![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ในระหว่างนั่งรอเวลาดำน้ำ...สายชลนึกย้อนรำลึกถึงที่ไปที่มาของ "โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและจังหวัดนร าธิวาส" ซึ่งเริ่มต้น จากการที่ชาวประมงพื้นบ้าน แห่ง บ้านละเวง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ จาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพิจารณาช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำใต้ท้องทะเล ที่ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุสำคัญที่ปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลงนั้น เกิดมาจากการทำประมงอย่างผิดวิธี กล่าวคือ มีการใช้เครื่องมือ ประเภท อวนลาก และอวนรุน ที่ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ แหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งหลบภัยตามธรรมชาติของสัตว์น้ำวัยอ่อน ส่งผลให้ระบบนิเวศสัตว์น้ำเกิดความเสื่อมโทรม จำนวนสัตว์น้ำลดลง ประชาชนที่ประกอบอาชีพประมง ต้องประสบปัญหารายได้ลดลงตามไปด้วย ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว.. โครงการดังกล่าว จึงถูกตั้งขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูระบบนิเวศสัตว์ น้ำ โดยการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลหรือปะการังเทียม ซึ่งจะใช้วัสดุจำพวกคอนกรีต ท่อระบายน้ำ ซากเรือ หรือวัสดุขนาดใหญ่ที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อเป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำชายฝั่ง เมื่อจำนวนสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีแหล่งการทำการประมง ของชาวประมงขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ในปี 2545-2547...กรมประมงได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้มอบตู้รถไฟเก่าจำนวนรวม 608 ตู้ มาวางในทะเลเขตจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส ซึ่งส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำในทะเลบริเวณตู้รถไฟ เพิ่มปริมาณขึ้นมากมาย ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-09-2012 เมื่อ 12:40 |
|
#2
|
||||
|
||||
|
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552...ในโอกาสที่คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสใจความว่า
"ปีนี้ ประมงพื้นบ้านตั้งแต่ปัตตานีจนถึงนราธิวาสหลายร้อยคน เขียนจดหมายถึงข้าพเจ้า แล้วก็เซ็นชื่อเป็นบัญชีหางว่าวเลย ขอให้ข้าพเจ้าช่วยจัดทำปะการังเทียมเพิ่มเติมขึ้นอีก แล้วตอนนี้ใครจะช่วยข้าพเจ้า ตอนนี้จะเอาอะไรไปทิ้งให้ปลามันอยู่ ข้าพเจ้าจึงนำมาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟังว่า ปะการังเทียมนั้นใช้ได้ผลจริงๆ น่าภูมิใจแทนหน่วยงานทั้งหลาย ที่ช่วยเหลือประชาชนประสบผลสำเร็จ และข้าพเจ้าก็เลยขอถือโอกาสนี้ ส่งข่าวถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน ที่เขาเขียนจดหมายถึงข้าพเจ้าขอปะการังเทียมเพิ่มเติมด้วยว่า ข้าพเจ้าจะพยายามขอร้องให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทุกแห่งช่วยกันประสานงาน เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ ก็คงจะเริ่มจัดสร้างพื้นที่บริเวณปะการังเทียมได้อีก เพื่อประชาชนจะได้ไปตกปลา ไปทำมาหากินได้เพิ่ม" ![]() จากพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวข้างต้น และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 78 พระชนมพรรษา ในปี 2553 กรมประมงจึงได้สานต่อ “โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส” ขึ้นอีกครั้ง เป็นการนำวัสดุที่ไม่ใช้งานหรือปลดประจำการกลับมาใช้ ประโยชน์อีกครั้ง เพื่อจัดสร้างเป็นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทะเล ทางกรมประมง จึงได้พิจารณานำวัสดุเหลือใช้ที่ได้รับการบริจาคมา คือ รถถัง 25 คัน รุ่น 30 T 69-2 จากทางกองทัพบก...ตู้รถสินค้า จำนวน 273 ตู้ จากกระทรวงคมนาคมโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย...รถยนต์เก็บขยะมูลฝอย จำนวน 198 คัน จากกรุงเทพมหานคร...และ รถยนต์ 3 คัน จากกองทัพไทย รวมรถทั้งสิ้น 499 คัน เพื่อทำเป็นปะการังเทียม และแนวกันคลื่น สำหรับเหตุผลที่กองทัพบก ได้ส่งมอบรถถังให้กรมปะมงนำไปใช้ทำปะการังเทียมนั้น สรุปความได้ว่า.... กองทัพบก ซึ่งมีรถถังขนาดกลาง รุ่น 30 T 69-2 จำนวน 25 คัน ที่เคยใช้งานอยู่แถบชายแดนประเทศไทย ซึ่งเป็นรถถังที่ผลิตขึ้นในประเทศจีน และถูกนำมาประจำการที่กองพันทหารม้า ที่ 16 จังหวัดนครศรีธรรมราช กองทัพบกไทย ตั้งแต่เมื่อปี 2530 ก่อนที่เสื่อมสภาพและถูกนำมาซ่อมบำรุงที่ กรซย.ศซส.สพ.ทบ. เมื่อปี 2547 แต่ไม่สามารถทำการซ่อมแซมได้ เนื่องจากประเมินความเสียหายแล้วเกิน 60% และไม่คุ้มค่ากับการซ่อมแซม ทางกองทัพบกได้พิจารณาแล้วว่า หากนำรถถังไปพัฒนาฟื้นฟูทะเล จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อชาวประมงพื้นบ้าน สร้างความสมบูรณ์ของท้องทะเลมากกว่าอย่างอื่น จึงได้ประสานงานกับกรมประมง เพื่อนำรถถังทั้ง 25 คัน ไปทิ้งลงทะเลเพื่อเป็นปะการังเทียมที่ทะเลหน้าเมืองนราธิวาส แผนงานครั้งนี้ ต้องใช้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ 2 ลำ ขนรถทั้งหมดที่ได้รับบริจาคไปทิ้ง โดยใช้เครนยกรถทั้งหลาย ลงเรือโป๊ะบรรทุก ซึ่งเป็นเรือท้องแบนที่ใช้ขนของหนัก (Barge) ที่จอดรออยู่บริเวณท่าเรือคลองเตย ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เพื่อเดินทางไปจังวัดนราธิวาสและปัตตานี เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง...รถแบ๊กโฮก็ดันรถทั้งหลาย (ยกเว้นรถถัง) ลงทะเล ณ จุดที่กำหนดวางลงทะเล 15 จุด ทั้งที่จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส คือในวันที่ 3 สิงหาคม 2553 กำหนดจัดวางวัสดุในพื้นที่อำเภอปะนาเระ สายบุรี และอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี และในวันที่ 9 สิงหาคม 2553 กำหนดวางรถถังทั้ง 25 คัน บริเวณ อำเภอเมือง และอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www.nicaonline.com และ http://www.thaipost.net
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-09-2012 เมื่อ 12:47 |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ถึงเวลาดำน้ำแล้วค่ะ... ในวันแรก..เราดำน้ำได้เพียงสองไดฟ์ คือไดฟ์แรกที่บริเวณรถถังปะการังเทียม และอีกไดฟ์หนึ่งที่บริเวณ รถขยะปะการังเทียม ส่วนในวันที่สอง..เราลงดำน้ำสามไดฟ์ สองไดฟ์แรก ที่รถถังปะการังเทียม และไดฟ์ที่สาม ที่ตู้รถไฟปะการังเทียม และในวันสุดท้าย ที่เรามีเวลาดำน้ำเพียงไดฟ์แดียวนั้น เราลงดำน้ำซ้ำอีกครั้ง ที่รถถังปะการังเทียม... รวมเป็นการดำน้ำทั้งหมด 6 ไดฟ์ เป็นการลงดำน้ำที่รถถังปะการังเทียม มากที่สุด คือ 4 ไดฟ์ และที่ รถขยะปะการังเทียม และ ตู้รถไฟปะการังเทียม ที่ละเพียงหนึ่งไดฟ์เท่านั้น เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักของการมาสำรวจปะการังเทียมครั้งนี้ ที่ต้องการเน้นหนักการสำรวจรถถังปะการังเทียม ซึ่งทางกองทัพบก ได้ส่งมอบและร่วมดำเนินการวางลงในทะเล มาตั้งแต่เมื่อสองปีที่ผ่านมา.. ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 24-09-2012 เมื่อ 20:19 |
|
#4
|
||||
|
||||
|
สมบูรณ์ มากเลยค่ะ ขอแต่น้ำใสเท่านั้น มีอะไรให้ดูเยอะเชียวค่ะ
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
|
#5
|
|||
|
|||
|
กาฟรู้สึกดีใจแทนทะเลไทยและปลาฝูงนั้นเหล่ามากที่ติดลอบ แล้วมีพี่ๆไปช่วยมันออกมา ปลาเหล่านั้นคงจะดีใจ ดีที่เราไปทันเวลา ไม่อย่างนั้นน้องปลาคงจะหมดแรงและขาดใจตาย พี่น้อยครับ เขาไม่มีโครงการไปปลูกพวกปะการังเขากวาง ในปะการังเทียมบ้างหรอครับ เพื่อเป็นส่วนขยายต่อไปเรื่อยๆ ยังไม่เห็นมีพวกเขากวางเลยครับ หรือว่ารอให้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
|
|
#6
|
||||
|
||||
|
ติดตามมาอ่านต่อแล้วครับพี่ ได้ดูข่าว mcot ด้วยครับ
|
|
#7
|
||||
|
||||
|
น้องกาฟขา...ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้เช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องการตัดลอบนี่ ต้องพิจารณาให้รอบคอบค่ะ ถ้าเป็นลอบใหม่ และชาวประมงไม่ได้ทิ้งลงบนปะการัง เราคงไม่ไปตัด (ถ้าไม่ได้อยู่ในเขตอุทยาน) นะคะ แต่นี่เป็นลอบเก่าที่ถูกทิ้งร้างแล้ว เราจึงต้องตัดเพื่อช่วยชีวิตปลาที่มีสภาพย่ำแย่แล้วค่ะ ส่วนการนำปะการังไปปลูกบนปะการังเทียม เราคงจะไม่ทำค่ะ เพราะเพียงมีการนำวัตถุหนักลงไปทิ้งในทะเลให้เป็นปะการังเทียมนี่ ก็ถูกต่อว่าต่อขานกันมากแล้วค่ะ จากนี้ไป เราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-09-2012 เมื่อ 02:36 |
|
#8
|
|||
|
|||
|
แบบนี้นี่เอง ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ทำให้ผมกระจ่างครับพี่น้อย
|
![]() |
|
|