เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 23-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ในช่วงวันที่ 23-28 เม.ย. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 23-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เคาะ 2 จุดสร้างท่าเรือแลนด์บริดจ์ ลงทุน 1.08 ล้านล้าน รับ 20 ล้านทีอียู เชื่อมขนส่งอันดามัน-อ่าวไทย



คมนาคมเคาะ 2 จุดสร้าง ท่าเรือ "Landbridge" แหลมอ่าวอ่าง (ระนอง)-แหลมริ่ว (ชุมพร) เชื่อมอันดามัน และอ่าวไทย ลงทุน 1.08 ล้านล้าน รับสินค้า 20 ล้านทีอียูต่อปี สั่ง สนข.ดูโปรเจ็กต์ "มะละกาเกตเวย์" ของมาเลเซีย และ "ดาราสาคร" ของกัมพูชา ทำแผนโรดโชว์เวที "เอเปก" ดึงดูดนักลงทุน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ครั้งที่ 2/2565 ว่า ที่ปรึกษาได้นำเสนอผลการคัดเลือกพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือที่เหมาะสมที่สุด ฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง คือ พื้นที่แหลมอ่าวอ่าง และฝั่งอ่าวไทย จังหวัดชุมพร คือ พื้นที่แหลมริ่ว เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่ง เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถรองรับปริมาณสินค้า ได้ 20 ล้าน TEU ตามผลการคาดการณ์ปริมาณสินค้าที่จะเข้ามาที่ยัง Landbridge รวมทั้งยังสามารถขยายท่าเรือ ในอนาคตให้สามารถรองรับปริมาณสินค้าได้มากถึง 40 ล้าน TEU เทียบเท่ากับปริมาณสินค้าที่ท่าเรือสิงคโปร์ในปัจจุบัน และอยู่ใกล้กับร่องน้ำลึก รองรับการเข้าใช้งานของเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ และตำแหน่งท่าเรือ ยังสอดคล้องกับผลการศึกษาแนวเส้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) และระบบราง MR8 ชุมพร - ระนอง

โดยผลการศึกษาเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในระยะเริ่มต้นประมาณ 400,000 ล้านบาท และเมื่อพัฒนาให้รองรับปริมาณสินค้าได้ 20 ล้าน TEUs จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท

หลังจากนี้ได้เร่งรัดเสนอคณะทำงาน บูรณาการโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามันกับ แหล่งมรดกทางธรรมชาติพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาในประเด็นผลกระทบกับพื้นที่มรดกโลกและพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่อไป



นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้มีข้อสั่งการให้ สำนักงานนโยบานและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และที่ปรึกษา ศึกษาปริมาณสินค้าและแผนทางการพัฒนาความสามารถในการรองรับสินค้าของโครงการแลนด์บริดจ์ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้โครงการมีความน่าสนใจ และสามารถแข่งขันกับโครงการการพัฒนาท่าเรือในประเทศต่างๆ เช่น โครงการ East Coast Rail Link (ECRL) และโครงการมะละกาเกตเวย์ ในประเทศมาเลเซีย และโครงการดาราสาคร ในประเทศกัมพูชา รวมถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมหลังท่าให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า และอุตสาหกรรมครบวงจร ได้แก่ เขตส่งเสริมธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น การธนาคาร การประกันภัย เป็นต้น เขตส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมดิจิตัล เขตอุตสาหกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม และเขตส่งเสริมการลงทุนปลอดภาษี

รวมถึงให้พิจารณาข้อกฎหมายที่สนับสนุนการดำเนินโครงการ เช่น การตรา พ.ร.บ. ฉบับใหม่สำหรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 โดยการขยายพื้นที่โครงการ และพิจารณาข้อจำกัดและแนวทางการดำเนินการของ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 สำหรับกรณีโครงการที่มีเจ้าของโครงการหลายหน่วยงาน เป็นต้น และได้เร่งรัดให้ สนข. จัดเตรียมข้อมูลรายละเอียด เพื่อนำเสนอ Thai Landbridge Model ในเวทีการประชุมคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค ครั้งที่ 52 (APEC Transportation Working Group : TPTWG 52) พร้อมเตรียม Road Show ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงการประชาสัมพันธ์เชิงรุกทั้งในระดับพื้นที่โครงการ และการประชาสัมพันธ์ไปสู่นักลงทุนต่างประเทศในช่องทางต่าง ๆ


https://mgronline.com/business/detail/9650000038490


*********************************************************************************************************************************************************


กรมขนส่งทางรางรับฟังความคิดเห็นโครงการ R-map เส้นทางรถไฟเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ส่งเสริมท่องเที่ยวและภาคเกษตร

กระบี่ - กรมการขนส่งทางราง เปิดรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ (R-map) ที่ จ.กระบี่ เส้นทางเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ชี้ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและภาคเกษตรของจังหวัดกระบี่



วันนี้ (22 เม.ย.) ที่โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กรมการขนส่งทางราง จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น "โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ" (R-map) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมผู้ประกอบการ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนา

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า กรมการขนส่งทางราง ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐาน และเสนอแนะนโยบาย ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางรางของประเทศ รวมถึงแผนการพัฒนาด้านการขนส่งทางราง ศึกษาและพัฒนาเพื่อกำหนดโครงข่ายการขนส่งทางราง จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวและการพัฒนาพื้นที่ และศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ และรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ โดยจะเป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายเดิมกับแหล่งเกษตรกรรม แหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค ทั้งในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์รูปแบบต่างๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายโอกาส การพัฒนาความเจริญสู่ระดับจังหวัด และภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สำหรับการวางแผนโครงข่ายเส้นทางรถไฟเพื่อเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ

เวทีการสัมมนาได้เสนอเส้นทางโครงข่ายรถไฟ สุราษฎร์ธานี-พังงา-กระบี่-ภูเก็ต โดยจะเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ โครงการดังกล่าวจะเชื่อมท่าเรือดอนสัก ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้เดินทางไปเกาะสมุย กับสนามบินภูเก็ต โดยแนวเส้นทางผ่านพื้นที่บ้านท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า และเส้นทางทับปุด-กระบี่ ซึ่งแยกจากเส้นทางสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต ที่สถานีทับปุด ลงมาเชื่อมต่อกับสนามบินกระบี่ ระยะทาง 68 กิโลเมตร ครอบคลุมเขตพื้นที่จังหวัดพังงา 1 อำเภอ คือ ทับปุด และกระบี่ 2 อำเภอ คือ อ่าวลึกและเมืองกระบี่ แนวเส้นทางจะเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร รองรับความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งทำให้เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวผ่าน 4 จังหวัด สุราษฎร์ธานี-พังงา-กระบี่-ภูเก็ต เชื่อมสนามบินภูเก็ต กระบี่ และท่าเรือดอนสัก โดยที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่ภาคใต้มากกว่า 30 ล้านคนต่อปี

นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกควบคู่กันไปเพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่น ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ ถนน เพื่อให้การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่สามารถรองรับและให้บริการนักท่องเที่ยวได้ทั้งการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบาย เกิดความประทับใจ จึงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี จนเป็นจังหวัดที่สามารถสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศได้สูงเป็นลำดับที่ 5 รองจากกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่

ขณะเดียวกัน ในภาคเกษตรกรรม การปลูกปาล์มน้ำมันที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักก็ขยายพื้นที่ปลูกมากเป็นลำดับต้นของประเทศ ส่งผลให้เกิดภาคอุตสาหกรรมตามมา คือ อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน โดยมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและลานเทเป็นจำนวนมาก ในอนาคตหากมีเส้นทางรถไฟเข้ามาจังหวัดกระบี่ จะเป็นทางเลือกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และยังเป็นทางเลือกในการลดต้นทุนการขนส่งให้ผู้ประกอบการได้อีกด้วย


https://mgronline.com/south/detail/9650000038417

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:26


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger