เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 18-08-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 18 - 19 ส.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 23 ส.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 20 -23 ส.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-22 สิงหาคม 2565)" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2565

ในช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม 2565 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนจะเคลื่อนเข้าสู่แนวร่องสรสุม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลางโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 18-08-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


'วราวุธ' ต่อเนื่อง 'มาเรียมโปรเจค' เตรียมจัดตั้งสถาบันวิจัย อนุรักษ์พะยูน-สัตว์ทะเลหายาก



เวลา 09.30 น. วันที่ 17 สิงหาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์วันพะยูนแห่งชาติ (Dugong & Seagrass Week 2022) และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการจัดตั้งสถาบันวิจัยเพื่อการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง ร่วมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ (ปกท.ทส ) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คณะผู้บริหาร ทส. ผู้บริหารสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง และภาคีเครือข่าย โดยมี นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมใหญ่ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา อ.เมือง จ.ตรัง

นายวราวุธ กล่าวว่า นับตั้งแต่การสูญเสียพะยูน "มาเรียม" เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2562 จนถึงวันนี้ ครบ 3 ปี กระทรวงฯ ไม่เคยหยุดทำงานเพื่อแก้ไขและฟื้นฟู เพิ่มจำนวนพะยูนรวมถึงสัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทย และในวันนี้ นับเป็นการจัดงานครั้งแรก เนื่องใน "วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ" ซึ่งภายใต้ "มาเรียมโปรเจค" ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนพะยูนในธรรมชาติจาก 250 ตัว เป็น 265 ตัว และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 280 ตัว ภายในระยะเวลา 3 ปี ตามแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตรังที่นับว่าเป็นแหล่งพะยูนและหญ้าทะเลที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนจังหวัดตรังและภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะการจัดการปัญหาขยะทะเลตั้งแต่ต้นทางก่อนลงสู่ทะเล

โดยในช่วงบ่าย รมว.ทส. และ ปกท.ทส. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพอาคารที่จะจัดตั้งสถาบันวิจัยเพื่อการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง พร้อมรับฟังบรรยายสรุปและชมการสาธิตแนวทางการฟื้นฟูหญ้าทะเล ตลอดจนร่วมปล่อยเต่าทะเล ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ซึ่งอยู่บริเวณอ่าวสิเกา โดยสถาบันวิจัยฯ ดังกล่าว เป็นโครงการใหญ่ที่ใช้เวลาในการดำเนินงาน 15 ปี ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ศูนย์รักษาและฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายากที่เจ็บป่วย ศูนย์วิจัยความเป็นเลิศด้านพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก และศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ทั้งนี้ รมว.ทส. กล่าวว่า ในเบื้องต้น เป็นการสำรวจความเหมาะสมของพื้นที่ และโครงสร้าง ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและรบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด


https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_3512913

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 18-08-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ฮือฮา ชาวประมงพบของแปลก เชื่อเป็นงา-เขี้ยวสัตว์ดึกดำบรรพ์ วอนผู้รู้พิสูจน์

สตูล ฮือฮา ชาวประมงพื้นบ้านมนอ.ละงู พบของแปลก เชื่อเป็นงา-เขี้ยวสัตว์ดึกดำบรรพ์ วอนผู้รู้พิสูจน์ พบมีเปลือกหอยเกาะหนาแน่น



วันที่ 17 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชาวประมงพื้นบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล สามารถเก็บวัตถุบางอย่างมาจากท้องทะเล มีลักษณะคดโค้งยาวคล้ายงาหรือเขี้ยวของสัตว์ มีเปลือกหอยเกาะหนาแน่น ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่พากันฮือฮาและคิดกันไปต่างๆนานา ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าอาจเป็นงาหรือเขี้ยวของสัตว์ดึกดำบรรพ์

นายดาเหล็น สุการักษ์ อายุ 52 ปี อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน เปิดเผยว่า ตนออกไปจับสัตว์น้ำในทะเล โดยล่องเรือไปจอดที่เกาะแห่งหนึ่ง ใกล้ๆเกาะตะรุเตาเพื่อหลบคลื่นลมมรสุมที่กำลังแรง ขณะนั้นคลื่นได้ซัดเอาวัตถุบางอย่างมีรูปร่างประหลาดโผล่ขึ้นมาเหนือสันทราย ตนจึงไปหยิบมาดูพบว่ามีลักษณะคล้ายงาหรือเขี้ยวสัตว์ คดโค้ง งอ สวยงาม แถมเกาะแน่นไปด้วยเปลือกห้อย และทรายเกาะแน่น ดูแล้วสวยงามแปลกดี จึงนำกลับมาไว้ที่บ้าน

เพื่อนบ้านหลายคนก็ต่างมาดูกัน ต่างคิดไปกันว่าน่าจะเป็นงาสัตว์ดึกดำบรรพ์ จึงได้ติดต่อนักข่าวให้มาช่วยนำเสนอ และหาผู้รู้มาตรวจสอบ เบื้องต้นหลายๆคนทั้งผู้เฒ่าผู้แก่มาดูบอกว่าไม่ใช่อ้วกวาฬแน่นอน และไม่ใช่กิ่งไม้ที่พุหัก ตนเองจึงอยากให้ผู้ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับโบราณคดี และอุทยานธรณีโลกมาดู และยินดีให้ไปศึกษา

นายดาเหล็น เปิดเผยอีกว่า ตนเองจะเจออะไรที่แปลกๆบ่อยครั้ง และหลายปีที่ผ่านมาตนเองก็เจอก้อนหินตั้งอยู่บนโขดหินสูงอย่างมาก เพราะมีน้ำหนักขนาดนี้คงไม่มีใครยกไปวางตั้งที่สูงชันคล้ายหน้าผา มีลักษณะลายสีขาวสวยงาม และมีน้ำหนักถึง 11 กก. เจอที่หลังเกาะบูโหลน จึงนำกลับมาไว้ที่บ้าน ช่วงนำหินลักษณะที่แปลกประหลาดนี้มาไว้ที่บ้าน ถามว่าเจอสิ่งอะไรที่ลี้ลับหรือไม่ ตนเองบอกเลยว่าไม่พบแต่จะรู้สึกดีและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ตนรู้สึกถึงว่าหินก้อนนี้มีพลังบางอย่าง ที่ทำให้ตนเองแคล้วคลาดปลอดภัย เช่นออกเรือไปหาปลาเจอพายุก็ปลอดภัยกลับมา แม้กระทั้งขับรถไปทำธุระในตัวเมืองหลายๆครั้งเคยเกือบโดนรถชน แต่ก็แคล้วคลาดทุกครั้ง จึงเชื่อว่าหินก้อนนี้มีของดีอยู่ แต่ก็อยากให้ผู้รู้นำไปตรวจสอบเพราะถึงอย่างไร ของธรรมชาติ ก็ต้องเหมาะแก่การคืนกลับไปสู่ธรรมชาติ เพียงอยากรู้ว่า หินที่เจอนี้คือก้อนหินอะไร พร้อมที่จะพาไปชี้จุดที่พบด้วย ถ้าใครสนใจอยากจะดูโทรถามได้ ที่เบอร์ 094-3420657


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7218268

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:02


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger