เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #1  
เก่า 02-08-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,159
Default ถมทะเล3แสนไร่....ได้อะไร?




ถมทะเล3แสนไร่ ‘สิ่งที่เราจะได้จากแผ่นดินตรงนั้นคืออะไร?’คำถามจาก“ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง” นักวิชาการจาก ม.สงขลานครินทร์







หลังจากได้รับฉันทามติจากเสียงส่วนใหญ่ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คำสัญญาและนโยบายต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้ขณะหาเสียงกำลังตามมากดดัน หลายประเด็นสร้างข้อถกเถียงเป็นวงกว้างในสังคมไทย ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ความสนใจของสังคมขณะนี้กำลังเพ่งไปที่การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และเงินเดือน 15,000 บาท


ขณะที่สังคมถกเถียงกันเอาเป็นเอาตายเรื่องค่าแรง อีกหนึ่งนโยบายที่เริ่มถูกพูดถึงก็คือ การถมทะเล 3 แสนไร่ในบริเวณอ่าวไทยรูปตัว ก เพื่อสร้างเมืองใหม่ อภิโปรเจ็กต์จากไอเดียของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เชื่อแน่ว่า หากผลักดันให้เกิดเป็นจริงๆ อาจสร้างผลกระทบต่ออ่าวไทยตอนในอย่างไม่อาจเรียกคืน


ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ)สัมภาษณ์ นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง นักวิชาการด้านนิเวศวิทยาทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ที่พยายามผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนทะเลอันดามันเป็นมรดกโลกคนนี้ ตั้งคำถามว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นเพียงใดที่จะต้องเดินหน้าโครงการนี้ ซึ่งเป็นคำถามที่เขาเห็นว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องตอบให้ได้ก่อนจะเดินหน้า


“ผมอยากให้ลองย้อนกลับไปถามก่อนว่า เหตุผลของการถมทะเลแต่ละที่คืออะไร เพราะในโลกนี้ก็มีหลายประเทศที่มีการถมทะเล ซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นที่แตกต่างกัน ผมยกตัวอย่างสิงคโปร์ เขาต้องถมแน่ๆ เพราะพื้นที่เขามีน้อยมาก เรียกว่าแทบจะเชื่อมเกาะกับแผ่นดินเลยด้วยซ้ำ เพราะพื้นที่เขาเล็กมาก ต้องซื้ออิฐ หิน ดิน ทราย จากมาเลเซียบ้าง อินโดนีเซียบ้าง






หรืออย่างญี่ปุ่นที่ต้องถมทะเลเพื่อทำเขตอุตสาหกรรมหรือสนามบิน เนื่องจากพื้นที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะ ส่วนตอนในก็เป็นภูเขาหมดเลย มีที่ราบริมทะเลค่อนข้างน้อย สนามบินไปอยู่ใกล้ๆ ภูเขามากก็ไม่ดี เขาจึงถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน หรืออย่างดูไบ ซึ่งเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยคงได้แนวคิดมาจากที่นี่ แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่า เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จทั้งหมด ขาดทุนด้วยซ้ำไป บางแห่งก็เจ๊ง นั่นคือเหตุผลของแต่ละประเทศ


ทีนี้ ของประเทศไทย ถ้ามองด้วยเหตุผลในระดับนั้น ก็ต้องถามว่าประเทศไทยมีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องถมทะเล ทั้งที่เรายังมีพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือยังใช้ประโยชน์อย่างไม่คุ้มค่าอีกเยอะขนาดไหน”


นายศักดิ์อนันต์ อธิบายต่อว่า การสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ในทะเลจะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง


“หลักการง่ายๆ ของทะเลที่เราเห็นกันอยู่ก็คือ เมื่อใดก็ตามที่เราทำอะไรก็แล้วแต่รุกล้ำเข้าไปในทะเล สิ่งที่ตามมาคือผลกระทบต่อเนื่อง ทั้งที่เรารู้และไม่รู้ คาดเดาไม่ได้ เราจะเห็นว่าหลายๆ ที่ แม้แต่ท่าเรือขนาดเล็กๆ ยื่นออกไปในทะเล มันก็ขวางกระแสน้ำ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ


สิ่งที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ ก็คือการกัดเซาะชายฝั่ง บางที่อาจจะมีแผ่นดินงอก แต่อีกบริเวณหนึ่งเกิดการกัดเซาะ แผ่นดินหายไป จากการที่เราไปสร้างสิ่งปลูกสร้างในทะเล แล้วไปขัดขวางการไหลเวียนของมัน


อีกประเด็นหนึ่งคือชายฝั่งทะเลหลายที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในอ่าวไทยตอนในที่เราพูดถึงอยู่ มันเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นแหล่งที่มีธาตุอาหารเยอะมาก เรียกว่าเป็นแหล่งประมงที่สำคัญของประเทศเลยก็ว่าได้ อ่าวไทยตอนในมีหาดเลน หาดโคลน บางทีเราดูว่าดำๆ ไม่มีค่า แต่จริงๆ มันเป็นแหล่งธาตุอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำหลายชนิด โดยเฉพาะอ่าวไทยตอนในเป็นแหล่งปลาทูที่สำคัญ ที่มาวางไข่แถวสุราษฎร์ฯ ชุมพร แล้วก็ว่ายขึ้นไปข้างบน ไปโตแถวสามสมุทร


อย่างที่เรารู้จักกันดีคือปลาทูแม่กลองที่อ้วนท้วน เป็นเพราะได้ประโยชน์จากสภาพพื้นที่ที่เป็นโคลน นั่นคือความสมบูรณ์ของอ่าวไทยตอนใน ซึ่งประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านได้ใช้ประโยชน์มาเป็นเวลานาน”




นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะส่งผลเสียต่อระบบนิเวศของอ่าวไทยตอนใน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนของกระแสน้ำ การกัดเซาะชายฝั่ง ปัญหาจากน้ำทิ้ง


“ผมไม่รู้หรอกว่า เขาจะถมทะเลตรงบริเวณไหน แต่กระแสน้ำต้องมีการเปลี่ยน พื้นที่ทำกินที่หายไป ผลกระทบต่อมาคือเวลาที่เราไปพัฒนาอะไรชายฝั่งทะเลมากๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้ำทิ้งจากแผ่นดินที่เราถม


ถ้าจะอ้างว่ามีระบบบำบัดก็ต้องย้อนไปดูว่าที่ผ่านมาระบบบำบัดของเราไม่เคยได้ผลเลย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมืองใหม่หรือเขตอุตสาหกรรมที่อยู่ริมทะเล หลายที่สร้างปัญหาทั้งนั้น ไม่สามารถจัดการน้ำทิ้ง น้ำเสียได้ เมื่อของเสียเหล่านี้ไปอยู่ในทะเลก็จะเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร เข้าสู่สิ่งมีชีวิต แล้วเราก็เอามันมากินต่อ ซึ่งเกิดปัญหาแล้วหลายที่”


นายศักดิ์อนันต์ เห็นว่า ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องถมทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่ เพราะหากเทียบกับผลประโยชน์ในระยะยาวแล้วถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจากปัจจุบัน มีการใช้ประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในในหลายมิติ ไม่ใช่เพียงแค่การประมงเท่านั้น


ส่วนที่มีความเห็นว่า พื้นที่อ่าวไทยตอนในซึ่งเป็นดินเลน ไม่มีความเหมาะสมในการถมหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ นายศักดิ์อนันต์ มองว่า ด้วยความรู้ในทางวิศวกรรมคงไม่มีปัญหาในการก่อสร้าง แต่คงจะต้องใช้งบประมาณมหาศาล


“ณ เวลานี้ การมองเรื่องความคุ้มหรือไม่คุ้มมันสามารถพิสูจน์ได้ด้วยข้อมูล ศึกษาออกมาให้ชัดเจนว่า ประโยชน์ของการเก็บทรัพยากรเหล่านี้ไว้ เทียบกับสิ่งที่เราจะถมลงไปในทะเล มันอาจจะมีการคิดเป็นเชิงตัวเลขออกมาก็ได้ เพียงแต่ว่าในมิติของการประเมินมูลค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม มันมีเยอะมาก มีหลายมิติมาก ที่บางทีการคิดในเชิงเศรษฐศาสตร์อาจจะมองไม่เห็น


คำถามสำคัญที่จะต้องถามคือ ผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ในปัจจุบันกับโอกาสที่เราจะใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้า มีอะไรบ้าง ต้องศึกษาให้หมด ถ้าเราจะอยู่บนพื้นฐานขององค์ความรู้ เราต้องหาให้หมดว่าข้อดี ข้อเสีย นำมาเปรียบเทียบ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคืออะไร มิติด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน ต้องศึกษาให้ครอบคลุมครบถ้วนก่อน





แต่ในมุมมองของผมคิดว่า มันไม่จำเป็นต้องสร้าง และเราไม่ควรสูญเสียระบบนิเวศที่สำคัญมากๆ ของประเทศไทยไป อ่าวไทยตอนในเป็นพื้นที่ที่มีผลผลิตทางการประมงสูงมาก”


อีกจุดหนึ่ง ที่ นายศักดิ์อนันต์ ชี้ให้เห็นคือระบบการหมุนเวียนของกระแสน้ำในอ่าวไทยรูปตัว ก ซึ่งเป็นการหมุนเวียนอยู่ภายใน ดังนั้น หากเกิดมลพิษขึ้นจะทำให้เกิดการกระจายตัวไปทั่วพื้นที่อ่าวรูปตัว ก และมลพิษจะสะสมอยู่ภายในพื้นที่


“ปัจจุบันในอ่าวไทยรูปตัว ก ก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว ซึ่งข้อมูลละเอียดต้องเอาจากกรมควบคุมมลพิษ แต่ตัวหลักคือพวกสารเคมีการเกษตรและอุตสาหกรรมที่ไหลลงทะเลมาสะสมที่อ่าวไทยรูปตัว ก ถือเป็นปัญหาใหญ่มากที่ต้องแก้กัน แต่ทะเลในหลายๆ ที่ยังอยู่ในภาวะที่เยียวยาตัวเองได้ แต่ถ้าเกิดมีอะไรที่มันมากกว่านั้น ไม่แน่ มันอาจจะรับไม่ได้ สภาวะการเน่าเสียอาจจะเกิดขึ้น”


นายศักดิ์อนันต์ ทิ้งท้ายว่า


“คือเราอาจจะได้แผ่นดิน แต่สิ่งที่ได้จากแผ่นดินตรงนั้นคืออะไรจะต้องคิดต่อ การมีโครงสร้างขนาดใหญ่ๆ แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน มันก็จะส่งผลกระทบต่อด้านที่อยู่ปลายน้ำ การสะสมดินตะกอนต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไป อย่าไปสร้างปัญหาเพิ่มเติมมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเราจะแก้ไขอะไรไม่ได้”

...................

ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ)

http://www.tcijthai.com/
__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 02-08-2011 เมื่อ 10:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:43


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger