เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 25-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 25 กรกฏาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย โดยมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเข้าปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 27-30 ก.ค. 63 คาดว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 25 - 26 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกจะเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 25 - 26 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 30 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 25-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ขยะพลาสติกในทะเลอาจพุ่งพรวด 3 เท่าในอีก 20 ปีข้างหน้า

ผลศึกษาชี้ ปริมาณขยะพลาสติกในทะเลจะเพิ่มปริมาณขึ้นถึง 3 เท่าตัวในปี 2583 หากทุกภาคส่วนยังไม่ร่วมมือและเร่งแก้ไข



ขยะพลาสติกในทะเลที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของสัตว์ทะเล กำลังจะเพิ่มปริมาณขึ้นทวีคูณถึง 3 เท่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า หากบริษัทต่างๆ รวมทั้งรัฐบาลของแต่ละประเทศยังไม่มีมาตรการจัดการกับขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลการศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม จากสำนักวิจัย พิว (Pew Research Center) ระบุว่า การใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้งที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง รวมทั้งกล่องพลาสติกใส่อาหารเดลิเวอรี่ ทำให้ปริมาณขยะพลาสติกทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งถ้าทุกหน่วยงานทั่วโลกยังไม่เร่งดำเนินการแก้ไข จำนวนขยะพลาสติกที่จะลงไปอยู่ในทะเลจะเพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านตัน ไปเป็น 29 ล้านตัน ต่อปี ทำให้ปริมาณขยะในทะเลสะสม จะสูงถึง 600 ล้านตันในปี 2583 เทียบเท่ากับน้ำหนักของ วาฬสีน้ำเงิน 3 ล้านตัวเลยทีเดียว



วินนี่ เลา ผู้จัดการอาวุโสสำนักวิจัยพิวและผู้ร่วมเขียนงานวิจัยชิ้นนี้ ระบุว่า ปัญหาขยะพลาสติกเป็นเรื่องที่กระทบต่อทุกคนไม่ใช่เป็นเพียงปัญหาของคนใดคนหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง และจะเลวร้ายลงหากทุกคนไม่เริ่มแก้ไขไปพร้อมกัน

ซึ่งนอกจากงานวิจัยชิ้นนี้จะชี้ภาพที่จะเกิดขึ้นแล้ว ยังได้ให้แนวทางแก้ปัญหาที่จะสามารถลดปริมาณขยะที่จะลงไปสู่ทะเลได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารไซแอนซ์ด้วย โดยแนวทางแก้ปัญหาที่สำคัญได้แก่ การหันไปลงทุนกับบรรจุภัณฑ์ทางเลือกแทนการใช้พลาสติก ให้ตั้งโรงงานรีไซเคิลและแหล่งเก็บรวบรวมขยะในประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่อุตสาหกรรมพลังงานต้องหันมาเปลี่ยนแนวทาง โดยเน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ส่วนรัฐบาลควรบังคับใช้กฎหมายให้เลิกผลิตพลาสติก และหาวัสดุอื่นมาเป็นทางเลือกทดแทน

ทั้งนี้ ปริมาณพลาสติกที่ถูกผลิตออกมาใช้งานต่อปี เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2493 โดยมีปริมาณสูงถึง 2 ล้านตัน จนเมื่อปี 2560 ปริมาณพลาสติกที่ถูกผลิตออกมามีมากถึง 348 ล้านตัน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปี 2583.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1896837

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 25-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


28 ก.ค. นี้ เข้าฟรี! "อุทยานแห่งชาติ" ทั่วไทย


อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกประกาศยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติสำหรับบุคคลชาวไทยและยานพาหนะในวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี ดังนี้

เนื่องด้วยวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูรฯ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมถวายความจงรักภักดีสนองต่อพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดความรักความผูกพันของบุคคลในครอบครัวปลูกจิตสำนึก และตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 6และข้อ 8 แห่งระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยวและพักอาศัยในอุทยานแห่งชาติพ.ศ. 2547 จึงยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติสำหรับบุคคลชาวไทยและยานพาหนะในวันที่ 28 กรกฎาคม ของทุกปี

โดยการยกเว้นค่าบริการ สำหรับเข้าอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทั่วประเทศ สำหรับบุคคลชาวไทยและยานพาหนะ

ทั้งนี้ ผู้ที่จะเดินทางเข้าไปเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติต่างๆ ยังต้องจองการเข้าท่องเที่ยวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ (คิวคิว) เนื่องจากอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งจะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว


https://mgronline.com/travel/detail/9630000076157

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 26-07-2020 เมื่อ 00:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 25-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ชิม "หอยยักษ์ลิบง" กิโลละเกือบ 1,000



ตรัง 24 ก.ค.-หอยสังข์ยักษ์ หอยใหญ่แห่งเกาะลิบง จากเดิมเป็นหอยที่ไม่นิยมนำมาบริโภค ชาวประมงจึงมักทุบทิ้งเพราะมีความแหลมคม แต่สุดท้ายมีชาวบ้านเห็นคุณค่าและรับซื้อมาแปรรูปจนกลายเป็นหอยยักษ์ที่ส่งขายได้กิโลกรัมละ 950 บาท

ที่ร้านอาหารซีฟู้ด ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ช่วงนี้มีเมนูหอยสังข์ยักษ์ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเกาะลิบง ซึ่งเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน โดยลูกค้าหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยรับประทาน นางอนัญญา เบ็ญสอาด หรือ "จะไหน" เจ้าของร้าน จะนำมาให้ชิมฟรีพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ทำให้เป็นที่ติดอกติดใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่เดิมนั้นหอยสังข์ยักษ์ไม่ได้ถูกนำขึ้นโต๊ะอาหารเหมือนในปัจจุบัน เพราะมีเนื้อเหนียว เคี้ยวยาก มีความแหลมคมตรงส่วนปลาย มีน้ำหนักที่มาก บางตัวน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม เมื่อติดอวนของชาวประมงพื้นบ้าน ก็มักจะถูกทุบทิ้งและโยนลงทะเล เพราะทำให้อวนของชาวประมงขาด



จะไหนซึ่งเคยรับประทานมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อมีโอกาสเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง จึงคิดนำเนื้อหอยสังข์ยักษ์มาทำให้นุ่ม หอมและมีรสหวานตามธรรมชาติ คิดสูตรอยู่นานจึงนำออกมาขายได้ โดยผ่านกรรมวิธีการต้มนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะนำสับปะรดมาใส่และต้มต่อไปอีก 2-3 ครั้ง ๆ ละ 20 นาที จึงจะได้เนื้อหอยสังข์ยักษ์ที่นุ่มหอม นำมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ เสริฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดฉบับชาวเกาะ ขายผ่านโลกออนไลน์ได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 950 บาท ซึ่งตอนนี้มียอดสั่งซื้อไม่พอกับความต้องการของลูกค้า เพราะหาไม่ได้ทุกวัน และเป็นช่วงน้ำขึ้นน้ำลง จึงต้องตระเวนรับซื้อมาสะสมไว้วันละ 1-2 ตัวเท่านั้น ส่วนเปลือกหอยสังข์ยักษ์นำมาขัดถูให้เงางาม ส่งขายได้อีกตัวละ 100-400 บาทด้วย .


https://www.mcot.net/viewtna/5f1ac7c9e3f8e40aef4674e1

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:57


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger