เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 15-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "หว่ามก๋อ" (พายุระดับ 5) บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในเช้าวันนี้ (15 พ.ย. 63) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางในช่วงวันที่ 15-16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ขอให้เกษตรกรบริเวณดังกล่าวเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 15 ? 20 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "หว่ามก๋อ" (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 15 พ.ย. 63 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 15 ? 16 พ.ย. ขอให้เกษตรกรบริเวณดังกล่าวเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุไต้ฝุ่น "หว่ามก๋อ" (พายุระดับ 5)" ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2563) พายุไต้ฝุ่น "หว่ามก๋อ" (พายุระดับ 5) บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน มีศูนย์กลางประมาณ 180 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในเช้าวันนี้ (15 พ.ย. 63) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางในช่วงวันที่ 15-16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ขอให้เกษตรกรบริเวณดังกล่าวเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 15-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เร่งช่วยเหลือ ลูกวาฬเกยตื้นหาดบางเบิดที่ชุมพร คาดบาดเจ็บหลงทางมา

ลูกวาฬเพชฌฆาตดำโตยังไม่เต็มวัย ยาว 4 เมตร หนัก 500 กก. บาดเจ็บหลงทางเกยตื้นหน้าหาดบางเบิด โครงการส่วนพระองค์ในหลวง ร.9 จนท.ช่วยเหลือส่งกลับสู่ทะเลปลอดภัย แต่ยังตามระวัง 24 ชั่วโมง



เมื่อวันที่ 14 พ.ย.63 นายสมศักดิ์ ชัยวิสิทธิ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จังหวัดชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายสมโชค ช่วยประคอง เจ้าหน้าที่โครงการฯ ว่าพบวาฬขนาดใหญ่ลอยมาเกยตื้นดิ้นทุรนทุรายอยู่บริเวณชายหาดบางเบิด หน้าโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ในหลวง ร.9 บ้านน้ำพุ หมู่ที่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จากนั้นได้ประสานไปยัง นางสาวทิพยมาศ อุปน้อย ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) เดินมาพร้อม นางสาวพิมชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ ให้มาช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นวาฬเพชฌฆาตดำ ยังโตไม่เต็มวัย ยาวประมาณ 4 เมตร หนักกว่า 500 กิโลกรัม โดยมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังช่วยเหลือประคับประคองตัววาฬเพชฌฆาตดำแช่ไว้ในน้ำเพื่อไม่ให้คลื่นลมที่มีกำลังแรงซัดขึ้นมาเกยบนชายหาด กลัวว่าจะได้รับอันตรายและขาดน้ำจนตายได้ โดยที่โคนหางมีบาดแผลรอยถลอกแต่ไม่ถึงฉกรรจ์มากนัก เจ้าหน้าที่ได้รักษาเบื้องต้น จากนั้นได้นำวาฬเพชฌฆาตดำใส่ในเปลผ้าใบ แล้วช่วยกันนำขึ้นเรือยาง แล้วนำขึ้นบนสาลี่พ่วงใช้รถยนต์กระบะลากนำไปลงที่บริเวณริมอ่าวหน้าหมู่บ้านเกาะเตียบ หมู่ที่ 7 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 10 กิโลเมตร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นอ่าว คลื่นลมไม่แรง เพราะมีเกาะอยู่จำนวนหลายเกาะจึงเป็นจุดที่ปลอดภัย

ต่อมาเมื่อถึงบริเวณอ่าวบ้านเกาะเตียบ เจ้าหน้าที่ได้นำวาฬเพชฌฆาตดำที่อยู่ในเปลผ้าใบลงไปแช่ประคองไว้ในทะเลห่างจากชายหาดประมาณ 5 เมตร และไม่นานนักวาฬเพชฌฆาตดำตัวดังกล่าวมีอาการฟื้นตัวได้พยายามตะเกียกตะกายดิ้นออกจากเปลยาง แล้วว่ายดำผุดดำโผล่ มุ่งหน้าออกไปสู่ทะเลลึกที่มีเกาะเล็กเกาะใหญ่อยู่จำนวนหลายเกาะ สำหรับเป็นที่หลบลมมรสุมได้

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) เปิดเผยว่า วาฬเพชฌฆาตดำ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาว 5-6 เมตร หนักมากกว่า 1 ตัน เป็นสัตว์ที่อาศัยหากินอยู่ในทะเลน้ำลึก จัดเป็นสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ตัวล่าสุดเพิ่งจะพบที่เกาะสิมิลัน ฝั่งทะเลอันดามัน ส่วนสาเหตุคาดว่าวาฬเพชฌฆาตดำตัวนี้ จะได้รับบาดเจ็บที่หาง ทำให้ว่ายน้ำช้าและหลงฝูง ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้คลื่นลมที่มีกำลังแรงซัดวาฬเพชฌฆาตดำตัวนี้เข้าเกยตื้นดังกล่าว จึงตองจัดเวรยามชายฝั่งคอยเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้วาฬเพชฌฆาตดำถูกคลื่นลมซัดเข้ามาเกยตื้นอีก.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/1976635

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 15-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


วาฬเพชฌฆาตดำบาดเจ็บที่หาง เกยตื้นหาดบางเบิด ชุมพร เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือส่งกลับทะเลปลอดภัย

ชุมพร - พบวาฬเพชฌฆาตดำ โตไม่เต็มวัย ยาว 4 เมตร หนัก 500 กก. บาดเจ็บหลงทางเกยตื้นหน้าหาดบางเบิด โครงการส่วนพระองค์ในหลวง ร.9 เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือส่งกลับสู่ทะเลปลอดภัย แต่ยังติดตามเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง



เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 พ.ย.) นายสมศักดิ์ ชัยวิสิทธิ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จังหวัดชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายสมโชค ช่วยประคอง เจ้าหน้าที่โครงการว่า พบวาฬขนาดใหญ่ลอยมาเกยตื้นดิ้นทุรนทุรายอยู่บริเวณชายหาดบางเบิด หน้าโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ในหลวง ร.9 บ้านน้ำพุ หมู่ที่ 5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จากนั้นได้ประสานไปยัง น.ส.ทิพยมาศ อุปน้อย ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) เดินมาพร้อม น.ส.พิมชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ให้มาช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบพบว่า เป็นวาฬเพชฌฆาตดำ ยังโตไม่เต็มวัย ยาวประมาณ 4 เมตร หนักกว่า 500 กิโลกรัม โดยมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังช่วยเหลือประคับประคองตัววาฬเพชรฆาตดำแช่ไว้ในน้ำเพื่อไม่ให้คลื่นลมที่มีกำลังแรงซัดขึ้นมาเกยบนชายหาด กลัวว่าจะได้รับอันตรายและขาดน้ำจนตายได้ โดยที่โคนหางมีบาดแผลรอยถลอกแต่ไม่ถึงฉกรรจ์มากนัก เจ้าหน้าที่ได้ทำการรักษาเบื้องต้น จากนั้นได้นำวาฬเพชฌฆาตดำใส่ในเปลผ้าใบแล้วช่วยกันนำขึ้นเรือยาง แล้วนำขึ้นบนสาลี่พ่วงใช้รถยนต์กระบะลากนำไปลงที่บริเวณริมอ่าวหน้าหมู่บ้านเกาะเตียบ หมู่ที่ 7 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นอ่าว คลื่นลมไม่แรง เพราะมีเกาะอยู่จำนวนหลายเกาะจึงเป็นจุดที่ปลอดภัย

ต่อมา เมื่อถึงบริเวณอ่าวบ้านเกาะเตียบ เจ้าหน้าที่ได้นำวาฬเพชรฆาตดำที่อยู่ในเปลผ้าใบลงไปแช่ประคองไว้ในทะเลห่างจากชายหาดประมาณ 5 เมตร และไม่นานนักวาฬเพชฌฆาตดำตัวดังกล่าวมีอาการฟื้นตัวได้พยายามดิ้นตะเกียกตะกายดิ้นออกจากเปลยาง แล้วว่ายดำผุดดำโผล่มุ่งหน้าออกไปสู่ทะเลลึกที่มีเกาะเล็กเกาะใหญ่อยู่จำนวนหลายเกาะ สำหรับเป็นที่หลบลมมรสุมได้

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) เปิดเผยว่า วาฬเพชฌฆาตดำ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาว 5-6 เมตร หนักมากกว่า 1 ตัน เป็นสัตว์ที่อาศัยหากินอยู่ในทะเลน้ำลึก จัดเป็นสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ตัวล่าสุดเพิ่งจะพบที่เกาะสิมิลัน ฝั่งทะเลอันดามัน ส่วนสาเหตุคาดว่าวาฬเพชฌฆาตดำตัวนี้ จะได้รับบาดเจ็บที่หาง ทำให้ว่ายน้ำช้าและหลงฝูง ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้คลื่นลมที่มีกำลังแรงซัดวาฬเพชฌฆาตดำตัวนี้เข้าเกยตื้นดังกล่าว จึงตองจัดเวรยามชายฝั่งคอยเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้วาฬเพชฌฆาตดำถูกคลื่นลมซัดเข้ามาเกยตื้นอีก


https://mgronline.com/south/detail/9630000117759

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 15-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด



ทุบสถิติโลก! หนุ่มอียิปต์ดำน้ำอึดอยู่ใต้ทะเลติดต่อกัน 6 วัน



นายSaddam Al-Kilany นักดำน้ำชาวอียิปต์ วัย 29 ปี เขาได้ลงไปใช้ชีวิตอยู่ใต้ทะเลเป็นเวลา 145 ชั่วโมง 30 นาทีหรือประมาณ 6 วันด้วยกัน เขาได้ทำการดำน้ำลงไปที่บริเวณ Red Sea ในเมืองดาฮับ ประเทศอียิปต์ โดยระหว่างที่เขาอยู่ใต้น้ำบนชายฝั่งนั่นเต็มไปด้วยญาติพี่น้องและคนในละแวกนั้นที่ผลัดกันมาเป็นกำลังใจ

Saddam Al-Kilany ปฏิเสธที่จะทำภารกิจนี้ต่างประเทศ โดยเขาตั้งใจที่จะทุบสถิติโลกในประเทศของตัวเอง ซึ่งเขาได้ใช้เวลา 6 วันอยู่ใต้น้ำพร้อมกับทีมแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำอย่างใกล้ชิด โดยคราวนี้เขาได้ทำลายสถิติตัวเองที่ทำไว้เมื่อปีที่แล้วด้วยเวลา 121 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายสถิติเก่าของนาย Cem Karabay จาก สาธารณรัฐไซปรัสไปได้ โดยนายCem Karabay เคยทำสถิติไปได้ 142 ชั่วโมงกับอีก 47 นาที แต่ในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ

อีกคนที่น่าสนใจนั่นก็คือนาย "เฮอร์เบิร์ต นิตช์" ที่เขาเกือบจะเสียชีวิตจากการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิง เขาเป็นชาวออสเตรียประเทศปิดที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่เขาสามารถดำน้ำโดยไม่มีเครื่องช่วยหายใจ และยังสามารถดำลึกที่สุดในโลกอีกด้วย

เฮอร์เบิร์ต นิตช์ สามารถกลั้นหายใจได้นาน 9 นาที และสามารถดำน้ำได้ลึกที่สุด 253 เมตร โดยการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิงนั้นคือกีฬาที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเขาได้ทำการฝึกอย่างหนักจนปอดของเขาสามารถขยายได้ถึง 14 ลิตร ในขณะค่าเฉลี่ยของคนปกติอยู่ที่ 6 ลิตรเท่านั้น และในปี 2012 เขาได้ทำสถิติใหม่โดยการดำน้ำลึก 253 เมตร หรือประมาณความสูงของตึก 70 ชั้น


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_5323218


*********************************************************************************************************************************************************


จีนเตรียมส่งมนุษย์ลงก้นทะเลลึกหมื่นเมตรทำลายสถิติโลก หาขุมสมบัติ



จีนเตรียมส่งมนุษย์ลงก้นมหาสมุทรทำลายสถิตโลกด้วยความลึก 10,909 เมตร โดยยานดำน้ำที่ชื่อว่า "Fendouzhe" ที่ควบคุมด้วยมนุษย์ โดยยานดำน้ำดังกล่าวจะเข้าสำรวจบริเวณกก้นสมุทรมาเรียนาของมหาสมุทรแปซิกลงดิ่งใต้ทะเลพร้อมผู้ควบคุมทั้งหมด 3 คน

โดยทางการจีนจะทำการส่งเจ้าหน้าที่ 3 คนเพื่อลงไปสำรวจหาทรัพยากร และขุมสมบัติเก่าแก่ที่คาดว่าจะมีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ ก่อนหน้านี้ประเทศจีนเคยสร้างสถิตติลงใต้ทะเลไว้ที่ 800 เมตร แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายสถิติของทางสหรัฐฯที่สามรถดำลงไปลึกลึกถึง 10,927 เมตร เมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมา

ร่องกันสมุทรมาเรียน่าคือร่องสมุทรที่มีความลึกมากที่สุดในโลก และเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของเปลือกโลก ณ ปัจจุบันอีกด้วย ทางการจีนได้มีการจัดตั้งชุดสำรวจทรัพยากรใต้ทะเลลึกที่มีอยู่อย่างมหาศาล รวมถึงการวาดแผนที่ขุมสมบัติโดยมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง

นอกเหนือจากการแข่งขันทางอวกาศแล้วการลงสำรวจใต้ทะเลนั้นก็มีการแข่งขันที่สูงเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศ ญี่ปุ่น อินเดีย และอื่นๆ ก็ได้เล็งเห็นว่ามหาสมุทรยังมีสมบัติและทรัพยากรที่สามารถมาทำประโยชน์ได้และยังมีมูลค่ามหาศาล

อย่างเช่นเมื่อปี 2018 นักสำรวจชาวญี่ปุ่นได้ค้นพบแร่ธาติหายากที่มีมูลค่าสูงจำนวน 16 ล้านตันแถวๆบริเวณเกาะมินามิโตริ ที่เป็นเกาะเล็กๆอยู่ห่างจากเกาะญี่ปุ่น 1,200 กิโลเมตร โดยแร่ธาติดังกล่าวนั้นสามารถนำมาทำอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รวมไปถึง อุปกรณ์เรดาร์ ถือว่าเป็นการค้นพบใต้ทะเลที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยพบมา


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_5321872


*********************************************************************************************************************************************************


สุนัขไล่ฉลาม กระโจนลงทะเล ปกป้องเจ้านายไม่กลัวเกรง



สุนัขไล่ฉลาม - เดลีเมล์ รายงานคลิปฮือฮาในโลกออนไลน์ที่บันทึกได้ นาทีสุนัขพันธุ์ออสเตรเลียน เคลพี กระโดดลงทะเลไล่ฉลามที่ว่ายน้ำมาใกล้เจ้านายอย่างกล้าหาญ

แจ๊ก สตริคแลนด์ บันทึกช่วงเวลาน่าทึ่งที่ "ทิลลี" สุนัขเพศเมียกระโจนลงไปในทะเล เมื่อเห็นฉลามว่ายมาใกล้ชายหาดรีสอร์ตส่วนตัวเกาะแฮกเกอร์สโตน ในอุทยานแห่งชาติเกรต แบร์ริเออร์ มารีน พาร์ค ทางเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 10 ต.ค.

สตริกแลนด์ เจ้าของบล็อก "แบ๊ก ทู เบสิกส์ แอดเวนเจอร์" โพสต์คลิปวิดีโอนี้ในอินสตาแกรมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับเขียนบรรยายภาพว่า ?ทิลลี สุนัขเฝ้ายามไล่ฉลามบนเกาะแฮกเกอร์สโตน?

ในคลิปวิดีโอจะเห็นฉลามตัวหนึ่งว่ายวนในน้ำตื้นใกล้ชายหาด ทันใดนั้น ทิลลีกระโจนลงในน้ำไล่กวดฉลามจนน้ำกระจายเป็นวงใหญ่ ไล่ฉลามได้สำเร็จ

จากนั้น ก็ว่ายน้ำทะเลลึกขึ้นอีกเพื่อสำรวจว่าฉลามไม่อยู่แถวนั้น แล้วกลับมานั่งบนชายหาดด้วยความดีใจที่ไล่ปลาตัวใหญ่ได้

วินาทีที่ทิลลีกระโดดลงไปในทะเล ฉลามคงรู้ตัวแล้วว่าตกอยู่ในฐานะผู้ถูกไล่ จึงเปลี่ยนใจว่ายหนีไป

ขณะนี้ สตริกแลนด์ยังคงพักอยู่ที่รีสอร์ทกับเพื่อนซึ่งทำงานที่รีสอร์ตเขตร้อนสุดหรู ราคาค่าพักในกระท่อมที่สร้างด้วยมือ คืนละ 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 24,800 บาท

หรือถ้าเช่าทั้งเกาะราคาคืนละ 6,800 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 210,800 บาท


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_5325657
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:47


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger