![]() |
|
![]() |
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#21
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
และมีน้องๆหลายคนมายืนยันว่า เปิดภาพได้เป็นปกติ ก็แสดงว่า อาจจะเป็นที่เครื่องของน้องดอกปีบ หรือสัญญาณที่ใช้มันอาจจะอ่อนจนโหลดภาพไม่ขึ้นหรือเปล่าครับ ช่วงหลังๆนี่ ภาพที่สองสายโพสต์ จะใช้ลิ๊งค์จาก Photobucket ตลอด เพราะไม่อยากโพสต์รูปตรงๆซึ่งจะไปทำให้พื้นที่ในโฮสต์มันเพิ่มมากขึ้นน่ะครับ อย่างตารางน้ำที่เพิ่งโพสต์เมื่อเช้า ก็ลิ๊งค์ไปจากที่เดียวกันครับ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#22
|
||||
|
||||
![]()
เป็นเพราะ ทางบริษัท ควบคุมการใช้งานงาน
มาเปิดที่ทำงานก็ไม่เห็นภาพ หากต้องแชร์จากที่อื่น ดังนั้น ต้องเปิดดูที่บ้าน ที่เค้าไม่ได้ควบคุม ขอรับ พี่น้องงงง
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
#23
|
||||
|
||||
![]() ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบค่ะ... ถ้าเป็นอย่างนี้...น้องดอกปีบลองแก้ไขคอมฯ ที่ที่ทำงานก่อนนะจ๊ะ พี่จะลงเรื่องและภาพไปพลางๆก่อนจ้ะ ถ้าไม่ได้จริงๆ ไปอ่านที่บ้านพี่สองสายก็ได้นะจ๊ะ.. ![]()
__________________
Saaychol |
#24
|
||||
|
||||
![]() ![]() คงจะเป็นเพราะวัดโพธิ์ชัยเป็นพระอารามหลวง และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในเมืองหนองคาย จังหวัดใกล้เคียง และแม้แต่คนในเมืองลาว...เราจึงเห็นผู้คนมากมาย นั่งรถบัสใหญ่ๆ แล่นเข้ามาจอดในลานวัดแน่นขนัด ผู้คนโดยเฉพาะเด็กๆในเครื่องแบบนักเรียน เดินกันขวักไขว่วุ่นวาย จนยากที่จะหามุมถ่ายภาพ ทั้งภายนอกและภายในโบสถ์ได้... เรื่องของศรัทธาที่มนุษย์มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น...เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ และน่าทึ่งเสมอค่ะ แต่นักเรียนมากมายที่มาวัดโพธิ์ชัยในวันนี้ จะมาด้วยศรัทธา หรือโรงเรียนส่งมาทำกิจกรรมสัญจรกันแน่นะ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:17 |
#25
|
||||
|
||||
![]() ออกจากวัดโพธิ์ชัย...น้องดื้อบอกว่า "ต้องไปศาลาแก้วกู่ครับ"....สองสายสงสัยว่า "ศาลาแก้วกู่" คืออะไร น้องดื้อก็บอกว่า "ที่นั่นไม่ใช่วัด แต่มีรูปปั้นพระและเทวรูปสูงใหญ่อยู่มากมาย แปลกดีครับ" อย่างนี้ต้องไปดูให้รู้ว่าแปลกอย่างไร แล้วล่ะค่ะ เราขับรถออกจากตัวเมืองหนองคาย ไปทางอำเภอโพนพิสัยไม่ถึงสามกิโลเมตร ก็เห็นยอดแหลมๆ รูปทรงประหลาดๆ สูงชลูด โผล่สลอนขึ้นมาต่อหน้าต่อตา จนเราถึงกับอึ้ง..ทึ่ง... จอดรถที่ลานจอด ซึ่งมีสแลนบังแดดไว้ให้อย่างดี ก่อนเข้าประตู ผ่านร้านค้าขายของพื้นเมือง ที่เน้นหนักหมวกและร่ม ก็รู้ว่าเราคิดถูก ที่เห็นแดดแผดจ้า ก็คว้าหมวกและร่มติดมือไปด้วย เสียเงินค่าผ่านประตูคนละ 20 บาท ก็เดินผ่านประตูปร๋อเข้าไปข้างในได้... ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:18 |
#26
|
||||
|
||||
![]() ผ่านประตูเข้าไป...อุแม่เจ้า...ช่างอลังการงานสร้างอะไรเช่นนี้... ![]() งานปูนปั้นแต่ละชิ้นล้วนใหญ่โตมโหฬาร รูปทรงแปลกตา ล้วนเกี่ยวพันกับปรัชญา ศาสนา และความเชื่อ ที่ผู้สร้าง คือ “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” หรือ “ปู่เหลือ” มีศรัทธา ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:19 |
#27
|
||||
|
||||
![]() “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” หรือ “ปู่เหลือ” (พ.ศ. ๒๔๗๖ – ๒๕๓๙) มีประวัติชีวิตและผลงานอัศจรรย์ มีเรื่องที่เล่าขานกันว่า “ นางคำปลิว สุรีรัตน์ ชาวหนองคาย เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว เมื่อแต่งงานได้ระยะหนึ่งก็ฝันว่ามีชีปะขาวนำนาคมรกตมามอบให้ แต่บอกว่าอีก ๗ เดือนค่อยไปรับมาเป็นของตน ต่อมาแม่ของนางคำปลิว ได้ตั้งท้องลูกคนที่เจ็ด ในวัยที่สูงอายุและหมดประจำเดือนแล้ว เมื่อคลอดบุตรชายออกมา เมื่ออายุครรภ์ได้เพียง ๗ เดือน ทุกคนจึงเชื่อว่าเป็นไปตามนิมิตในฝัน นางคำปลิวและสามีจึงได้รับน้องชาย คือ ดช.บุญเหลือ สุรีรัตน์ มาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่แรกเกิด ![]() ด.ช.บุญเหลือชอบเข้าวัดมาแต่เด็ก พออายุได้หกขวบนางคำปลิวเสียชีวิตลง สามีนางคำปลิวมีภรรยาใหม่ ด.ช.บุญเหลือจึงกลับไปอยู่กับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด แต่มักขัดขวางห้ามปรามผู้ใหญ่ในทางบาปต่างๆ จึงไม่เป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้อง ครั้นอายุ ๑๒ ปี ทนความกดดันรอบข้างไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านรอนแรมไปจนพบ สำนักอาศรมแก้วกู่ ในเขตแดนลาว และได้ฝากตัวศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติธรรม อยู่กับพระมุนีที่นั่น จนอายุครบ ๒๐ ปี พระมุนีจึงให้ออกจากสำนัก ไปจาริกแสวงบุญโปรดญาติโยมทั้งใกล้และไกล เมื่ออายุ ๓๐ ปี จึงได้กลับมาปรนนิบัติตอบแทนคุณในวาระสุดท้ายของชีวิตพ่อแม่ ก่อนแม่สิ้นบุญในปี ๒๕๐๗ ได้มอบที่ดิน ๘ ไร่ ณ บ้านเชียงควาน เมืองท่าเดื่อ เวียงจันท์ ไว้เป็นมรดก ![]() ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ปู่เหลือได้พัฒนาที่ดินดังกล่าวสร้างเป็น “ปูชนียสถานเทวาลัยอย่างมหึมา” พุทธศาสนิกชนทั้งในภาคพื้นยุโรปและเอเชียเลื่อมใสมาก แต่เมื่อเกิดเหตุวิกฤตในราชอาณาจักรลาวเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลวงปู่จึงพาลูกศิษย์ข้ามโขงมา และรวมกันจัดตั้งเป็น “พุทธมามกสมาคมจังหวัดหนองคาย” โดยกรมการศาสนารับรองให้ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ สานุศิษย์ได้จัดซื้อที่ดินราว ๔๑ ไร่ ในเขตบ้านสามัคคี ต.หาดคำ ถวายให้เป็นที่ตั้งสำนักจวบจนปัจจุบัน ต้นปี พ.ศ.๒๕๒๗ ปู่เหลือถูกใส่ความและมีผู้ไปแจ้งตำรวจตั้งข้อหาฉกรรจ์ (ซึ่งทางสำนักขอสงวนไว้) ต้องอยู่ในเรือนจำจนถึงปลายปี ๒๕๒๙ เมื่อออกมาแล้ว ก็สร้างเทวรูปอีกมากมาย ทั้งเล็กและใหญ่ และทั้งขนาดที่สูงถึง ๓๓ เมตร เมื่อสร้างทั้งพุทธรูปและเทวรูปถึง ๒๐๙ ปางแล้ว ก็สร้างศาลาแก้วกู่หลังใหม่โดยรื้อหลังเก่า ( พ.ศ.๒๕๒๓ – ๒๕๓๘) ที่ทรุดโทรมลง ขณะก่อสร้างศาลาหลังใหม่ ปู่เหลือก็ล้มป่วย และต่อมาได้เสียชีวิตลง ในเดือนสิงหาคม ๒๕๓๙ สานุศิษย์ได้นำผอบแก้วใส่ร่างของท่านไว้ ตามความประสงค์ก่อนสิ้นชีวิต” ![]() ขอบคุณข้อมูลจาก...http://sala-saeoku.blogspot.com/ และ http://www.muangboranjournal.com
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:20 |
#28
|
||||
|
||||
![]() บริเวณที่ตั้งของศาลาแก้วกู่ จัดเป็น “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง” มีสิ่งที่เรียกว่า “ปูชนียวัตถุ และพุทธปูชนียสถานเทวาลัย” คือรูปปั้นพิสดารพิลึกพิลั่นมากมาย อาทิ รูปปั้นปางพระอิศวร – พระอุมาเสวยสุข ปางพระพุทธเจ้าเสด็จหนีออกบรรพชา ปางทรงศึกษาที่ธรรมะกับพระฤาษี ปางกามเทพ (คิวปิต) ปางฤาษีแก้วกู่อะธามา ปางพระขันทกุมาร ฯลฯ เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยก็จะทำพิธีอัญเชิญเทพเทวามาสถิต มาชื่นชมผลงานของปู่บุญเหลือกันนะคะ... เข้าไปก็พบกับเทวาลัยพระราหูครึ่งตัว นอนหนุนแขนจ้องมองอยู่ พระราหูเหลืออยู่ครึ่งตัว เพราะพระนารายณ์ทรงขว้างจักรตัด ถูกกลางตัวพระราหูขาด กลายเป็นสองท่อน แต่ด้วยน้ำอำมฤตที่พระราหูได้ขโมยดื่ม ตอนทำพิธีกวนเกษียรสมุทร ได้ไหลไปจนถึงกลางตัวพระราหูแล้วพอดี ครึ่งบนของพระราหูที่ถูกตัดออกจึงกลายเป็นอมตะ ส่วนครึ่งล่างนั้นได้กลายมาเป็นพระเคราะห์องค์ที่ 9 แห่งเหล่าเทวดานพเคราะห์ซึ่งก็คือ พระเกตุ ![]() ขอบคุณข้อมูลจาก...http://th.wikipedia.org
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-06-2012 เมื่อ 00:21 |
#29
|
||||
|
||||
![]() พระพุทธรูป ในลักษณะต่างๆ... ![]() ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-05-2012 เมื่อ 06:07 |
#30
|
||||
|
||||
![]() พระกัจจายนะ ![]() ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-05-2012 เมื่อ 06:06 |
![]() |
|
|