เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 06-05-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้ทีพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง และทะเลอันดามันตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง และทะเลอันดามันตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 7-9 พ.ค. 65


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 6 ?11 พ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง และทะเลอันดามันตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนขึ้นไปปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 6 - 9 พ.ค. 65


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 6 ? 10 พ.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 06-05-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ซากสัตว์ทะเลใหญ่เบิ้ม เกยตื้นหาดแอฟริกาใต้-คาดเซ่นใบพัดเรือ



ซากสัตว์ทะเลใหญ่เบิ้ม ? วันที่ 5 เดอะมีร์เรอร์รายงานว่า เกิดเหตุซากสัตว์ทะเลลักษณะคล้ายปลาหมึกขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่หาดลองบีช เมืองโคมาคีย์ ใกล้กรุงเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ที่พบเห็น

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่โดยนายอาลี เพาลัส ที่ถ่ายภาพซากสัตว์ทะเลคล้ายปลาหมึกไว้ได้ โดยสภาพนั้นมีบาดแผลเหวอะหวะเต็มตัว ส่วนลำตัวยาวถึง 2.2 เมตร ไม่รวมหนวดที่พันระโยงระยาง คาดว่าถูกใบพัดเรือปั่น

รายงานระบุว่า ปลาหมึกยักษ์นั้นเป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่หาตัวพบยากที่สุดในโลกเนื่องจากพวกมันอาศัยอยู่ที่ระดับความลึก 300 ถึง 1,000 เมตร และมักไม่ขึ้นมาที่ผิวน้ำ

การพบซากของพวกมันก็หาได้ยากเช่นกัน โดยครั้งสุดท้ายนั้นมีผู้พบซากปลาหมึกยักษ์ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่ชายหาดกรุงเคปทาวน์ในปี 2563

นายเพาลัสเผยแพร่ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมระบุว่า "ปลาหมึกยักษ์ ลองบีช เมืองโคมาคีย์ มนุษย์เรามีความรู้เกี่ยวกับมันน้อยมาก แล้วก็ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าพวกมันเหลือกันอยู่มากน้อยเพียงใด"

"สายพันธุ์ของมันที่ทราบแน่ๆ มีอยู่ 3 สายพันธุ์ แต่ของจริงอาจจะมากกว่านั้น เพราะสามารถพบเจอพวกมันได้ทั่วโลก" และว่า "เจ้าตัวที่น่าสงสารนี้น่าจะถูกใบพัดเรือปั่นเอา"

ด้านผู้ที่แสดงความคิดเห็นต่างพากันระบุถึงความน่าตื่นตาตื่นใจและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเจ้าปลาหมึกยักษ์ตัวนี้

ทั้งนี้ ข้อมูลจากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ระบุว่า ปลาหมึกยักษ์มีขนาดตัวเต็มวัยที่ใหญ่มหึมามาก นับเป็นสิ่งมีชีวิตไม่มีกระดูกสันหลังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_7034063

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 06-05-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


ทุ่งหญ้าทะเลทั่วโลกเปลี่ยนคาร์บอนเป็นน้ำตาลนับล้านตัน เก็บไว้ใต้พื้นมหาสมุทร


ฝูงปลาแหวกว่ายเหนือทุ่งหญ้าทะเล ที่นอกชายฝั่งเกาะอีบิซาของสเปน

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันมักซ์พลังก์เพื่อการศึกษาจุลชีววิทยาทางทะเล (MPIMM) ของเยอรมนี ค้นพบแหล่งกักเก็บน้ำตาลซูโครสปริมาณมหาศาลนับล้านตันใต้พื้นมหาสมุทร โดยน้ำตาลเหล่านี้คือผลผลิตจากการสังเคราะห์ด้วยแสงของหญ้าทะเล

รายงานวิจัยข้างต้นซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Ecology & Evolution ระบุว่ากระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงที่มีประสิทธิภาพดียิ่งของทุ่งหญ้าทะเลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่มีแสงอาทิตย์เจิดจ้าเช่นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้คาร์บอนในบรรยากาศถูกดึงมากักเก็บไว้ใต้ทะเลในรูปของน้ำตาลซูโครสจำนวนมาก

กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) เป็นกระบวนการสร้างอาหารของพืชสีเขียว โดยมีสารคลอโรฟิลล์ทำหน้าที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ เปลี่ยนวัตถุดิบคือน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้กลายเป็นน้ำตาลและก๊าซออกซิเจน ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยให้หญ้าทะเลดูดซับคาร์บอนและจมมันลงก้นมหาสมุทรในปริมาณมหาศาล นับว่าเป็นผลดีต่อการชะลอภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างมาก

ตามปกติแล้วหญ้าทะเลจะปล่อยน้ำตาลที่ผลิตได้ล้นเกินออกทางราก จนซึมลงสู่ใต้พื้นมหาสมุทรทั่วโลกถึง 1.3 ล้านตัน คิดเป็นปริมาณเทียบเท่ากับน้ำตาลที่ใส่ในน้ำอัดลม 32,000 ล้านกระป๋อง ทำให้พื้นมหาสมุทรบริเวณที่มีทุ่งหญ้าทะเลขึ้นอยู่อิ่มด้วยน้ำตาล ซึ่งตรวจวัดได้ว่าเข้มข้นกว่าที่อื่นถึง 80%



นักวิทยาศาสตร์ตรวจหาน้ำตาลและสารเคมีที่หญ้าทะเลผลิตออกมา

นอกจากจะผลิตน้ำตาลซูโครสแล้ว หญ้าทะเลยังหลั่งสารจำพวกฟีนอล (Phenol) หรือกรดฟีนอลิกที่พบในกาแฟ ไวน์แดง และผลไม้บางชนิดออกมาด้วย โดยสารนี้จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่จะมากินน้ำตาลซูโครสเป็นอาหารได้

ทีมผู้วิจัยบอกว่า การเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์เป็นน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทุ่งหญ้าทะเลดูดซับกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่าป่าไม้บนบกที่มีขนาดเท่ากันถึง 2 เท่า ทั้งยังดูดซับคาร์บอนได้รวดเร็วกว่า 35 เท่าอีกด้วย

ดร. แม็กกี โซกิน หนึ่งในทีมผู้วิจัยบอกว่า "ทุ่งหญ้าทะเลมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมโลกมากมายเกินคาด แต่เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยเมื่อเทียบกับป่าไม้บนบก เราหวังว่าการค้นพบครั้งนี้จะช่วยให้โลกตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทุ่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่ถูกคุกคามทำลายมากที่สุดเช่นกัน"


https://www.bbc.com/thai/international-61338241

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:28


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger