เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 24-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในวันนี้ (24 พ.ย. 66) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมทะเลจีนใต้มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง(ฝั่งตะวันออก) ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 23 ? 24 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 25 ? 29 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลง ประกอบกับจะในช่วงวัน 24 - 27 พ.ย 66 มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนผ่านอ่าวไทย เข้าสู่ภาคใต้ตอนล่าง ลงสู่ทะเลอันดามัน ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 23 ? 24 พ.ย. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ตลอดช่วง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกฝั่งในช่วงวัน 24 - 27 พ.ย. 66












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 24-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


สหรัฐฯ เร่งหาจุดรั่ว หลังน้ำมันมหาศาลรั่วไหลลงอ่าวเม็กซิโก



ทางการสหรัฐฯ เร่งค้นหาจุดรั่วไหล หลังพบน้ำมันมากถึง 1.1 ล้านแกลลอนรั่วไหลในทะเลที่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากรอยรั่วของระบบท่อส่งน้ำมันจากชายฝั่งตะวันออกของรัฐลุยเซียนา

พบน้ำมันมากถึง 1.1 ล้านแกลลอนรั่วไหลในทะเลที่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากรอยรั่วของระบบท่อส่งน้ำมันจากชายฝั่งตะวันออกของรัฐลุยเซียนา

หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯระดมกำลังค้นหาจุดรั่วไหลของน้ำมัน หลังพบคราบน้ำมันมากกว่า 1.1 ล้านแกลลอนปนเปื้อนอยู่ในทะเลบริเวณอ่าวเม็กซิโก โดยคาดว่าน่าจะเกิดจากรอยรั่วของระบบท่อส่งน้ำมันจากชายฝั่งตะวันออกของรัฐลุยเซียนา ซึ่งแม้ว่าล่าสุดมีการปิดท่อส่งดังกล่าวที่มีความยาวถึง 107 กิโลเมตรไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงเดินหน้าค้นหาจุดรั่วไหลที่แท้จริง เพื่อจะหาสาเหตุ และเร่งซ่อมแซมต่อไป

ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว หน่วยยามฝั่งยังคงยืนยันว่า ยังไม่มีน้ำมันลอยไปถึงฝั่งแต่อย่างใด ส่วนจะมีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหรือไม่นั้นยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ โดยคาดว่าปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลอาจจะมากกว่าที่คาดไว้

ด้านองค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า พบนกเพลิแกน 2 ตัวถูกน้ำมันปกคลุมขนนอกชายฝั่งของลุยเซียนาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่มันยังคงสามารถเคลื่อนไหวและบินได้อยู่ แต่คาดว่าผลกระทบที่ตามมาต่อสัตว์ทะเลอื่นๆ อาจจะเกิดขึ้นเป็นวงกว้างได้

เคลลี เดนนิ่ง ผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งนิวออร์ลีนส์ระบุว่าเหตุน้ำมันที่รั่วไหลครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสลมแรงในอ่าว ซึ่งยิ่งทำให้น้ำมันแตกตัว และกระจายตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงมองเห็นรอยมันวาวของน้ำมัน และกำลังเร่งดำเนินการทำความสะอาด

สำหรับท่อส่งน้ำมันที่เกิดปัญหาครั้งนี้ เป็นของบริษัท เมน พาส ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเธิร์ด โคสต์ อินฟราสตรัคเจอร์ LLC ที่มีฐานอยู่ในเมืองฮุสตัน แต่หลังจากเกิดเหตุทางบริษัทยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้.

ที่มา : ABC


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2742589


******************************************************************************************************


น้ำแข็งละลายขั้วโลกเหนือวิกฤติ



จากการที่ประเทศไทยส่งนักวิจัยไทยไปที่อาร์กติก (ขั้วโลกเหนือ) กับประเทศจีน ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ ดร.สุจารี บุรีกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายอานุภาพ พานิชผล นักวิจัยจากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ เป็นเวลา 3 เดือน และได้กลับสู่ประเทศไทยแล้วนั้น

ดร.สุจารีกล่าวว่า คณะนักวิจัยเดินทางโดยเรือตัดน้ำแข็ง "ซูหลง 2" ของประเทศจีน ซึ่งในปีนี้ เป็นปีแรกที่คณะสำรวจของประเทศจีนสามารถเดินทางไปถึงจุดที่เป็นขั้วโลกเหนือ ณ ละติจูด 90 องศาได้สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าน้ำแข็งขั้วโลกบางลงกว่าปีก่อนๆมาก เนื่องจากน้ำแข็งที่หายไปสามารถคืนกลับมาได้น้อยลง ทำให้เรือตัดน้ำแข็งสามารถเดินทางเข้าไปสู่จุดที่เป็นขั้วโลกเหนือได้ไม่ยากนัก ในระหว่างการเดินทาง นักวิจัยจากประเทศจีน รัสเซีย และไทย ได้ร่วมกันสำรวจวิจัยทางสมุทรศาสตร์ เพื่อศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ขั้วโลกเหนือ โดยการเก็บตัวอย่างคุณภาพน้ำทะเล ดินตะกอน แพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ และสัตว์ทะเลบางชนิด เพื่อตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันเปรียบเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา

นายอานุภาพกล่าวว่า การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเหนือมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ความหนาของน้ำแข็งใหม่ในรอบปีมีความหนาที่ลดลง ส่วนเรื่องของมลพิษในทะเล เช่น การสะสมของไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนในน้ำทะเลและในอากาศบริเวณมหาสมุทรอาร์กติก ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ด้าน ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ รอง ผอ.สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ กล่าวว่า เดือน ม.ค.2567 จะ ส่งนักวิจัย 2 คน ได้แก่ สพ.ญ.ดร.คมเคียว พิณพิมาย จากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และ รศ.ดร.ภศิชา ไชยแก้ว จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เดินทางไปพร้อมกับคณะสำรวจแอนตาร์กติกรุ่นที่ 40 ของประเทศจีน เพื่อสำรวจที่แอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) ต่อไป.


https://www.thairath.co.th/news/local/2742805

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 24-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ฝูงโลมาอิรวดี โชว์ตัวกลางแม่น้ำบางปะกง

ฉะเชิงเทรา 23 พ.ย. ? พบฝูงโลมาอิรวดีในแม่น้ำบางปะกง หลังน้ำเค็มดันขึ้นสูง ทำให้โลมาว่ายเข้าจากอ่าวไทยโผล่หน้าที่ว่าการอำเภอบางปะกง ประชาชนที่ทราบข่าวพากันไปยืนรอชมที่สะพานข้ามแม่น้ำ



เมื่อเวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.50 ช่องทางคู่ขนาน ขาเข้าชลบุรี หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังทราบว่ามีฝูงโลมาอิรวดีว่ายเข้ามาในแม่น้ำบางปะกง

ระหว่างเฝ้ารอดู พบโลมาอิรวดี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำเค็มและน้ำจืด ว่ายวนเวียนเพื่อไล่กินปลาดุกทะเลที่หลงเข้ามา ซึ่งโลมาจะโผล่ขึ้นมาหายใจเพียงครู่เดียวก่อนจะดำน้ำลงไปหาปลานานเกือบ 2 นาที จึงจะโผล่ขึ้นมาหายใจใหม่อีกครั้ง โดยในปีนี้ฝูงโลมาได้ว่ายจากปากอ่าวไทยจนเข้าไปลึกถึงหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะกง ในช่วงเวลาประมาณ 15.00 ? 17.00 น. แล้วจะว่ายกลับออกไปยังปากอ่าวในตอนที่น้ำลงจนทำให้น้ำจืดไหลลงมาจากตอนบน ซึ่งการที่โลมาว่ายเข้ามาในแม่น้ำบางปะกง บ่งบอกว่าแม่น้ำยังคงมีความอุดมสมบูรณ์

ด้านนางสมจิตร์ พันธ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม ได้ประสานให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดเจ้าหน้าที่คอยดูและฝูงโลมา และประชาสัมพันธ์ชาวบ้านไม่ให้กางอวนลอยในแม่น้ำเพื่อป้องกันโลมาว่ายไปติดอวนหรือตาข่าย


https://tna.mcot.net/region-1277485

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:53


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger