกิโลเมตร หมายความว่าพื้นที่บางส่วนของกรุงเทพพและอีกหลายจังหวัดจะหายไป จึงวางแนวทางป้องกันน้ำท่วมได้ ดังนี้


แนวทางการป้องกันน้ำท่วม

- สร้างพนังกั้นน้ำ และอุดรอยรั่วเขื่อนกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง

- ยกถนนให้สูงขึ้น เช่น ถนนเพชรเกษม ถนนสุขุมวิท พร้อมทั้งทำประตูน้ำในคลองสำคัญที่มีทางออกสู่ทะเล

- สร้างเขื่อนในทะเล ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณมหาศาล ดังนั้นจึงมีอีกแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจ


"ถมทะเล สร้างเกาะ"

โดยจะสร้างเกาะขึ้นมาประมาณ 9 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ทะเลช่วงจังหวัดสมุทรสงคราม ไปถึงจังหวัดชลบุรี ระยะทางประมาณ 100-150 กิโลเมตร ตั้งชื่อไว้เบื้องต้นว่า "สร้อยไข่มุกอ่าวไทย" เพราะแต่ละเกาะจะมีลักษณะเหมือนไข่มุกร้อยกันเป็นเส้น มีประตูกั้นน้ำเชื่อมระหว่างกัน และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วย ซึ่งแนวคิดนี้ในปัจจุบันถูกใช้ในหลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

แต่ละเกาะจะเชื่อมต่อกันด้วยถนนและรถไฟฟ้า เพื่อให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ตั้งแต่จังหวัดสมุทรสงครามถึงชลบุรี โดยเกาะแรกคาดว่าจะสร้างบริเวณบางขุนเทียน โดยมีพื้นที่ประมาณ 5x10 ตารางกิโลเมตร หรือ มีขนาดของเกาะ 50 ตารางกิโลเมตร ความยาวตามชายฝั่ง 10 กิโลเมตร

"นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจที่จะทำให้เกาะเป็นพื้นที่สีเขียว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่ง ซึ่งต้องมีระยะห่างระหว่างชายฝั่งและเเกาะที่เหมาะสม รวมถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและวิศวกรรม"


ประโยชน์ของการสร้างเกาะ

เมื่อสร้างเกาะแล้วก็จะวางแผนการใช้พื้นที่เพื่อการพัฒนา เช่น ใช้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าแทนท่าเรือเดิมที่มีอยู่, เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมประมง, เป็นท่าเทียบเรือยอร์ช หรืออาจจะใช้เกาะที่อยู่ใกล้กับชลบุรีเพื่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ก็ได้เช่นกัน

โดยรัฐบาลจะหยิบยกแนวคิดนี้ไปเริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อพิจารณาแนวคิดที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งต้องใช้องค์ความรู้ต่างๆทั้งทางวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมทางทะเล และวิศวกรรมสมุทร คาดว่าต้องใช้เวลานานหลายสิบปี เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติด้วย

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ


https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/852645

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 10-09-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเจอพายุและไต้ฝุ่นมากขึ้นในแต่ละปีมากกว่าแถบอื่น


SHORT CUT

- Earth Observatory ของนาซาเผยว่า มหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกจะเจอพายุและไต้ฝุ่นในแต่ละปีมากกว่าแถบอื่น

- ยกตัวอย่างเช่น เปิดฤดูพายุ 2024 ก็เจอกับไต้ฝุ่นรุนแรงแล้วถึงสองลูก

- กองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อมชี้ว่า อุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้น ทำให้พายุรุนแรงขึ้น




Nasa เผยว่า เราจะเจอพายุและไต้ฝุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกที่จะเจอพายุมากกว่าแถบอื่น เป็นผลมาจากอุณหภูมิมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น

เว็บไซต์ศูนย์ Earth Observatory ของนาซารายงานว่า มหาสมุทรแปซิกด้านตะวันตกเผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี มากกว่ามหาสมุทรแถบอื่น โดยเพิ่งเริ่มต้นฤดูไต้ฝุ่นมาก็เจอพายุไต้ฝุ่นรุนแรงแล้วถึงสองลูกด้วยกัน

สำหรับประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกก็ได้แก่ ประเทศในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศ เช่น บรูไน กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ฤดูไต้ฝุ่นปี 2024 ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกเฉียงเหนือกำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบเชียบ โดยหลังจากที่ไต้ฝุ่นชานชานเพิ่งจะพัดเข้าถล่มทางตอนใต้ของญี่ปุ่นไปได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ไต้ฝุ่นยางิก็กำลังเข้าพัดถล่มทางตอนใต้ของจีนอยู่ในเวลานี้ โดยพายุดังกล่าวเริ่มก่อตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปาเลาในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และเข้าถล่มเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

อิทธิพลของพายุทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม หลังจากนั้น พายุก็ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วขณะเคลื่อนตัวผ่านทะเลจีนใต้ เพราะมันได้เจอกับน้ำในมหาสมุทรที่อุ่นผิดปกติและสภาพอากาศที่เป็นใจ

รายงานของกองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อมชี้ว่า มหาสมุทรที่ร้อนขึ้นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีให้แก่พายุ การระเหยที่รุนแรงขึ้นเพราะอุณหภูมิสูงขึ้น เป็นสาเหตุที่นำเอาความร้อนจากมหาสมุทรขึ้นสู่อากาศ โดยเฉพาะเมื่อพายุเคลื่อนตัวผ่านมหาสมุทรที่มีความอบอุ่น มันก็จะดูดเอาไอน้ำและความร้อนเข้าไป

เมื่อพายุมีความรุนแรงมากขึ้น ก็หมายความว่า จะทำให้เกิดลมกระโชกแรงขึ้น ฝนตกหนักขึ้น และน้ำท่วมรุนแรงขึ้นนั่นเอง

เมื่อตอนที่ไต้ฝุ่นชานชานพัดถล่มญี่ปุ่น โคสุเกะ อิโตะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศสุดขั้วจากมหาวิทยาลัยเกียวโตและมหาวิทยาลัยแห่งชาติโยโกฮาม่ากล่าวว่า

"ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิบนพื้นผิวมหาสมุทรสูงขึ้น เมื่อไต้ฝุ่นได้รับไอที่ระเหยที่ลอยขึ้นมาจากมหาสมุทรที่อุ่น ยิ่งอุณหภูมิมหาสมุทรสูงขึ้นแค่ไหน พายุไต้ฝุ่นก็ จะยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น"

แต่อย่างไรก็ตาม โคสุเกะย้ำว่าภาวะโลกร้อนไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ขุนให้ไต้ฝุ่นชานชานรุนแรงขึ้น เพราะความกดอากาศที่ศูนย์กลาง และความเร็วของไต้ฝุ่นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หนึ่งสิ่งที่ยืนยันได้ก็คือภาวะโลกร้อนเป็นผลให้ฝนตกมากขึ้น เมื่อเกิดไต้ฝุ่น

ที่มาข้อมูล ; Earth Observatory / Environmental Defense Fund


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/852651

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:54


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger