#21
|
||||
|
||||
เขาเชิญไปฟัง...แล้วก็คงอยากจะได้ความคิดเห็น (เพิ่มเติมจากที่ได้โทรมาขอความคิดเห็นเป็นการส่วนตัวแล้ว) ละกระมังคะ...แต่เผอิญว่ามีเวลาน้อยไปนิดหน่อย (บอกว่าเป็น Workshop แต่มีเวลาให้เพียง 3 ชั่วโมง แค่บรรยาย กับผู้บริหารแสดงความคิดเห็นก็ไม่เหลือเวลาแล้วล่ะค่ะ) สองสายก็เลยไม่ได้ไปแสดงความคิดเห็นด้วยวาจา เรื่องนี้ยังไม่เห็นข่าวทั้งในหนังสือพิมพ์และทีวี ทั้งที่มีนักข่าวเดิน (และคุย)กันให้ว่อนไปหมดค่ะ อย่างไรก็ตาม...เมื่อวันก่อนเห็นมีภาพข่าวลงในไทยรัฐว่ามีการตั้ง "Pattaya Dive Club" มีชื่อไทยว่า "ชมรมดำน้ำรักษ์ทะเลพัทยา" ดูในภาพก็มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาหลายคน (แต่ส่วนมากมีนิวาสถานอยู่ที่อื่นซึ่งไม่ใช่พัทยา) ก็ได้แต่หวังว่าคนในกลุ่มนี้จะช่วยเป็นปากเสียงแทนนักดำน้ำที่รักพัทยาและรักษ์พัทยาอีกหลายๆคนที่ไม่ได้ไปอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย อย่างไรก็อย่าไปยอมให้มีการยำทะเลพัทยาจนเละกว่าที่เป็นอยู่นะคะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-12-2009 เมื่อ 00:36 |
#22
|
||||
|
||||
จัดระเบียบเจ็ทสกีพัทยาก่อนท่องเที่ยวล่มสลาย "อิทธิพล คุณปลื้ม" เล็งจัดระเบียบเจ็ทสกีพัทยา สร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ความปลอดภัย ก่อนถูกนักท่องเที่ยวเมิน ธุรกิจชายหาดอย่างเรือเจ็ทสกี ในพื้นที่แหล่งนักท่องเที่ยว ได้กลายเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง เพราะไม่เพียงแต่บริการเชิงการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ธุรกิจนี้ ได้ถูกขึ้นบัญชีว่า เป็นธุรกิจมาเฟีย เพราะที่ผ่านมาพบว่า นักท่องเที่ยวเช่าเจ็ทสกีแล้ว ไปประสบอุบัติ มักจะถูกเจ้าของเรือเรียกร้องค่าเสียหายเกินเหตุ จนหลายฝ่ายเร่งออกมาแก้ปัญหาและเร่งจัดระเบียบ ก่อนที่ภาพภาพลักษณ์จะเสียหายกระทบต่อการท่องเที่ยว อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในฐานะผู้บริหารเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศ ยอมรับว่าบอกว่าการกระทำผิดในรูปแบบของขบวนการรีดเงินนักท่องเที่ยว กรณีเรือเจ็ทสกีหลังเกิดอุบัติเหตุ ตามรายงานพบว่ามีอยู่จริง ทางเมืองพัทยาจึงได้ประสานไปยัง สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ และกรมเจ้าท่า ภาค 6 เข้ามาดำเนินการในส่วนนี้ และพยายามปราบปรามให้หมดเนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำลายชื่อเสียงการท่องเที่ยว ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นซึ่งลักษณะคล้ายกับภูเก็ต จนมีการร้องเรียนหลายครั้ง ในที่สุดทางเมืองพัทยา ได้จัดตั้ง “คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการท่องเที่ยวและกีฬาทางน้ำ” เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว "เราจะเน้นหนักในการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบกันกับทุกฝ่าย เพื่อภาพลักษณะการท่องเที่ยวจะไม่เสื่อมเสีย และ เป็นไปในทิศทางที่ดีของทุกภาคส่วน ร่วมถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว" อิทธิพล กล่าว ขณะที่ จรูญ วุฒิธรรม ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวพัทยา ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของอู่เรือเจ็ทสกี และเจ้าของเรือเจ็ทสกีให้ เช่าบนหาดพัทยาที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 20 ปี บอกว่า การจัดตั้งคณะทำงานชุดดังกล่าวส่วนตัวเห็นด้วยและเคยพยายามเสนอให้จัดตั้งคณะทำงานแบบนี้ขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ถูกเมินเฉยมาตลอด "วันนี้มีการจัดตั้งชุดทำงานนี้ขึ้นมา ก็ขอให้เป็นหน่วยงานที่มั่นคง มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด เพื่อปราบกลุ่มบุคคลเหล่าให้หมดสิ้นไป" จรูญ กล่าว ที่ผ่านมา ตนพยายามประสานกับทางเมืองพัทยา ให้มีการจัดตั้งชุดควบคุมดูแล กลุ่มเจ็ทสกีโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นทางเมืองพัทยา หรือ การจัดตั้งชมรมเจ็ทสกี เพื่อกำกับดูแลกลุ่มเจ้าของ ผู้ประกอบการ ในป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะขอเสนอ การจำกัดจำนวนเรือเจ็ทสกีบนชายหาดต่างๆในพื้นที่ โดยควรมีจำนวนที่ชัดเจนอีกทั้งควรจะแบ่งพื้นที่ให้เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ปัญหาเรือเจ็ทสกีชนกันจะลดลง เนื่องจากปัจจุบันเรือเจ็ทสกีไม่มีขอกำหนด ใครนำเรือไปขอเลขทะเบียนจากกรมเจ้าท่าแล้ว ก็นำเรือมาปล่อยเช่าตามชายหาด โดยขอจอดร่วมอยู่กับเจ้าของเตียงร่มผ้าใบ ซึ่งไม่มีกติกาและไม่มีระเบียบ "ประเด็นสำคัญที่สุดคือ หน่วยงานที่มีเกี่ยวข้อง ต้องมีความเป็นกลางสมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็นทางเมืองพัทยาหรือตำรวจ เพราะที่ผ่านมา ปัญหาการเรียกร้องเงินจากนักท่องเที่ยว มักมีคนของรัฐและหน่วยงานต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง จนมีการเรียกชาร์จเงินจนเกิดเหตุ ทั้งที่ราคาซ่อมไม่ได้แพงมากนัก" จรูญ กล่าว ทั้งนี้กรณีที่เรียกกันเป็นหมื่นเป็นแสน เป็นเพราะจะต้องไปแบ่งให้กับกลุ่มเจ้าของเตียงผ้าใบ ผู้ร่วมผลประโยชน์ และเจ้าหน้าที่โดยมีการแบ่งผลประโยชน์แบบ 50:50 หรือ ร้อยละ 20 ซึ่งควรจะปราบให้หมดสิ้น โดยเฉพาะแก๊งมิจฉาชีพ ที่มีการหากินกับทางเรื่องแบบนี้โดยตรงและยืนยันว่าปัจจุบันแก๊งพวกนี้ยังมีอยู่เกลื่อนชายหาดพัทยาและหาดจอมเทียน ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวพัทยา ยังแนะนำว่า เพื่อป้องกันมีปัญหาตามมาจากการเช่าเรือควรจะมีการเอกสารที่เป็นหลักฐานทั้งสองฝ่ายหรือกรอกแบบฟอร์มสัญญาตามข้อกติกาตกลง หากเกิดเจ็ทสกีชนกัน หรือทำให้เรือเสียหาย ก็ขอให้เรียกร้องค่าเสียหายตามข้อเท็จจริง ด้าน นายโรเบิร์ท เอสฟอร์ด อายุ 50 ปี นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวพัทยา กล่าวว่า หากเมืองพัทยามีการดำเนินการดังกล่าวจริง ก็จะสามารถลดปัญหาการเอาเปรียบเอารัดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เพราะเมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ใครก็อยากมาพักผ่อน แต่หากมาแล้วเจอปัญหาดังกล่าวคงต้องเกิดอาการเสียความรู้สึกมากและไม่อยากจะมาเที่ยวอีก อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเรือเจ็ทสกีในพัทยาพบว่า ปัจจุบันมีประมาณ 500 ลำ แบ่งเป็น 3 โซน ชายหาดพัทยา ประมาณ 120 ลำ หาดจอมเทียนประมาณ 200 ลำ และหาดเกาะล้าน ประมาณ 200 ลำ โดยมีชมรมเรือท่องเที่ยวคอยดูแล ขณะที่การเกิดอุบัติเหตุเจ็ทสกีชนกันนั้นสถิติเกือบ 10 รายต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงมาก จาก : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 7 ธันวาคม 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#23
|
||||
|
||||
ขอกระทุ้งกระทู้นี้ขึ้นมาหน่อยนะคะ เพราะเห็นข่าวชายหาดพัทยาต้องพึ่งกระสอบทราย หน้าตานาเกลียด เพราะหาดทรายถูกกัดเซาะ ไม่ทราบว่าเพราะการก่อสร้างเขื่นกันคลื่นกันลม ที่ปลายแหลมเขาพระตำหนักหรือไม่ อีกทั้งเรื่องอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ตชนกันบ่อยๆ จนนักท่องเที่ยวตายไปหลายคน ยังมีข่าวให้เห็นอยู่เนื่องๆ ไม่มีการแก้ไขอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวอยู่เช่นเดิม...
__________________
Saaychol |
|
|