|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#41
|
||||
|
||||
ออกจากโครงการตามพระราชดำริ เราย้อนกลับไปที่ธนาคารปู เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินการของโครงการนี้
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#42
|
||||
|
||||
ถึงตรงนี้ ผมขอนำสกู๊ปข่าวจาก นสพ.ข่าวสด วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ได้ลงเกี่ยวกับธนาคารปูของชาวประมงที่นี่ มานำเสนอให้ได้รู้จักครับ ชาวประมงแหลมผักเบี้ย รวมกลุ่มตั้งธนาคารปูม้า ในแต่ละวันสมาชิกกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มีนายไพฑูรย์ รื่นรวย อายุ 46 ปี เป็นประธานกลุ่ม จะต้องนำเรือออกไปที่สถานเลี้ยงอนุบาลปูม้า ที่สร้างไว้ในทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 2,000 เมตร เพื่อนำปูม้าที่มีไข่ติดอยู่ที่หน้าท้องปริมาณหลายแสนชีวิต ออกไปปล่อยลงในกระชังที่สร้างไว้ เพื่อให้ลูกปูม้าเจริญเติบโต และออกจากบริเวณใต้ท้องจนหมด ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน และหลังจากไข่ปูม้าเจริญเติบโตกลายเป็นลูกปูม้าวิ่งออกสู่ทะเลเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำปูม้ากลับมาคืนสมาชิกที่นำมาให้ เพื่อขายหรือบริโภคเป็นอาหาร ส่วนปูม้าที่ทางสมาชิกให้กับกลุ่มโดยไม่เอาคืน ทางกลุ่มก็จะเอาไปขายนำรายได้มาซื้อปลาทะเล มาเป็นอาหารใช้เลี้ยงปูที่อยู่ในกระชัง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกลุ่ม แม้ว่าแต่ละครั้งที่ขับเรือออกไป จะต้องใช้น้ำมันที่มีราคาแพงมากก็ต้องยอม นายไพฑูรย์ รื่นรวย อยู่บ้านเลขที่ 77/2 หมู่ 1 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม ประธานกลุ่มชาวประมงแหลมผักเบี้ย เปิดเผยว่า หลังจากตั้งกลุ่มได้ไม่นาน โดยการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างแพและกระชังเลี้ยงอนุบาลปูม้ากลางทะเล ในจำนวนเงิน 5,000 บาท จากกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สมาคมรักทะเลไทย มีชาวประมงพื้นบ้านใน ต.แหลมผักเบี้ย เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วกว่า 40 ราย จากจำนวนชาวประมงทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 80 ราย ลักษณะของธนาคารปูม้าที่ตั้งขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มปริมาณปูม้าให้กับท้องทะเล เพราะปัจจุบันชาวประมงพื้นบ้านนอกจากจะต้องต่อสู้กับปัญหาน้ำมันแพงแล้ว ยังพบว่าปริมาณสัตว์น้ำที่จับขายเลี้ยงครอบครัวกันอยู่ก็มีปริมาณลดลงอย่าง น่าใจหาย โดยเฉพาะปูม้าที่ในอดีตชุกชุมมาก เคยจับได้หลายสิบกิโลกรัมต่อการออกทะเลแต่ละครั้ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่ถึง 5 กิโลกรัมต่อครั้ง เมื่อหักค่าน้ำมันแล้ว ชาวประมงแทบไม่เหลืออะไร แต่ก็ยังดีที่ราคาปูม้าค่อนข้างดี ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท แต่ถ้าชาวประมงที่ไม่เป็นหนี้พ่อค้า หยิบยืมเงินมาใช้ลงทุนก่อน ก็จะนำไปขายเองจะได้ราคาสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-150 บาท ทำให้ชาวประมงย่านนี้ ยังสามารถออกเรือทำมาหากินในทะเลอยู่ได้ ท่ามกลางสภาวะที่ราคาน้ำมันแพง แต่ถ้าปริมาณสัตว์น้ำที่จับกันอยู่ลดลงหรือหมดไป คราวนี้แหละชาวประมงต้องเดือดร้อนแน่ จึงเป็นสาเหตุของการรวมตัวกันตั้งธนาคารปูม้าขึ้น ลักษณะการทำงาน จะมี 2 วิธี เมื่อชาวประมงได้ปูม้าที่มีไข่อยู่ใต้ท้องจำนวนมาก ก็จะนำมาให้ทางกลุ่ม ซึ่งมีที่ทำการอยู่บนฝั่ง เมื่อได้ปริมาณพอสมควร ชาวประมงนำไปใส่ไว้ในกระชังที่สร้างไว้กลางทะเลเอง หากต้องการนำปูม้ากลับคืนหลังไข่ฟักเป็นตัวหมดแล้ว ชาวประมงจะใช้สีเขียนชื่อติดไว้ที่กระดองปูม้า นายสมควร น้อยแสง อายุ 45 ปี ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการ เปิดเผยว่า ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของชาวประมง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้อีกไม่นานปูม้าคงจะค่อยๆ หมดไปจากท้องทะเลแน่นอน เนื่องจากจับกันอย่างเดียว แถมปูไข่ก็ไม่เว้น ก็จะทำให้ปริมาณลดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนั้นปัญหาที่ส่งผลกระทบอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ปูม้าลดลง คือการลักลอบเข้ามาคราดหอยของเรือขนาดใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ชายฝั่ง ผลของตะแกรงเหล็กที่ใช้คราดหอย นอกจากหอยตัวเล็กจะติดไปด้วยแล้ว ยังทำให้หน้าดินเน่าเสีย ลูกปูไม่มีอาหารกิน เสียชีวิตไปด้วย จึงขอวิงวอน ขอร้องเรือคราดหอยขนาดใหญ่ อย่ามาบุกรุกพื้นที่ทำกินของเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3,000 เมตรอีกเลย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 10-10-2009 เมื่อ 20:30 |
#43
|
||||
|
||||
ปรากฎว่า เที่ยวนี้ เราไม่มีโอกาสได้เยี่ยมชมแพอนุบาลปูม้าในทะเล เนื่องจากได้ถูกลากเข้ามาเก็บที่ท่าเรือเสียแล้ว เพื่อหลบคลื่นลมที่จะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆของทะเลฝั่งอ่าวไทย เราจึงแวะชมธนาคารปูม้า ของวิสาหกิจชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือคลองอีแอดแทน โดยมีกรรมการของวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้บรรยายความเป็นมาและวิธีดำเนินงานของธนาคารปูม้าแห่งนี้ให้พวกเราได้เข้าใจ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#44
|
||||
|
||||
ชมกันอย่างใกล้ชิด .... ดูในถังไม่ถนัด จึงใช้แก้วตักขึ้นมาส่อง จึงได้เห็นลูกปูม้าที่เพิ่งออกจากไข่ว่ายน้ำกันยั๊วเยี๊ย ก่อนที่จะถูกปล่อยไปตามท่อที่ต่อมายังถัง ลงไปยังคลองอีแอด
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#45
|
||||
|
||||
ลักษณะของไข่ที่ยังออกสีเหลืองๆอย่างนี้ คงต้องอยู่ในถังอีกสัก 2 วัน
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 10-10-2009 เมื่อ 20:51 |
#46
|
||||
|
||||
แต่ถ้าไข่ออกสีดำๆอย่างนี้ อยู่ในถังอีกสักวันเดียว แม่ปูก็จะดีดไข่ให้ออกมาเป็นตัวแล้ว
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#47
|
||||
|
||||
ไม่ได้มีเพียงแค่ปูม้านะครับ .... ปูทะเลก็มีด้วย แต่นานๆมีมาฝากเสียที ชาวบ้านแถวนี้ ถนัดหาเลี้ยงชีพด้วยการจับปูม้ามากกว่าปูทะเลครับ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#48
|
||||
|
||||
บนกระดานนี้ เป็นการบันทึกรายชื่อเรือประมงและจำนวนแม่ปูม้าที่นำมามอบให้ธนาคาร
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#49
|
||||
|
||||
เห็นความเสียสละและความสามัคคีของชาวบ้านแล้ว sos จึงได้ช่วยสนับสนุนเงินก้อนหนึ่งสมทบทุนสนับสนุนโครงการธนาคารปูม้าของชาวประมงแหลมผักเบี้ยด้วย หลังจากนี้ สมาชิก sos ที่มาร่วมกิจกรรมได้แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาด้วยความสุข สดชื่น ที่ได้มาร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อทะเลไทยและสภาพแวดล้อมในวันนี้
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#50
|
||||
|
||||
กิจกรรมตามโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน ที่ แหลมผักเบี้ย ครั้งนี้ บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ต้องขอขอบคุณบุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้ 1. คุณธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯทุกท่าน ที่ได้นำพันธุ์ปูม้า จำนวน 2 แสนตัว ให้สมาชิก sos ร่วมปล่อย และได้จัดเตียมพื้นที่พร้อมกล้าไม้ไว้ให้พวกเราร่วมปลูก 2. คุณจินตนา นักระนาด ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ที่ได้เตรียมพันธุ์หอยแครง จำนวน 1 ล้านตัว มาให้ปล่อย 3. เจ้าหน้าที่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ได้พาสมาชิก sos เข้าชมพื้นที่ของโครงการ พร้อมการบรรยายอันมีสาระประโยชน์ให้พวกเราได้รับทราบ 4. กรรมการวิสาหกิจชุมชนของแหลมผักเบี้ย ที่ได้ให้การต้อนรับ พร้อมนำชมโครงการธนาคารปูม้า 5. สมาชิก sos ทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่า เดินทางมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ จนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้ สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำเงินกองกลางชำระเป็นค่าใช้จ่ายรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 8,100 บาท ครับ ..... หวังว่าคงจะได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อทะเลไทยครั้งต่อๆไปนะครับ ... สวัสดี
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 10-10-2009 เมื่อ 21:39 |
|
|