เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 07-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 7 เมษายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยในวันที่ 12 เม. ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


ข้อควรระวัง

9 - 10 และ 12 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 07-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เย้ยพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นักท่องเที่ยวจีนล่าปลานกแก้ว รมว.ทส.สั่งจัดการแล้ว

"ยุทธพล" ที่ปรึกษา รมว.ทส. สั่งจัดการนักท่องเที่ยวชาวจีนล่าปลาสวยงาม จ.ภูเก็ต "กรมทะเล" เตรียมใช้กฎหมายจัดการถึงที่สุด



กรณีมีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในเพจ แฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต พบไกด์แอบพานักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ยและล่ายิงปลาสวยงาม โดยรับเป็นกลุ่มเล็กๆ พร้อมได้มีการโพสต์ภาพปลาที่ยิงได้เพื่ออวดต่อสาธารณะ จนนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประสานสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจสอบทันที เบื้องต้น สรุปได้ว่าปลาที่เห็นตามภาพเป็นปลานกแก้ว ปลาขี้ตังเบ็ด และปลาวัวหางพัด จัดอยู่ในประเภทปลาสวยงามห้ามล่า ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้กำหนดเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เร่งสืบหาผู้กระทำความผิด เตรียมใช้กฎหมายจัดการถึงที่สุด พร้อมเพิ่มกำลังตรวจตราลาดตระเวนในพื้นที่อย่างเข้มงวด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ทันทีที่ตนได้รับรายงานว่ามีกลุ่มแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า แฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพอ้างว่ามีไกด์นำกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ย จังหวัดภูเก็ต โดยจัดเป็นกลุ่มขนาดเล็ก พร้อมโพสต์ภาพปลาที่ยิงล่ามาได้ ตนได้ประสานแจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อตรวจสอบและเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญและต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน อย่างไรก็ตาม ตนได้รายงานให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ทราบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งท่าน รมว.ทส.ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง เพื่อยุติการกระทำในลักษณะดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ทั้งตนและท่าน รมว.ทส.ก็ต้องขอขอบคุณกลุ่มแฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานภาครัฐ ที่ชี้ให้เห็นถึงการทำร้าย ทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

หากมองอีกมุม ตนรู้สึกว่าภายใต้เรื่องร้ายๆ ยังมีเรื่องที่ดีที่พี่น้องประชาชนรู้สึกห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติและรู้สึกว่าทรัพยากรธรรมชาติเปรียบเสมือนสมบัติส่วนรวมที่ทุกคนต้องช่วยกันดูและเฝ้าระวัง สุดท้ายตนอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนว่า ?การล่าปลาสวยงามในแนวปะการัง นอกจากมิใช่เป็นการล่าเพื่อดำรงชีพ กลับยังเป็นการทำลายวงจรในระบบนิเวศ อย่าคิดว่าปลาเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่ล่าได้ ไม่ทำให้ระบบนิเวศเสียหายหรือเสียสมดุล ความคิดเช่นนี้สร้างความสูญเสียให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน ปลาหนึ่งตัวอยู่สร้างสมดุลให้ระบบนิเวศได้นับปี การล่า คือ การทำลายตัดวงจรความสมดุล มนุษย์จะเก่งไม่ได้อยู่ที่ล่าสัตว์ได้ แต่อยู่ที่รักษาสัตว์ให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืนสามารถใช้ประโยชน์จนถึงลูกหลานต่างหาก และในสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด-19 นี้กำลังระบาด ทำให้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในสังกัดของกระทรวง ทส.แทบทุกแห่ง จึงเป็นช่วงที่ธรรมชาติเขาจะได้มีโอกาสฟื้นตัว จึงขอวิงวอนว่าช่วงนี้ท่านอย่าสร้างปัญหาให้กับธรรมชาติอีกเลย" นายยุทธพล กล่าววิงวอน

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ลงพื้นที่บริเวณหาดนุ้ย ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวมิได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามียังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังคงท่องเที่ยวดำน้ำหรือไม่ พร้อมตรวจตราลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบภาพปลาที่นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวล่าได้ เป็นปลาจำพวก ปลานกแก้ว Scarus spp., ปลาขี้ตังเบ็ด Acanthurus lineatus, และปลาวัวหางพัด Aluterus scriptus ซึ่งปลาทั้งหมดไม่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายสัตว์คุ้มครองฯ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 แต่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2560 ซึ่งการจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และประชาสัมพันธ์ในพื้นที่หากพบเห็นการกระทำลักษณะดังกล่าวให้แจ้งสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ที่นายประจวบ โมฆรัตน์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหมายเลข 08-4439-9423 ทันที นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ กล่าว.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/1813536

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 07-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เย้ย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน นักท่องเที่ยวจีนแอบล่ายิงปลาสวยงามหาดนุ้ย

ยุทธพล ที่ปรึกษา รมว. ทส. สั่งจัดการนักท่องเที่ยวล่าปลาสวยงาม จ.ภูเก็ต กรม ทช. งัดกฎหมายจัดการถึงที่สุด


ปลาสวยงามที่ถูกนักท่องเที่ยวจีนล่ายิง (ภาพ : เพจ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)

กรณีมีการโพสข้อความผ่าน Facebook ในเพจ แฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต พบไกด์แอบพานักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ยและล่ายิงปลาสวยงาม โดยรับเป็นกลุ่มเล็ก ๆ พร้อมได้มีการโพสต์ ภาพปลาที่ยิงได้เพื่ออวดต่อสาธารณะ จนนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประสานสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจสอบทันที

เบื้องต้น สรุปได้ว่าปลาที่เห็นตามภาพเป็นปลานกแก้ว ปลาขี้ตังเบ็ด และปลาวัวหางพัด จัดอยู่ในประเภทปลาสวยงามห้ามล่า ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้กำหนดเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เร่งสืบหาผู้กระทำความผิด เตรียมใช้กฎหมายจัดการถึงที่สุด พร้อมเพิ่มกำลังตรวจตราลาดตระเวนในพื้นที่อย่างเข้มงวด

นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ทันทีที่ตนได้รับรายงานว่ามีกลุ่มแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า แฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ได้โพสข้อความพร้อมภาพอ้างว่ามีไกด์นำกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ย จังหวัดภูเก็ต โดยจัดเป็นกลุ่มขนาดเล็ก พร้อมโพสภาพปลาที่ยิงล่ามาได้ ตนได้ประสานแจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อตรวจสอบและเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญและต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ตนได้รายงานให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว. ทส.) ทราบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งท่าน รมว. ทส. ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง เพื่อยุติการกระทำในลักษณะดังกล่าวซึ่งเรื่องนี้ทั้งตนและท่าน รมว. ทส. ก็ต้องขอขอบคุณกลุ่มแฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานภาครัฐ ที่ชี้ให้เห็นถึงการทำร้าย ทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หากมองอีกมุม ตนรู้สึกว่าภายใต้เรื่องร้าย ๆ ยังมีเรื่องที่ดีที่พี่น้องประชาชนรู้สึกห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติและรู้สึกว่าทรัพยากรธรรมชาติเปรียบเสมือนสมบัติส่วนรวมที่ทุกคนต้องช่วยกันดูและเฝ้าระวัง

สุดท้าย ตนอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนว่า "การล่าปลาสวยงามในแนวปะการัง นอกจากมิใช่เป็นการล่าเพื่อดำรงชีพ กลับยังเป็นการทำลายวงจรในระบบนิเวศ อย่าคิดว่าปลาเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่ล่าได้ ไม่ทำให้ระบบนิเวศเสียหายหรือเสียสมดุล ความคิดเช่นนี้สร้างความสูญเสียให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน ปลาหนึ่งตัวอยู่สร้างสมดุลให้ระบบนิเวศได้นับปี การล่า คือ การทำลายตัดวงจรความสมดุล มนุษย์จะเก่งไม่ได้อยู่ที่ล่าสัตว์ได้ แต่อยู่ที่รักษาสัตว์ให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืนสามารถใช้ประโยชน์จนถึงลูกหลานต่างหากและในสถานการณ์ที่ไวรัส covid-19 นี้กำลังระบาด ทำให้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในสังกัดของกระทรวง ทส.แทบทุกแห่ง จึงเป็นช่วงที่ธรรมชาติเขาจะได้มีโอกาสฟื้นตัว จึงขอวิงวอนว่าช่วงนี้ท่านอย่าสร้างปัญหาให้กับธรรมชาติอีกเลย" นายยุทธพล กล่าววิงวอน

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๖ ลงพื้นที่บริเวณหาดนุ้ย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบ พื้นที่บริเวณดังกล่าวมิได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามียังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังคงท่องเที่ยวดำน้ำหรือไม่ พร้อมตรวจตราลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบภาพปลาที่นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวล่าได้ เป็นปลาจำพวก ปลานกแก้ว Scarus spp., ปลาขี้ตังเบ็ด Acanthurus lineatus, และปลาวัวหางพัด Aluterus scriptus ซึ่งปลาทั้งหมดไม่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายสัตว์คุ้มครองฯ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ แต่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งการจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี ๓ ท้ายประกาศนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และประชาสัมพันธ์ในพื้นที่หากพบเห็นการกระทำลักษณะดังกล่าวให้แจ้งสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๖ ที่นายประจวบ โมฆรัตน์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหมายเลข ๐๘ ๔๔๓๙ ๙๔๒๓ ทันที


https://mgronline.com/travel/detail/9630000035364

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 07-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


"เกาะพะลวย" สวยสะดุดตา เกาะต้นแบบพลังงานสะอาดแห่งแรกของไทย



เกาะพะลวย ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเกาะขนาดเล็กมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200 ครัวเรือน สำหรับการเดินทางก็ท่องเที่ยวที่เกาะพะลวย สามารถขึ้นเรือโดยสารจาก อ.ดอนสัก ซึ่งจะมีบริการวันละหนึ่งเที่ยว หรือถ้านักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเกาะสมุยหรือเกาะพะงัน ก็จะมีเรือนำเที่ยวพามาแวะเที่ยวที่นี่ เกาะแห่งนี้ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงพลังงานให้เป็น "เกาะต้นแบบพลังงานสะอาด" หรือ "Green Island" แห่งแรกของประเทศไทย บนเกาะพะลวยมีกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้บนเกาะ รวมทั้งมีศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมและพลังานสะอาด ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากอาคารไม้ทรงเดิม เน้นนำแสงธรรมชาติมาใช้ ผ่านช่องทางกระจก แม้เกาะนี้จะยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเกาะน่าสนใจที่สงบสวยงาม ซึ่งหากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ผ่านพ้น ก็คงจะมีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางไปพิชิตเกาะแห่งนี้กันไม่น้อยเลย


https://mgronline.com/news-clips/Xf1-SX3J6vs
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 07-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ปิดเกาะสมุย! ห้ามเข้าออก 7-30 เม.ย.สกัดโควิด-19



6 เม.ย.63 นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ลงนามประกาศเทศบาลนครเกาะสมุย เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีเนื้อหาระบุว่า

ด้วยนายกรัฐมนตรีได้ประกาศพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน ทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ดังนั้นเพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาในพื้นที่เทศบาลนครเกาะสมุย อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงออกประกาศ ดังนี้

1. ห้ามบุคคลใดเดินทางเข้าเขตพื้นที่เทศบาลนครเกาะสมุย อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เว้นแต่ผู้ที่มีใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลของรัฐ ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการ เดินทาง มาแสดงว่าปลอดการติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือเพื่อประโยชน์ในการ รักษาพยาบาล การทําให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค การควบคุมป้องกันโรค การขนส่งสินค้าที่จําเป็น สินค้า อุปโภคบริโภคทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ แก๊สหุงต้ม น้ํามันเชื้อเพลิง การไปรษณีย์ อุปกรณ์ เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น ยานพาหนะเพื่อการขนส่งยา อุปกรณ์วัสดุ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการฉุกเฉินทางการแพทย์ กู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล ยานพาหนะเพื่อ การขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันการเงิน ยานพาหนะเพื่อขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรก่อสร้าง ชิ้นส่วน ประกอบซ่อมบํารุง ยานพาหนะ เพื่อขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

2.สําหรับบุคคลตามข้อ 1 ซึ่งแสดงใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลของรัฐ ว่าปลอดการ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงการติดโรคหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า เป็นพาหนะนําโรค จักต้องถูกกักกันเฝ้าระวังเป็นระยะเวลา 14 วัน ณ สถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค กําหนดไว้

3.หากบุคคลใด เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีความจําเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ เทศบาลนครเกาะสมุย อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้หัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานต้นสังกัด ออกหนังสือรับรองการปฏิบัติงานที่มีความจําเป็นเดินทางเข้า-ออก พร้อมบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐให้กับ เจ้าหน้าที่ประจําจุดตรวจใช้ในการพิจารณาให้เดินทางเข้า-ออก พื้นที่ได้

ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศนี้จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติพระราชบัญญัติ โรคติดต่อมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563


https://www.naewna.com/local/484409


*********************************************************************************************************************************************************


ภูเก็ตประกาศปิด 'ราไวย์-กะรน' ขอคนอย่าออกจากบ้าน

6 เม.ย.63 จังหวัดภูเก็ตได้มีการออกประกาศจังหวัดปิดเพิ่มตำบลราไวย์อีก 1 พื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศปิดพื้นที่ป่าตอง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้



คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 1826/2563 เรื่องปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 พื้นที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัวโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด19 ในปัจจุบันได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางออกไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชื่อและอาการของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ2563 กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด 19 และจากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต พบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทศบาลตำบลราไวย์มีหนังสือเสนอมาตรการแนวทางแก้ไข ปัญหาดังกล่าว ตามหนังสือเทศบาลตำบลราไวย์ ที่ภก.52801.8/608 ลงวันที่ 3 เมษายน 2563

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 มาตรา 34(7) และมาตรา 35 (1)(2)(3 )แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7 (1) ประกอบข้อ 1 ข้อ 7 ข้อ 11 และข้อ 13 ของข้อกำหนอออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 1 ) ลงวันที่ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 16 / 2563 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 จึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้

1.เนื่องจากพื้นที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่ทางตรงหรือโดยทางอ้อมไปยังผู้อื่น จึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว

เว้นแต่ยานพาหนะสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะกู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉินทางการแพทย์ รถที่ใช้สำหรับภารกิจทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์

ทั้งนี้ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อโดยเคร่งครัด

2.กำหนดจุดตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 ตามแผนที่แนบท้ายคำสั่งดังนี้

จุดตรวจคัดกรองบริเวณรอยต่อตำบลกะรน ? ตำบลราไวย์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 7 ถนนรอบเกาะ ตำบลราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต
จุดตรวจคัดกรองบริเวณหน้าห้างโลตัสสาขาราไวย์ ตั้งอยู่ ณ ถนนวิเศษ ตำบลราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต

โดยมอบหมายให้อำเภอเมืองภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรฉลอง และเทศบาลตำบลราไวย์ จัดประกอบกำลังเป็นชุดปฏิบัตการประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ให้นายอำเภอ หรือปลัดอำเภอที่นายอำเภอมอบหมายในพื้นที่เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำจุดคัดกรองดังกล่าว และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรฉลอง หรือผู้ที่กำกับมอบหมายเป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำจุดคัดกรองดังกล่าว

3.ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพิจารณาตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านจุดตรวจคัดกรองตามข้อที่ 2 เพื่อป้องกัน และควบคุมโรคตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 และข้อกำหนดอออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548 (ฉบับที่1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ 2563

4.มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ดังต่อไปนี้
(1)ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอำเภอเมืองภูเก็ต และเทศบาลตำบลราไวย์ จัดบุคคลเข้าไปตรวจวัดไข้ประชาชนที่อยู่ในเขตตำบลราไวย์ทุกคน หากพบผู้ใดซึ่งอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังโรคโควิด 19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตุอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด

(2)ให้เทศบาลตำบลราไวย์ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัย ร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลราไวย์โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน

(3)ตามที่จังหวัดได้มีคำสั่งปิดโรงแรมแล้วตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1797/2563 ลงวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563 หากมีโรงแรมใดในพื้นที่ตำบลราไวย์ จำเป็นจะต้องให้พนักงานเข้าไปปฏิบัติงานด้านบัญชี การซ่อมบำรุง หรืออื่นๆ ให้โรงแรมจัดหาที่พักภายในโรงแรมให้พนักงาน จนกว่าจะปฏิบัติหน้าที่แล้วเสร็จ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพนักงาน ซึ่งอาจเป็นพาหะในการกระจายโรค แต่หากมีพนักงานคนใดมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตจังหวัดและประสงค์จะกลับภูมิลำเนา ให้โรงแรมแจ้งรายชื่อพนักงานให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต(ท่าฉัตรไชย)พิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งนี้จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 เมษายน 2563

5.ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่มิให้ออกนอกเคหะสถาน หรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ไปยังบุคคลอื่นอีก

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 263 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต/ ผู้กำกับการบริหารราชการนสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต


https://www.naewna.com/local/484423

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 07-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'สหประชาชาติ'ชี้'โควิด-19' ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีต่อสิ่งแวดล้อมโลก



6 เม.ย.63 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิงเกอร์ แอนเดอร์สัน (Inger Andersen) ผู้อำนวยการโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) กล่าวว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงและคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น ในช่วงเวลาที่รัฐบาลของหลายประเทศกำลังรับมือกับการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไม่ควรถูกมองว่า "เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม"

สหประชาชาติรายงานคำกล่าวของอิงเกอร์ แอนเดอร์สัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 เม.ย.) ว่า "ขณะที่เรากำลังขยับจากการรับมือ 'ภาวะสงคราม' ไปเป็น 'การสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม' (Build Back Better) เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจสัญญาณต่างๆ ของสิ่งแวดล้อม และรู้ว่ามันจะส่งผลต่ออนาคตและคุณภาพชีวิตของเราอย่างไร เพราะโควิด-19 อย่างไรก็ไม่ใช่ 'เรื่องดี' สำหรับสิ่งแวดล้อม"

สำหรับผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก แอนเดอร์สันกล่าวว่า

เธอกล่าวเตือนว่า "ผลที่มองเห็นได้ในเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง ล้วนเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราว เพราะมันเกิดขึ้นพร้อมกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอันน่าเศร้าและความทุกข์ยากของมนุษย์โลก"

"การระบาดใหญ่จะส่งผลให้ปริมาณขยะทางการแพทย์และของเสียอันตรายเพิ่มพูนมากขึ้น นี่ไม่ใช่รูปแบบของการตอบสนองทางสิ่งแวดล้อม อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่สำหรับนักสิ่งแวดล้อม

เธอกล่าวว่า "ในความเป็นจริงแล้ว สถาบันสมุทรศาสตร์สคริปปส์ (Scripps Institution of Oceanography) ย้ำว่าปริมาณการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นจะต้องลดลงประมาณร้อยละ 10 ทั่วโลก และจะต้องต่อเนื่องนานหนึ่งปี กว่าจะเห็นถึงระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ชัดเจน"

"ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงบวกใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่อันน่าสะพรึงครั้งนี้ ต้องเป็นสิ่งที่เปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคของเราให้สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น" เธอกล่าว

"การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบในระยะยาวเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนแนวโน้มของระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้"

ดังนั้น หลังจากวิกฤตครั้งนี้ ในช่วงที่เราวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานนั้น เรามีโอกาสอย่างแท้จริงที่จะรับมือกับปัญหานี้ ด้วยการลงทุนในพลังงานทดแทน อาคารอัจฉริยะ การขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการขนส่งสาธารณะ ? ? แอนเดอร์สันกล่าว

เธอกล่าวว่า "เสาหลักที่สำคัญประการหนึ่งในแผนฟื้นฟูหลังผ่านพ้นโรคโควิด-19 จะต้องมาพร้อมกับกรอบการวางแผนที่กระตือรือร้น สามารถวัดผลได้ และไม่แบ่งแย่ง เพราะการรักษาไว้ซึ่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หลากหลาย และงอกงามนั้นเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ทำให้ชีวิตของเราดำเนินต่อไปได้"


https://www.naewna.com/inter/484430

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:48


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger