เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 17-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนประเทศลาวประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงในระยะแรก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย และประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 17 ? 20 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5 - 7 องศาเซลเซียส ภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 ? 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

ส่วนช่วงวันที่ 21 ? 22 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงทำให้มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มอ่อนกำลังลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีลดลง สำหรับคลื่นลม บริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 17 ? 19 พ.ย. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และลมแรง สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 17 - 19 พ.ย. 66 นี้ไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 17-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


รัฐนิวยอร์กฟ้องเป๊ปซี่โค ข้อหาสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จาก 'ขยะพลาสติก'

รัฐนิวยอร์กยื่นฟ้องบริษัทเป๊ปซี่โค ข้อหาสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จากขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ขณะที่โฆษกเป๊บซี่โคแจงบริษัทมีความโปร่งใสในการลดการใช้พลาสติกมาโดยตลอด


Cr.ภาพ: X/@NewYorkStateAG

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐนิวยอร์กได้ยื่นฟ้องบริษัทเป๊ปซี่โค (PepsiCo) เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) โดยกล่าวหาว่าผู้ผลิตเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวชั้นนำจากสหรัฐอเมริกาได้สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน โดยการสร้างขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว นับเป็นหนึ่งในคดีแรกๆ ที่หน่วยงานส่วนท้องถิ่นของรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ มุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้ผลิตพลาสติกรายใหญ่ของประเทศ

เลติเทีย เจมส์ อัยการรัฐนิวยอร์ก ระบุในข้อกล่าวหาว่า บริษัทเป๊ปซี่โค มีส่วนสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อสาธารณะ ผ่านการสร้างขยะพลาสติกจำนวนมาก และจากการสำรวจขยะทุกประเภทที่พบบริเวณริมแม่น้ำบัฟฟาโลเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าขยะพลาสติกที่พบมากที่สุด คือบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่ติดตราสัญลักษณ์ของเป๊ปซี่โค ซึ่งพบมากกว่า 17% ของขยะทั้งหมด

"จากขยะพลาสติกที่รวบรวมมาซึ่งสามารถระบุชื่อยี่ห้อได้ทั้งหมด 1,916 ชิ้น พบว่ามากกว่า 17% ผลิตโดยเป๊ปซี่โค รองลงมาคือขยะพลาสติกจากแมคโดนัลด์ และเฮอร์ชีส์" รายงานระบุ

อัยการรัฐนิวยอร์กยังกล่าวอีกว่า เป๊ปซี่โคล้มเหลวในการเตือนผู้บริโภคเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากพลาสติกในสินค้าแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทมากกว่า 100 แบรนด์ และทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับความพยายามในการต่อสู้กับมลพิษจากพลาสติก

นอกจากนี้ คำฟ้องร้องยังอ้างว่าได้ตรวจพบไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำดื่มบริเวณโดยรอบแม่น้ำบัฟฟาโล ซึ่ง "อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ตั้งแต่ความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ไปจนถึงการอักเสบของลำไส้ และผลกระทบต่อระบบประสาท"

ด้านโฆษกของเป๊ปซี่โค กล่าวชี้แจงว่า บริษัทมีความโปร่งใสในการดำเนินนโยบายเพื่อลดการใช้พลาสติก พร้อมยืนยันในแถลงการณ์ว่า บริษัทมีความจริงจังกับการลดการใช้พลาสติกและการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะเดียวกัน เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน อาทิ ภาคธุรกิจ หน่วยงานท้องถิ่น ผู้ให้บริการลดขยะ ผู้นำชุมชน และผู้บริโภค

เป๊ปซี่โค ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก พร้อมกับบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ จำนวนมากกำลังเผชิญกับการฟ้องร้องโดยหน่วยงานท้องถิ่นเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม

โดยบริษัทเหล่านี้ ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการฟอกเขียว (Greenwashing) หรือการทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดด้วยการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจว่าองค์กรมีภาพลักษณ์ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคม

ที่มา : BBC, Reuters


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2741219


******************************************************************************************************


UN เผย ก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลก ปี 2565 พุ่งสูงทุบสถิติ

สหประชาชาติเผย ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลกในปี 2565 เพิ่มขึ้นจนทำสถิติใหม่ ชี้โลกยังคงมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ผิด และจะต้องลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล



สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ของสหประชาชาติแถลงวานนี้ (15 พ.ย.) ระบุว่า ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกหลัก 3 ชนิด ประกอบด้วย คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ ในชั้นบรรยากาศโลกในปี 2565 ได้เพิ่มสูงขึ้นและทำสถิติใหม่ ส่งให้สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวนอย่างหนัก

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก กล่าวว่า ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกในปีที่ผ่านมาสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 50% ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ที่น่ากังวล ขณะที่ก๊าซชนิดอื่นๆ เช่น มีเทน และไนตรัสออกไซด์ ก็พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่เช่นกัน

เพตเตรี ทาลาส เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่า ด้วยระดับความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของข้อตกลงปารีสที่ต้องการจำกัดภาวะโลกร้อนไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากช่วงก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมภายในสิ้นศตวรรษนี้ได้

"แม้จะมีคำเตือนมากมายมานานหลายทศวรรษจากทั้งนักวิทยาศาสตร์ ผลการศึกษาต่างๆ และการประชุมเรื่องสภาพอากาศนับครั้งไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนว่าทั่วโลกจะมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ผิด" ทาลาสกล่าว

ก๊าซเรือนกระจกทำให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน ปริมาณน้ำฝน น้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และความร้อนและความเป็นกรดของมหาสมุทร

โดยรายงานขององค์การอุตุนิยมฯ เปิดเผยว่า ประมาณ 80% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาจากกลุ่ม G20 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก

อนึ่ง การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 หรือ COP28 มีกำหนดจัดขึ้นในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-12 ธ.ค. 2566 โดยมีการคาดการณ์ว่าวาระที่จะถูกผลักดันเป็นพิเศษ คือการยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิสก่อนปี 2593 แต่จนถึงขณะนี้ ประเทศที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนจำนวนมากยังไม่ประสบความสำเร็จในการลดการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีนัยสำคัญ


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2741101

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 17-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


"เกาะเปริด" จันทบุรี อีกหนึ่งโมเดลวัวหายล้อมคอก สั่งรื้อสิ่งก่อสร้างผิด กฎหมายเมื่อเป็นข่าวดัง



ดราม่าศึกชิงร้าน "Sky View Cafe" ระหว่างเมียเก่า-เมียใหม่ จบลงด้วยคำสั่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างผิด กม. ของคาเฟ่ดังกล่าวจาก ผวจ.จันทบุรี ท่ามกลางคำถามของชาวเน็ตว่า ที่ผ่านมาปล่อยให้สร้างผิดกฎหมายมาได้อย่างไร???

จากกรณีดราม่าศึกชิงร้าน "Sky View Cafe" คาเฟ่บนเขาชื่อดังแห่งเกาะเปริด ระหว่างภรรยาเก่า-ภรรยาใหม่ จนขยายผลไปสู่คำสั่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมายที่เปิดให้บริการมาหลายปี

โดย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ห้องประชุมทองทั่ว ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด กรณีร้าน Sky View Cafe ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ให้รื้อถอน และระงับการใช้อาคาร ว่า ในกรณีดังกล่างทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะดำเนินการตามข้อกฎหมายกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ฝ่าฝืน

ส่วนกรณีข้อพิพาทส่วนตัวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวทางจังหวัดจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และในเบื้องต้นขอยืนยันว่าอาคาร Sky View Cafe ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.2566

"ทางจังหวัดจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความดำเนินบุคคลที่มีชื่อยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร และต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหลังจากนี้ผู้ประกอบการจะรื้อถอนเองหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการก็ได้เช่นกัน" ผวจ.จันทบุรี กล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยังเผยถึงประเด็นที่ดินของร้าน Sky View Cafe ที่ผู้ประกอบการได้ยื่นขอออกเอกสารสิทธิไว้ แต่เกิดข้อพิพาทขึ้นก่อนว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระว่างการพิจารณาของศาล และเพิ่งมีการสอบพยานนัดแรกเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้โยธาธิการจังหวัดเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินการเอาผิดผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของร้านกรณีกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ส่วนเรื่องขอการขอออกโฉนดที่ดินนั้นทางจังหวัดได้มอบหมายให้สำนักงานที่ดินทำการตรวจสอบแล้ว และยังชี้ชัดไม่ได้โฉนด น.ส.3 ที่ผ่านมาเป็นการออกโดยมิชอบหรือไม่

สำหรับ "เกาะเปริด" ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ในอดีตเกาะเปริดแห่งนี้มีสภาพเป็นเกาะ ที่อยู่ใกล้กับชายฝั่ง มีชาวเรือและชาวประมงตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาได้มีการสร้างถนนเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะเพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก สภาพที่เคยเป็นเกาะกลางทะเลจึงหายไป

เกาะเปริด มีวิวทิวทัศน์ดูสวยงาม มีไฮไลต์คือ "จุดชมวิวซันชาย" และ "ผาสุขนิรันดร์" ที่ตั้งอยู่ห่างจากวัดเกาะเปริดไปประมาณ 300 เมตร มีเส้นทางชมวิวทิวทัศน์เดินสบายบรรยากาศดี เมื่อไปถึงจะพบกับหน้าผาริมทะเลขนาดใหญ่ มองเห็นวิวทะเลสวยงามกว้างไกล ในยามเย็นที่นี่ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี

เกาะเปริดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนเมืองจันท์ที่เพิ่งมาโด่งดังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบรรดาสายคาเฟ่ เนื่องจากมีคาเฟ่ที่ปรากฏเป็นข่าวดังเป็นจุดดึงดูด เนื่องจากเป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมผา มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และมีอินฟลูเอนเซอร์นิยมไปรีวิวกันเป็นจำนวนมาก โดยบางคนก็อวยกันสุดลิ่มแบบเกินจริง

อย่างไรก็ดีสำหรับคนจันท์และคนในพื้นที่จำนวนมาก ต่างไม่ยินดีกับคาเฟ่เจ้านี้ เนื่องจากมีการก่อสร้างสิ่งผิดกฎหมาย และปลูกสร้างในตำแหน่งที่ไม่สมควรสร้าง นอกจากนี้คนในพื้นที่ยังกังขาว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาบอดหรือมัวไปหลับอยู่ที่ไหน จึงปล่อยให้สิ่งก่อสร้างผิดกฎหมายแห่งนี้อยู่มาได้อย่างไรตั้งหลายปีแบบค้านสายตาของคนทั่วไป

กระทั่งเมื่อเกิดข่าวดราม่าของคาเฟ่ดังกล่าว ทำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้ลงดาบสั่งรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมายตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่งชาวเน็ตส่วนหนึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นตำหนิการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งมองว่านี่แม้จะเป็นการกระทำแบบ ?วัวหายล้อมคอก? ต้องรอให้ปรากฏเป็นข่าวโด่งดังเสียก่อนจึงให้กฎหมายจัดการ ทั้งที่มีการทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น แต่ยังไงการปฏิบัติการทางกฎหมายที่ล่าช้า วัวหายล้อมคอกก็ยังดีกว่าไม่ลงมือจัดการอะไรเลย พร้อมกันนี้ยังมีการชี้เป้าไปยังสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมายอีกแหลายแห่งในสถานที่ท่องเที่ยวดังต่าง ๆ ของบ้านเรา

สำหรับเกาะเปริดจึงเป็นอีกหนึ่งโมเดลวัวหายล้อมคอกให้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมาย เพราะถึงแม้ว่าปฏิบัติการเอาผิดตามกฎหมายจะล่าช้า แต่ว่าก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และถ้าจะให้ดีกว่านี้ต้องตามเอาผิดย้อนหลังกับเจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นเป็นใจกับการทำผิดกฎหมายเหล่านี้ด้วย


https://mgronline.com/travel/detail/9660000103116


******************************************************************************************************


ใช้เวลา 3 ชั่วโมงไล่จับ! ทัพเรือภาค 2 นำลูกเรือประมงเวียดนามส่ง สภ.สงขลาดำเนินคดี



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทัพเรือภาคที่ 2 จับกุมเรือประมงเวียดนาม ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย 1 ลำบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช ใช้เวลาไล่ล่า 3 ชั่วโมง จึงหยุดเรือและจับได้พร้อมลูกเรือ 5 คน ส่ง สภ.สงขลา แจ้ง 3 ข้อหา
วานนี้ (15 พ.ย.) ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 137 ระยะทาง 46.7ไมล์จากทุ่นไฟปากร่องน้ำสงขลา พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และผู้อำนวยการศรชล.ภาค 2 จึงได้สั่งการให้เรือหลวงเทพาออกทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ

หลังจากเรือหลวงเทพาได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนามลุกล้ำเข้ามาทำการประมงบริเวณทางตอนใต้ของเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเห็นเรือของเจ้าหน้าที่ทหารเรือก็วิ่งหลบหนีเพื่อกลับเข้าน่านน้ำของเวียดนาม ทำให้เรือ หลวงเทพาใช้เวลาไล่จับเรือประมงเวียดนามประมาณ 3 ชั่วโมง จึงให้หยุดเรือและจับกุมได้ พบเป็นเรือประมงคราดปลิงทะเล มีผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม 5 คน จึงได้ทำการควบคุมเรือและลูกเรือทั้งหมดกลับเข้าฝั่ง เพื่อมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม ที่ ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมทั้งมอบอาหารและน้ำดื่มให้ลูกเรือทั้ง 5 คน และหลังจากสอบสวนเสร็จแล้ว ได้นำลูกเรือทั้ง 5 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตต่อเนื่อง จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ดังนี้ 1.ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย 2.ร่วมกันทำการประมงพาณิชโดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง และ 3.ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2567 การจับกุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 1 เรือ 1 ลำ ลูกเรือ 5 คน โดยเรือดังกล่าวเป็นหนึ่งในเรือที่ชาวประมงไทยใน จ.นครศรีธรรมราชได้เคยร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐมาแล้ว


https://mgronline.com/south/detail/9660000103103

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 17-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ไม่กี่วินาทีจม เรือเฟอร์รี่ 2 ชั้นล่มกลางทะเลบาฮามาส นทท.กระโดดหนีตายไม่คิดชีวิต

ระทึก นักท่องเที่ยวกระโดดน้ำหนีตายไม่คิดชีวิต หลังเรือเฟอร์รี่เอียง จนล่มกลางทะเลบาฮามาส สลดนนท.วัย 75 เสียชีวิต 1 ราย



เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์ระทึกบนเรือเฟอร์รี่ 2 ชั้นพร้อมผู้โดยสารรวมกว่า 100 คนที่นั่งมาเอียงและล่มกลางทะเลบาฮามาส หลังจากออกเดินทางจากเกาะพาราไดซ์ มุ่งหน้าไปยังเกาะบลูลากูน โดยมีรายงานนักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันวัย 75 ปีเสียชีวิต 1 ศพ

โดยภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นวินาทีเรือเฟอร์รี่ 2 ชั้นลำนี้ในทะเลบาฮามาส หลังจากออกเดินทางจากเกาะพาราไดซ์ มุ่งหน้าไปยังเกาะบลูลากูน ก่อนที่เรือเริ่มเอียงลง ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้โดยสารที่อยู่บนเรือนับร้อยชีวิต ที่ต่างสวมเสื้อชูชีพเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว

เมื่อเรือเผชิญกับคลื่นลมที่เพิ่มสูงขึ้น จนเรือเริ่มเอียงมากขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวบางส่วนตัดสินใจทยอยกระโดดลงจากเรือ โดยมีเรือสปีดโบ๊ตอีก 1 ลำเดินทางเข้ามาให้การช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ตามแถลงการณ์ของเกาะบลูกากูน กล่าวว่า ลูกเรือและผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย โดยมี 2 รายที่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะเดียวกันมีรายงานนักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันวัย 75 ปีซึ่งมาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นเวลา 5 วัน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่พยายามช่วยชีวิตคุณยายไว้แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

ทั้งนี้ นับว่าเคราะห์ดีที่ทุกคนใส่เสื้อชูชีพทำให้ไม่เกิดความสูญเสียมากนัก โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เรือล่มต่อไป


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_7966819


******************************************************************************************************


ยึดกระเพาะปลาตากแห้ง สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ มูลค่า 58 ล้านบาท ลอบนำเข้าจากเม็กซิโก

ยึดกระเพาะปลาตากแห้ง 40.38 กิโลกรัม สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ มูลค่า 58 ล้านบาท ลอบนำเข้าจากเม็กซิโก ผิดอนุสัญญาไซเตส



วันที่ 16 พ.ย. 2566 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหลีกเลี่ยง นำเข้า-ส่งออก สินค้าที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศ ทางกรมศุลกากรจึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่มีการนำเข้าและส่งออกไปนอกราชอาณาจักร

โดยสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า ต้นทางประเทศเม็กซิโก สำแดงสินค้าเป็นช็อคโกแลตชิป น้ำหนักสุทธิ 65 กิโลกรัม ต้องสงสัยว่ามีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ ผลการตรวจสอบพบช็อคโกแลตชิป จำนวน 1 กล่อง น้ำหนัก 26.57 กิโลกรัม และกระเพาะปลาตากแห้ง จำนวน 2 กล่อง น้ำหนัก 40.38 กิโลกรัม เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตในการนำเข้า

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดไว้ตรวจสอบ และส่งกระเพาะปลาตากแห้งดังกล่าวไปให้ด่านตรวจประมงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการตรวจพิสูจน์ ผลปรากฏว่าเป็นกระเพาะของปลา Totoaba macdonaldi ที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ CITES (ไซเตส) บัญชี 1 ลำดับที่ 940 ภายใต้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พศ.2562 มาตรา 23 ผู้ใดจะนำเข้าหรือส่งออก ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์น้ำคุ้มครองที่เพาะพันธ์ได้ สัตว์ป่าควบคุม ซากสัตว์ป่าดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาต รวมมูลค่ากว่า 58 ล้านบาท

นายพันธ์ทอง กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานสำแดงข้อมูลไม่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดและเป็นการปฏิบัติพิธีการไม่ถูกต้องตามมาตรา 202 มาตรา 244 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบกับสินค้าดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมตามอนุสัญญา CITES บัญชี 1 ลำดับที่ 940 ภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พศ.2562 มาตรา 23 พระราชกำหนดการประมง ( ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 โดยสินค้าดังกลาวต้องมีการขออนุญาตก่อนการนำเข้า


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7967372

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:42


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger