เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 22-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 22 กรกฏาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 21 - 22 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 24 ก.ค. 63 ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง

ส่วนในช่วงวันที่ 25 - 27 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกจะเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 21 - 22 และในช่วงวันที่ 25 - 27 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 22-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ทะเลนองเลือด เกาะแฟโรเริ่มฤดูฆ่าวาฬ นักอนุรักษ์วอนเลิกได้แล้ว



หมู่เกาะแฟโรในเดนมาร์ก ฆ่าฝูงวาฬจนทะเลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นักอนุรักษ์วอนยุติการกระทำที่โหดเหี้ยม

น้ำทะเลบนหมู่เกาะแฟโร ของเดนมาร์ก ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานหลังผู้คนท้องถิ่นเชือดวาฬในทะเล และนำซากมาวางเรียงรายบนชายหาด เป็นสิ่งที่องค์กรด้านอนุรักษ์สัตว์ขนานนามว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ซึ่งเกาะแห่งนี้ได้มีการฆ่าวาฬเป็นประจำทุกปีโดยไม่มีมาตรการใดๆ มาควบคุม โดยในปีนี้มีวาฬถูกฆ่าตายไปแล้วกว่า 250 ตัว

ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นของเกาะระบุว่าการล่าวาฬลักษณะนี้ถือเป็นประเพณีของพวกเขา โดยผู้ที่อาศัยบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ได้รับประทานเนื้อวาฬมาอย่างยาวนานกว่าพันปี


ภาพจาก: Sea Shepherd UK

ภาพการล่าวาฬที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้รักสัตว์ ไม่ได้เกิดขึ้นที่บนเกาะแฟโรเท่านั้น แต่ในประเทศในแถบเอเชียอย่างญี่ปุ่นได้มีการล่าวาฬมาอย่างยาวนานเช่นกัน ทำให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับข้อขัดแย้งระหว่างการล่าวาฬที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อนกับประเพณีล่าวาฬที่มีมาอย่างยาวนาน


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1894197

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 22-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


หมีขาวขั้วโลก สุ่มเสี่ยงจะสูญพันธุ์!! ภายในปี 2100


หมีขั้วโลกในอลาสก้าและรัสเซียจะประสบปัญหาร้ายแรงภายในปี 2080 (เครดิตภาพ Katharina M Miller / Polar Bears International)

นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ ถ้ามนุษย์ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมากเทียบเท่าปัจจุบัน สัตว์ที่อาศัยแถบขั้วโลก "หมีขาวขั้วโลก" มีโอกาสสูงที่จะสูญพันธุ์เกือบหมดภายในปี 2100

ที่จริงเพียงแค่ปี 2040 หรืออีกราว 20 ปีข้างหน้าก็จะเห็นสภาพปัญหาที่หมีขาวประสบในด้านการแพร่พันธุ์ และเริ่มทยอยสูญพันธุ์ในบางพื้นที่

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature Climate Change ได้ศึกษาโอกาสอยู่รอดของหมีขาวภายใต้สภาวะอากาศ 2 scenario , ภายใต้ business-as-usual คือ ไม่ได้มีการลดก๊าซเรือนกระจกแต่อย่างใด ยังคงดำเนินกิจกรรมของมนุษย์ตามปกติ เมื่อสิ้นสุดศตวรรษ หมีขาวจะยังหลงเหลืออยู่แค่ที่ Queen Elizabeth Islands , หมู่เกาะทางตอนเหนือของแคนาดา และหากภายใต้สถานการณ์ที่มีการลดก๊าซเรือนกระจกลงระดับปานกลาง หมีขั้วโลกบริเวณ Arctic จะไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ในปี 2080

นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า ปัจจุบันหมีขั้วโลกหลงเหลืออยู่ประมาณ 26,000 ตัว บริเวณ Svalbard,Norway,Hudson Bay ในแคนาดา และบริเวณ Chucki Sea ระหว่าง Alaska และ Siberia โดยปกติแล้วหมีขาวอาศัยผืนน้ำแข็งในการหาอาหาร แต่สาเหตุจากภาวะโลกร้อน กำลังทำให้ผืนน้ำแข็งหายไป หมีขาวจะสะสมพลังงานช่วงฤดูหนาว เพื่อนำพลังงานเหล่านี้ไปใช้ในช่วงฤดูร้อนที่ต้องออกหาอาหาร บนผืนน้ำแข็งที่ลดลงเรื่อยๆ

โดยพบว่าบริเวณ Alaska's southern Beaufort Sea จำนวนหมีขาวลดลงถึง 25-50% ในช่วงที่ปริมาณน้ำแข็งเริ่มลดลง และบริเวณ western Hudson Bay ปริมาณหมีลดลง 30% ตั้งแต่ปี 1987

P?ter Moln?r นักชีววิทยาจาก University of Toronto ศึกษาวิจัยว่าหมีขาวสามารถอดอาหาร หรือใช้พลังงานน้อยสุดเท่าใดเพื่อการอยู่รอด และหาความสัมพันธ์กับปริมาณในวันที่ทะเลจะปราศจากน้ำแข็งในอนาคต ว่าจะมีจำนวนหมีขาวมากน้อยแค่ไหนที่ได้รับผลกระทบ

"ถึงแม้ว่าเราจะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังจะมีหมีขาวจำนวนหนึ่งสูญพันธุ์ภายในสิ้นศตวรรษนี้ โดยเฉพาะบริเวณ western และ southern Hudson Bay,Davis Straight แต่ปริมาณหมีขาวจะยังคงเหลือมากกว่าการที่เราไม่ลดก๊าซเรือนกระจกเลยแน่นอน"

งานวิจัยศึกษาประชากรหมี 13 แห่งจากทั้งหมด 19 แห่ง คิดเป็น 80% ของหมีขาวทั้งหมด พบว่าหมีขาวบริเวณ sounthern Hudson Bay และ Davis Straight จะเริ่มสูญพันธุ์ในปี 2040 บริเวณ Alaska และ Russia ในปี 2080 และสูญพันธุ์เกือบหมดในปี 2100

แม้ว่าเราจะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ในอนาคต แต่โลกยังต้องอาศัยเวลา 25-30 ปี กว่าที่น้ำแข็งขั้วโลกจะกลับมาแข็งแรงพอ เนื่องจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศมาเป็นเวลานานนั่นเอง


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000074952

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 22-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์


อีก 80 ปีหมีขั้วโลกจะสูญพันธุ์เพราะโลกร้อน

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้น้ำแข็งขั้วโลกที่เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยละลายจนหมีขาดอาหาร



ผลการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยโตรอนโตของแคนาดาซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Climate Change ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน จะทำให้ประชากรหมีขั้วโลกเสี่ยงสูญพันธุ์ภายในปี 2100 หรืออีก 80 ปีข้างหน้า เนื่องจากน้ำแข็งขั้วโลกซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยละลาย

งานวิจัยยังระบุอีกว่า เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย หมีขั้วโลกจะถูกบีบบังคับให้อพยพไปอยู่บนพื้นดิน ทำให้การล่าแมวน้ำเป็นไปได้ยากขึ้น ส่งผลให้หมีขั้วโลกต้องนำไขมันที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้ ซึ่งวิธีนี้เป็นอันตรายกับหมี

นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่าลูกหมีขั้วโลกตกอยู่ในความเสี่ยงที่สุด เนื่องจากต้องอดอาหาร ขณะที่หมีตัวเต็มวัยเพศเมียที่ไม่มีลูกจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ทั้งนี้ งานวิจัยชิ้นนี้ทำการสำรวจประชากรหมีขั้วโลกตั้งแต่ปี 1979-2016 แล้วใช้โมเดลคอมพิวเตอร์คำนวณว่าหมีขั้วโลกจะมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าใดหากต้องอดอาหาร ร่วมกับการคำนวณว่าหมีขั้วโลกราว 80% ของหมีทั้งหมดจะต้องเผชิญกับภาวะนำแข็งขั้วโลกละลายจนไร้ที่อยู่อาศัยเมื่อใด


https://www.posttoday.com/world/628908

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 22-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


ค้านสายตาชาวบ้าน ศาลปกครองยกฟ้องคดีน้ำมันรั่ว ยันหน่วยงานรัฐฟื้นฟูทะเลระยองเรียบร้อยแล้ว ................ โดย ปรัชญ์ รุจิวนารมย์

ศาลปกครองระยองอ้างเหตุหน่วยงานรัฐฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมดีแล้ว และพิพากษายกฟ้อง คดีที่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วที่ จ.ระยอง เมื่อปี พ.ศ.2556 ฟ้อง 6 หน่วยงานรัฐ ฐานไม่ได้ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม ด้านกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านยืนยัน ผลกระทบน้ำมันรั่วยังชัดเจน กว่า 80% ของน้ำมันรั่วยังปนเปื้อนอยู่ก้นสมุทร จนทะเลระยองทำประมงไม่ได้

เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม พ.ศ.2563 ศาลปกครองระยองอ่านคำพิพากษาคดีปกครอง ที่สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง และประชาชน 454 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (กปน.) กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมควบคุมมลพิษ ที่ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษ บรรเทาผลกระทบที่เกิดแก่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงชดเชยค่าเสียหายให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและความเป็นจริงอย่างเป็นธรรม


เจ้าหน้าที่เร่งกำจัดคราบน้ำมันบนชายหาดด้านอ่าวพร้าว ทางตะวันตกของเกาะเสม็ด หลังจากท่อน้ำมันดิบกลางทะเลรั่วลงสู่ทะเลระยอง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2556 //ขอบคุณภาพจาก: เริงฤทธิ์ คงเมือง/กรีนพีซ

โดยผลการพิพากษาคดีดังกล่าว ทนายความตัวแทนผู้ฟ้องคดีจาก มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า ศาลปกครองระยองพิพากษาไปในทางเดียวกับความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดี ที่ได้ให้ความเห็นว่า หน่วยงานทั้งหมดดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายตามอำนาจหน้าที่แล้ว จึงเห็นควรยกฟ้อง

อย่างไรก็ดี บรรเจิด ล่วงพ้น ประธานเครือข่ายประมงพื้นบ้านโบสถ์ญวน หนึ่งในโจทก์ผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า จากที่ฟังคำพิพากษา ศาลเหมือนไม่ได้เอาข้อมูลของฝ่ายผู้ฟ้องคดีไปพิจารณา จึงเป็นเหตุให้มีคำตัดสินออกมาในรูปแบบดังกล่าว ถึงแม้ว่าฝ่ายผู้ฟ้องคดีจะมีหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากเหตุน้ำมันรั่วที่ยังคงเห็นอยู่อย่างชัดเจน

โดย บรรเจิด ได้ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่เหตุน้ำมันรั่วเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา สัตว์น้ำในทะเลระยองที่เคยมีมากมายถึง 80 ชนิดหายไปเกือบหมด สัตว์น้ำที่เหลืออยู่ก็มีสภาพผิดปกติไป ไม่รู้ว่าเป็นอันตรายหากบริโภคหรือไม่ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านต้องเสี่ยงภัยนำเรือเล็กที่มีออกไปหาปลาไกลขึ้น ทำให้ต้นทุนการประกอบอาชีพสูงขึ้น การหาปลาในทะเลเปิดยังอันตรายอย่างยิ่ง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านระยองต้องเสียชีวิตจากคลื่นลมและพายุแล้วหลายคน

"สาเหตุที่ทะเลระยองยังไม่ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์กลับมาก็เพราะว่า บริษัทผู้รับผิดขอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้จัดการทำความสะอาดคราบน้ำมันที่รั่วไหลลงทะเลอย่างเหมาะสม มุ่งเน้นแต่เพียงจัดการคราบน้ำมันที่ลอยไปเกยหาดเกาะเสม็ดเท่านั้น แต่คราบน้ำมันอีกกว่า 80% ยังคงจมอยู่ใต้ท้องอ่าวระยอง" บรรเจิด กล่าว

"นับตั้งแต่เหตุน้ำมันรั่ว เราพบเต่าทะเลตายกว่า 200 ตัวในพื้นที่อ่าวระยอง อีกทั้งยังพบก้อน tarball ลอยมาเกยหาดทุกปี บ่งชี้ว่าสภาพสิ่งแวดล้อมอ่าวระยองยังคงปนเปื้อนมลพิษอย่างหนัก ผิดกับคำชี้แจงของทางภาครัฐที่บอกว่าได้ทำความสะอาดคราบน้ำมันและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดีแล้ว"

เขากล่าวว่า หลังจากนี้กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วจะเตรียมการยื่นอุธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป


https://greennews.agency/?p=21450

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:49


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger