เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 15-10-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 16 ต.ค. 2564

อนึ่ง พายุดีเปรสชัน "คมปาซุ" บริเวณตอนเหนือของเมืองวิญ ประเทศเวียดนามตอนบน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 15-16 ต.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 ต.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนน้อย ในขณะที่ร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

อนึ่ง พายุโซนร้อน "คมปาซุ" มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 14 ต.ค. 64 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 15-16 ต.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดจากฝั่ง




*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ "คมปาซุ"" ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2564

เมื่อเวลา 23.00 น. วานนี้ (14 ต.ค. 2564) พายุดีเปรสชัน "คมปาซุ" บริเวณตอนเหนือของเมืองวิญ ประเทศเวียดนามตอนบน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้วในบริเวณดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนลดลง

อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 16 ต.ค. 2564












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 15-10-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ซากฟอสซิลแอมโมไนต์ เคยอุดมบนชายฝั่งทางตอนใต้ของอังกฤษ


(ภาพประกอบ Credit : Christina lfrim)

แอมโมไนต์ (Ammonite) เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเซฟาโลพอด (Cephalopods) ซึ่งฟอสซิลแอมโมไนต์ที่รู้จักกันดีที่สุดคือสมบัติในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติมึนส์เทอร์ในเยอรมนี พวกมันมีความเกี่ยวข้องกับปลาหมึกและปลาหมึกยักษ์ แอมโมไนต์ดังกล่าวมีเส้นผ่าศูนย์กลางเปลือกสูงสุด 1.8 เมตร พวกมันถูกกำจัดไปในช่วงปลายยุค ครีเตเชียส ที่อุกกาบาตพุ่งชนโลกเมื่อ 66 ล้านปีก่อน ทำให้ยุคของไดโนเสาร์สิ้นสุดลง

แต่มีนักวิทยาศาสตร์เผยว่าแอมโมไนต์เคยเจริญเติบโตใน 2 ด้านของมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งในดินแดนที่เป็นปัจจุบันคือแคว้นซัสเซ็กซ์ของอังกฤษและในเม็กซิโก ก่อนที่พวกมัน จะเข้าสู่หายนะจากอุกกาบาต ซึ่งยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ ที่ระบุว่าซากฟอสซิลแอมโมไนต์อายุมากกว่า 80 ล้านปีมีอย่างอุดมสมบูรณ์และพบเห็นได้ง่ายบนชายฝั่งทางตอนใต้ของอังกฤษ

ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นำโดยนักบรรพชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ยูราในเยอรมนี ที่ศึกษาแอมโมไนต์ขนาดยักษ์จำนวน 154 ตัวที่ได้จากหินยุคครีเตเชียส พบในเยอรมนี เม็กซิโกและสหราชอาณาจักร เผยว่าซากฟอสซิลแอมโมไนต์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ขนาดใหญ่มักพบตามแนวชายฝั่งเมืองพีชฮาเวน ในอีสต์ ซัสเซ็กซ์ สายพันธุ์นี้หายากมากทำให้ข้อมูลน้อยไปโดยปริยาย ทว่าการค้นพบฟอสซิลแอมโมไนต์มากมายกว่าร้อยชิ้นในซัสเซ็กซ์หรือเม็กซิโก ก็ช่วยให้นักวิจัยเริ่มประกอบลำดับวิวัฒนาการของพวกมันได้ จนสามารถระบุว่าพวกมันแพร่กระจายเติบโตอย่างมหาศาลเมื่อ 83 ล้านปีก่อน.


https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2218427
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 15-10-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


"เกาะสิมิลัน" พร้อมเปิดให้เที่ยว 15 ต.ค.นี้ แบบ New Normal ไม่เกิน 3,850 คน/วัน



อช. สิมิลัน เผยพร้อมเปิดรับการท่องเที่ยว 15 ตุลาคมนี้ ในรูปแบบ New Normal จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 3,850 คน/วัน แบ่งเป็น การท่องเที่ยวแบบไปเช้า - เย็นกลับ (One Day Trip) ไม่เกิน 3,325 คน/วัน และดำน้ำลึกไม่เกิน 525 คน/วัน

นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งได้เปิดให้บริการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. เพื่อรองรับการเปิดเกาะให้เที่ยวชมในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้หลังจากที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีคำสั่งให้ปิดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันตั้งแต่เดือนตั้งแต่ช่วงที่มีโควิด-19 ระบาดในรอบเดือนเมษายน มาจนเข้าสู่การปิดตามฤดูกาลในฤดูมรสุม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอคอยเพื่อจะได้กลับไปเยี่ยมชมความสวยงามของหมู่เกาะสิมิลัน แหล่งดำน้ำลึกที่มีความสวยงาม ติด 1 ใน 10 ของโลกอีกครั้ง

หัวหน้าอุทยานหมู่เกาะสิมิลัน กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันมีความพร้อมเต็มร้อย ที่จะเริ่มเปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ถึง 15 พฤษภาคม 2565 เป็นเวลา 7 เดือน โดยแบ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบไปเช้า - เย็นกลับ (One Day Trip) วันละ 3,325 คน และกิจกรรมดำน้ำลึก 525 คนต่อวัน รวมทั้งหมดไม่เกิน 3,850 คนต่อวัน ซึ่งทางอุทยานฯได้ดำเนินการในแบบ New Normal โดยจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าก่อน 1 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2564 จนถึง 14 พฤษภาคม 2565

สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการเองได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากจังหวัดพังงาเป็นพื้นที่ขยาย Sandbox มาจากภูเก็ต ก็เลยต้องมีการทำระบบ SHA PLUS ที่รองรับมาตรฐาน ผู้ประกอบการไหนที่ผ่าน SHA PLUS ถือว่าผ่านมาตรฐานการรับรองการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยแล้ว ก็สามารถดำเนินการเข้ามาซื้อตั๋วได้ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการที่ยังไม่ผ่าน SHA PLUS จะต้องนำใบตรวจโควิด-19 และ ใบฉีดวัคซีน นำมาประกอบในการซื้อตั๋วทุกคน ส่วนนักท่องเที่ยวเองต้องผ่านการรับรองของผู้ประกอบการที่มีบัญชีรายชื่อตามแบบที่ต้องลงรายชื่อก่อนล่วงหน้า จะต้องผ่านตามมาตรการจังหวัดพังงา

ในส่วนของกิจกรรมดำน้ำลึก จะมีเรือชุดปฏิบัติการออกตรวจ ทั่วทั้งอุทยาน ซึ่งที่มีจุดดำน้ำ 21 จุด จะทำการตรวจเรือทุกลำ ในส่วนเจ้าหน้าที่ของอุทยานเกาะสิมิลัน 85 คน ได้ฉีดวัคซีน 3 เข็มแล้วกันทุกคน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันของเรามีมาตรฐาน 100% จึงขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ ซึ่งจะเริ่มขายตั๋วในวันที่ 14 ต.ค. เป็นวันแรก

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จ.พังงา เดิมอช.หมู่เกาะสิมิลัน ประกอบด้วยเกาะ 9 เกาะ คือ เกาะหนึ่ง(หูหยง) เกาะสอง(ปายัง) เกาะสาม(ปาหยัน) เกาะสี่(เมียง) เกาะห้า เกาะหก(ปายู) เกาะเจ็ด(หินปูซาร์) เกาะแปด(สิมิลัน) และเกาะเก้า(บางู)

ต่อมาทางกรมอุทยานฯได้ผนวกรวมเกาะตาชัยและเกาะบอนที่อยู่ในน่านน้ำละแวกเดียวกันเพิ่มเข้าไปอีก 2 เกาะ ทำให้หมู่เกาะสิมิลันปัจจุบันมี 11 เกาะด้วยกัน

สำหรับจุดไฮไลท์หลักของหมู่เกาะสิมิลัน มี 2 เกาะ หลัก ๆ ได้แก่ เกาะสี่ และ เกาะแปด

เกาะสี่ เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่ตั้งของที่ทำการ อช.หมู่เกาะสิมิลัน นอกจากนี้ยังมีบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ

บนเกาะสี่ มีจุดท่องเที่ยวหลัก คือ "หาดหน้า" อันสวยงาม ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสวยใสแจ๋ว และ "หาดเล็ก" ที่มีความเป็นธรรมชาติและเป็นส่วนตัว

ส่วนเกาะแปด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดสำคัญที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน เพราะมี "หินเรือใบ" ที่ถือเป็นไฮไลท์ประจำเกาะและเป็นดังสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแห่งนี้

นอกจากนี้หมู่เกาะสิมิลันยังมีโลกใต้น้ำที่สวยงามน่าทึ่ง มีปะการังหลากลหาย และปลาสวยงาม หลากหลายชนิด สามารถดำน้ำ ได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ซึ่งหมู่เกาะสิมิลันได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน แหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามและดีที่สุดของโลก

ผู้สนใจสามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 93 หมู่ที่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หรือ โทร.076-453272


https://mgronline.com/travel/detail/9640000101917

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 15-10-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


15 ตุลาคม 2406 เรือดำน้ำลำแรกที่จมเรือข้าศึก "จม" พร้อมกับคนสร้าง



เรือฮันลีย์ เป็นเรือดำน้ำยุคบุกเบิก มันถูกสร้างออกมาในยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐ ชื่อเสียงของมันคือเป็นเรือดำน้ำที่จมเรือข้าศึกได้เป็นลำแรก แต่ตัวมันเองก็จมบ่อยเหลือเกิน คือจมมากถึง 3 ครั้ง หนึ่งในนั้นก็คือจมไปพร้อมกับคนที่สร้างมันขึ้นมา

เรือ เอช.แอล. ฮันลีย์ เป็นเรือดำน้ำของฝ่ายสมาพันรัฐอเมริกา ที่มีบทบาทเล็ก ๆ ในสงครามกลางเมืองอเมริกา แต่มันก็ได้แสดงให้เห็นถึงข้อดีของเรือดำน้ำ และอันตรายของการทำสงครามใต้ทะเล มันเป็นเรือดำน้ำรบลำแรกที่จมเรือรบได้ ( เรือยูเอสเอส ฮูซาโทนิค ) แม้ว่าขณะนั้น มันจะไม่ได้ดำลงไปใต้น้ำทั้งลำก็ตาม และหลังจากการโจมตีที่ประสบความสำเร็จ มันก็ได้สูญหายไปพร้อมกับลูกเรือ

มันได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของโฮเรซ ลอว์วัน ฮันลี่ย์ คนที่สร้างมันขึ้นมา ไม่นานหลังจากที่มันถูกนำเข้าประจำการณ์ ภายใต้การควบคุมของกองทัพสมาพันธรัฐ ที่เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา



เรือฮันลี่ย์ ยาวเกือบ 12 ม. ต่อขึ้นที่เมืองโมไบล์ รัฐอะลาบามา และปล่อยเรือลงน้ำในเดือนกรกฎาคม 2406 จากนั้นมันถูกส่งโดยทางรถไฟในวันที่ 12 สิงหาคม 2406 ไปยังเมืองชาร์ลสตัน

แต่ปรากฏว่า ฝ่ายสมาพันธรัฐสูญเสียลูกเรือไปทั้งสิ้น 21 นาย จากการจมถึง 3 ครั้งของเรือฮันลี่ย์ในช่วงชีวิตสั้น ๆ ของมัน



ฮันลีย์ ( ซึ่งตอนนั้นเรียกว่า "เรือปลา", "เรือปลาตอร์ปิโด" หรือ "ปลาโลมา") จมครั้งแรกวันที่ 29 สิงหาคม 2406 ในระหว่างการทดสอบ ส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิต 5 นาย มันจมอีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2406 สังหารลูกเรือไปอีก 8 คน รวมถึงฮอเรซ ลอว์สัน ฮันลีย์ ซึ่งอยู่บนเรือในขณะนั้นด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ทหารของกองทัพสมาพันธรัฐก็ตาม แต่ในทั้ง 2 ครั้ง ฮันลี่ย์ยังถูกกู้ขึ้นมาได้ และกลับเข้าประจำการได้

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2407 ฮันลีย์ออกโจมตีและจมเรือรบกองทัพเรือสหรัฐขนาด 1,240 ตัน ซึ่งทำหน้าที่ปิดล้อมอยู่ที่นอกท่าเรือเมืองชาร์ลสตัน แต่ฮันลีย์ก็ไม่รอดจากการโจมตี และมันเองก็จมลงอีกครั้ง พร้อมกับลูกเรือทั้ง 8 นาย และคราวนี้ เรือได้สูญหายไป ไม่ได้กลับฐาน



มันถูกระบุตำแหน่งได้ในปี 2538 และได้รับการกู้ขึ้นมาในปี 2543 และปัจจุบัน ก็ถูกตั้งแสดงอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์วอร์เรน ลาสช์ ที่นอร์ธ ชาร์ลส์ตัน รัฐเซาท์แคโรไลน่า บนแม่น้ำคูเปอร์

การตรวจสอบเรือในปี 2555 ชี้ให้เห็นว่าเรืออยู่ใกล้กับเป้าหมายแค่ 6.1 ม. เมื่อตอร์ปิโดของมันระเบิด จึงทำให้เรือดำน้ำจมลงไปด้วย


https://www.nationtv.tv/news/378846327

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:13


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger