#61
|
||||
|
||||
มองจากมุมนี้ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ...ไกด์บอกเราว่า นาขั้นบันไดเหล่านี้ มีหลักการเหมือนนาก้นกะทะที่มอไร กล่าวคือ ด้านบนกับด้านล่างจะมีอุณหภูมิที่ต่างกัน พืชไร่ที่ปลูก ซึ่งมีทั้งมันฝรั่ง (ที่มีราว 4,000 ชนิด) ข้าวโพด ข้าวสาลี หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ และพืชผักสวนครัวต่างๆ ก็จะปลูกในจุดที่อุณหภูมิเหมาะสมกับพืชนั้นๆ พื้นที่เกษตรกรรมโบราณอายุหลายร้อยปีเหล่านี้ ยังคงใช้ปลูกพืชไร่ มาจนถึงปัจจุบัน...
ไม่ใช่แค่หน้าผานี้ที่มีการทำนาขั้นบันได แต่หน้าผาถัดไป ด้านที่ติดกับแม่น้ำอูรูบัมบา ก็มีการทำนาไร่แบบขั้นบันไดเช่นกัน เมื่อเราไปยืนอยู่ด้านบนเหนือนาขั้นบันได...เรากลับมองไม่เห็นตัวนาขั้นบันไดเลย แสดงให้เห็นว่า นาขั้นบันไดสร้างอยู่บนหน้าผาที่สูงชันเพียงไร...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:13 |
#62
|
||||
|
||||
ตัวกินคุ่ยโผล่แล้ว หลักฐานคาปาก |
#63
|
||||
|
||||
ไกด์เล่าให้เราฟังว่า นาขั้นบันไดเหล่านี้ รากฐานถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง จึงมีอายุยืนยาวมาเป็นพันๆปี ด้านล่างสุดของนาขั้นบันได ถูกอัดไว้ด้วยหินที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบหลายชั้น ก่อนจะถมด้วยดินด้านบน และทำเหลื่อมไปเรื่อยๆ แต่น่าจะเป็นจากล่างขึ้นบน ซึ่งจะแตกต่างจากนาขั้นบันไดวงกลม ที่เป็นการทำจากด้านบนลงล่าง... ด้านบนของนาขั้นบันได เป็นวิหารสุริยเทพ ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจ และมีหินที่ทำหน้าที่เป็นปฏิทินของอินคา ที่เรียกว่า Intihuatana เหมือนที่เราเคยเห็นที่มาชูปิคชู รอบนอกจะเป็นป้อมปราการ สำหรับสอดส่องดูความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณ การก่อสร้างจะเหมือนกับที่เราได้เห็นที่มาชูปิคชู คือใช้หินต่อกันด้วยสลัก ไม่มีปูนยา และไม่พังทะลาย เพราะแรงแผ่นดินไหว แต่น่าเสียดายที่สเปนผู้รุกราน ได้ทำลายสถานที่นี้ไป ไม่เหมือนมาชูปิกชู ที่ไม่ได้ถูกค้นพบโดยพวกสเปน เสียดายที่พวกเราหมดแรงที่จะปีนขึ้นไปบนวิหารสุริยเทพ และป้อมปราการซึ่งอยู่สูงขึ้นไป...เขาว่านาขั้นบันไดที่บริเวณใต้ป้อมปราการนั้น ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นเหมือน ปีกนกกระทา (Partridge) ซึ่งในภาษาอินคา เรียกว่า Pisaca ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Pisac ซึ่งเป็นชื่อของสถานที่นี้ และหมู่บ้านเชิงเขาแห่งนี้นี่เอง..
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:14 |
#64
|
||||
|
||||
บริเวณอีกส่วนหนึ่งของซากโบราณสถานแห่งนี้ คือส่วนที่เป็นสุสานของชาวอินคาโบราณ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าผา ใต้ป้อมปราการด้านตะวันออก และเหนือนาขั้นบรรไดที่อยู่ด้านบนสุด
ลักษณะของสุสาน คือการขุดหินบริเวณหน้าผาให้เป็นห้องๆ และนำศพเข้าไปวางไว้ข้างใน ห้องที่ใส่ศพ...อยู่ติดๆกันเหมือนห้องแถว ยาวไปตามความยาวของหน้าผา ซากศพที่ถูกค้นพบ มีลักษณะตามภาพที่ไกด์ได้นำมาให้เราชม...คือ ศพจะถูกจับนั่ง รอบๆตัวจะเป็นของใช้ที่จำเป็นแก่ชีวิต ทั้งหม้อชามลามไห และเครื่องประดับส่วนตัวของผู้ตาย
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:15 |
#65
|
||||
|
||||
ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของซากโบราณอินคาปิแซคแห่งนี้ ก็คือ บ่ออาบน้ำเจ้าหญิง (Princess Bath) ซึ่งทดน้ำมาให้ชุมชมที่นี่ใช้ได้ตลอดปี ห้องอาบน้ำที่ยังรักษาสภาพไว้อย่างดี หินที่นำมาจัดเรียงไว้ ฝีมือปราณีต ต่อโดยใช้สลัก ไม่มีช่องว่างให้เห็น เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นทราคุสโก และมาชูปิคชู มาแล้ว รางน้ำ ที่ต่อมาจากธารน้ำที่ไหลมาจากยอดเขาสูง น้ำที่ไหลมาตามรางส่งน้ำ มาเก็บไว้ในบ่อที่สร้างไว้ มีน้ำเต็มตลอดปีตลอดชาติ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:18 |
#66
|
||||
|
||||
แม้ซากโบราณสถานของอินคาแห่งนี้ จะไม่ยิ่งใหญ่เท่ามาชูปิคชู แต่สภาพวิวทิวทัศน์ที่ห้อมล้อมอยู่รอบบริเวณนี้ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ประทับใจฉันอีกที่หนึ่ง ไม่แพ้มาชูปิกชูเลย เราเดินกลับตามทางเดินเดิม ตามหลังหญิงชาวพื้นเมือง ที่เดินแบกของท่าทางหนักอึ้งนำหน้าเราไป แต่เธอเดินเหมือนปลิวตามลม...คนที่นี่อยู่กับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ยาวนาน ในท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม อากาศที่สดชื่นไร้มลพิษ และจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง มีความรักสงบ ยึดมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นับถือกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบรุษ แม้จะเคยถูกรุกรานย่ำยีจนบอบช้ำแทบจะสิ้นเผ่าพันธุ์ แต่คนที่เหลืออยู่ ก็ยังสืบเชื้อสายอยู่บนโลกใบนี้สืบต่อมา อย่างสุขสงบและสันติจนถึงทุกวันนี้.... หญิงชาวพื้นเมืองคนนั้น ปูผ้าและวางสินค้าที่แบกมา เพื่อขายให้นักท่องเที่ยว แบบอยากซื้อก็ซื้อ ไม่อยากซื้อก็ไม่เป็นไร ไม่มีการตื้อหรือยัดเยียดให้ซื้อเหมือนคนบ้านเรา..
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:20 |
#67
|
||||
|
||||
ลงจากซากโบราณสถานอินคาที่ปิแซคแล้ว รถพาเรามาที่ตลาดในตัวเมือง ที่เรียกว่า Pisac Market ตลาดแห่งนี้มีสินค้าพื้นเมืองขายทุกวัน ส่วนตลาดสดนั้น จะมีเฉพาะวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ เท่านั้น ไกด์พาเราเข้าไปในตลาดขายของพื้นเมืองก่อน วัตถุประสงค์หลักคือ จะพาเราไปทานขนมปังพื้นเมืองใส่ไส้นานาชนิด ที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนพื้นเมืองเอง และนักท่องเที่ยว ไกด์ไปถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ตรงดิ่งเข้าไปหน้าเตาทำขนมปัง และสั่งแม่ค้าให้หยิบขนมปังมาให้ทาน เขาทานไปถามเราไป ว่าอยากจะรับประทานขนมปังไส้อะไร... โอ้...พ่อคุณ มาทานยั่วยวนอย่างนี้ ไม่หิวก็จะต้องขอลองสักหน่อยแล้ว... ขนมปังนานาไส้ของเขา กรอบนอกนุ่มใน มีทั้งไส้แฮม-ชีส ไส้ไก่ ไส้หวาน และอื่นๆ สำหรับขนมปังไส้แฮม-ชีสที่ฉันได้ทาน ก็อร่อยมากอย่างไกด์ว่าจริงๆ อย่างไรก็ตาม กาแฟที่ฉันสั่งมาทานกับขนมปัง รสชาติไม่ได้เรื่องเลยค่ะ... ที่ทำให้ยิ้มออกมา...ก็คือร้านนี้ทำรังสวยงามเอาไว้เลี้ยงคุ่ยโชว์ด้วย ฉันลืมถามไปว่า แล้วร้านนี้ทำขนมปังไส้คุ่ยด้วยหรือเปล่า
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:24 |
#68
|
||||
|
||||
จากนั้นไกด์พาเราไปดูการทำเครื่องเงิน (เป็นไปตามธรรมเนียมของไกด์ทั่วไป) คนทำเครื่องเงินสาธิตการทำงานให้เราดูแบบลวกๆ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาจะขายของให้เรา ซึ่งของที่ขายก็ดูธรรมดาๆ แต่ราคาแพงจนซื้อไม่ลง เมื่อไม่มีใครซื้อของ ไกด์ก็พาเราเดินผ่านร้านค้าของพื้นเมืองไป...โอ้! ที่นี่มีของน่าซื้อกว่าเครื่องเงินมากค่ะ... เห็นแล้วอยากควักเงินในกระเป๋าออกมาซื้อ... แต่ไกด์ยังไม่ยอมให้เราซื้อค่ะ..
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:25 |
#69
|
||||
|
||||
ที่ไกด์ยังไม่ให้เราซื้อของ....เป็นเพราะเขาจะให้เวลาเราหนึ่งชั่วโมงสำหรับการซื้อของที่ตลาด โดยพาเราไปส่งที่ตลาดสดพื้นเมืองที่อยู่ติดกันก่อน แล้วนัดแนะพบกันเมื่อหมดเวลาซื้อของ
สัญลักษณ์ของตลาดสดแห่งนี้ คือ Pisonay Tree (ต้นทองหลาง หรือ Indian Coral Tree, genus Erythrina) ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่อายุน่าจะเป็นร้อยปี มีต้นหนวดฤๅษีห้อยอยู่เต็ม ต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ริมจตุรัสหน้าเทศบาลเมือง ซึ่งชาวบ้านจะนำพวกพืชผักผลไม้ และ อาหารมาขาย ในวันอาทิตย์ จะมีทั้งคนขาย และ คนซื้อหนาแน่น ส่วนวันอังคารและพฤหัส ทั้งคนซื้อและคนขายจะน้อยกว่า สีสันของตลาดแห่งนี้ได้ใจฉันไปเลยค่ะ.. สินค้าที่ขายและคนที่ขาย เป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมืองโดยคนพื้นเมืองโดยแท้... มะเขือเทศ พริก หัวบีทรูท มันฝรั่ง ดูจะเป็นสินค้าหลักของที่นี่...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:28 |
#70
|
||||
|
||||
กล้วย ส้ม มะนาว และแอปเปิล ก็มีขายมาก...
เที่ยงกว่าแล้ว...ร้านค้าเลยกางผ้ากันแดด ทำให้ไม่เห็นฉากหลัง ซึ่งเป็นทิวเขาสูงสีเทาทึมๆ ที่ตัดกับสีสันฉูดฉาดของตลาดสด คนซื้อมีทั้งคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยว... ถ้าอยู่เมืองไทยแล้วเดินกลางแดดเปรี้ยงอย่างนี้ ฉันคงเหงื่อหยดติ๋งๆ และร้อนจนทนไม่ได้ แต่ที่นี่เราเดินกันได้สบายๆ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-12-2012 เมื่อ 12:31 |
|
|