เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (1 ธ.ค. 66) ส่งผลให้มีลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 ? 6 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ยังคงมีลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง บางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1 ? 5 ธ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศอินเดียในช่วงวันที่ 4 ? 5 ธ.ค. 66 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 01-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


อ.ธรณ์ กังวล "ปะการังฟอกขาวในหน้าหนาว" ชี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเจอในทะเลไทย

อ.ธรณ์ แนะจับตา "ปะการังฟอกขาวในหน้าหนาว" ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอในทะเลไทย สอดคล้องกับสถานการณ์เอลนีโญที่จะรุนแรงสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน เดือนธันวาคม



วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า จากกรณีอุทยานฯ หมู่เกาะช้าง ประกาศปิดการท่องเที่ยว ดำน้ำลึก "เกาะยักษ์ใหญ่" ชั่วคราว หลังพบปะการังฟอกขาวประมาณ 90% จากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น และปะการังบางส่วนมีร่องรอยเกิดโรคนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความว่า อุทยานเกาะช้างสั่งปิดจุดดำน้ำเพราะปะการังฟอกขาว อ่านผ่านๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่อย่าลืมว่านี่คือหน้าหนาว เท่าที่ผมจำได้ เราไม่เคยเกิดปะการังฟอกขาวในหน้าหนาว

หัวหน้าอุทยานรายงานว่า น้ำทะเลร้อน 30-32 องศา ซึ่งตัวเลขนี้สูงเป็นอย่างยิ่งในหน้าหนาว ยังเน้นย้ำคำว่า "ในหน้าหนาว" เพราะในหน้าหนาวคือช่วงที่อุณหภูมิน้ำต่ำสุดในรอบปี ลองดูข้อมูลในอดีตตามจุดต่างๆ ในภาคตะวันออก อุณหภูมิน้ำในหน้าหนาวต่ำกว่า 30 องศาเป็นเรื่องปรกติ

ปะการังอาจเริ่มฟอกขาวเมื่ออุณหภูมิน้ำสูงเกิน 30.5 องศา ทุกครั้งจึงเกิดในหน้าร้อน แต่เมื่อหน้าหนาวแต่น้ำร้อน เราจึงเจอสิ่งที่ไม่เคยเจอในทะเลไทย ไม่เคยเจอแม้ในปีเอลนีโญที่ผ่านๆ มา

หากปะการังฟอกขาวเพราะน้ำร้อนจริง ไม่ได้เป็นเพียงแค่โรคปะการังเหมือนที่เคยบอกเพื่อนธรณ์เมื่อเดือนก่อน นี่คือผลกระทบจากเอลนีโญ+โลกร้อนแบบเห็นคาตา

คำว่า "บวกโลกร้อน" เป็นข้อความสำคัญมาก จำเป็นต้องมีการศึกษาติดตามเรียนรู้ สองเบิ้ล "เป็นโรค+ฟอกขาว" ยิ่งต้องเรียนรู้ เพราะนั่นคือสิ่งที่อาจเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ เอลนีโญจะมีอีกเรื่อยๆ การเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มจึงสำคัญมาก ดีใจที่อุทยานติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิน้ำต่อเนื่องในบริเวณนั้น

เหตุการณ์นี้ยังสอดคล้องกับสถานการณ์เอลนีโญที่บอกเพื่อนธรณ์มาก่อนหน้านี้ว่า จะรุนแรงสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน/ธันวาคม น้ำทะเลในแถวบ้านเราจะร้อนผิดปรกติ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะผิดปรกติจนถึงขั้นทำให้ปะการังฟอกขาวได้ ผมจึงตกใจและเป็นห่วงครับ เป็นห่วงว่าเอลนีโญจะลากยาวข้ามปี ขนาดในหน้าหนาวยังฟอกขาว ไม่ต้องพูดถึงหน้าร้อนในปีหน้า สถานการณ์แบบนี้ต้องเฝ้าระวังกันสุดๆ

ผมเพิ่งเขียนบทความ COP28 ให้คาร์บอนคลับ มีข้อมูลที่น่าสะพรึงอยู่เยอะมาก สร้างความหดหู่ให้ผู้เขียนเป็นอย่างยิ่ง เช่น UN บอกว่าโลกกำลังจะร้อนเกือบ 3 องศา เป้าหมาย 1.5 องศาเป็นเพียงแค่ฝันอันเลื่อนลอย เมื่อข้อตกลงของมนุษย์เป็นแค่ความฝัน โลกจะยิ่งร้อนอย่างรุนแรง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ก็จะได้เห็น เช่น ปะการังฟอกขาวในหน้าหนาว.


https://www.thairath.co.th/news/society/2744715

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 01-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


'ทางหลวงข้ามทะเล' แห่งใหม่ของจีน พิชิตความท้าทายระดับโลก ใกล้เสร็จสิ้น



ท้องทะเลกว้างใหญ่ขนาดไหนก็ไม่อาจขวางการเชื่อมโยงดินแดนจีนเข้าด้วยกันให้ไปมาหาสู่กันโดยสะดวกรวดเร็วและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ!

การก่อสร้างทางหลวงข้ามทะเลระหว่างเมืองเซินเจิ้นและเมืองจงซาน มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ขยับเข้าสู่เส้นชัยของการก่อสร้างที่สุดท้าทายระดับโลก

บริษัท กลุ่มการสื่อสารมณฑลกว่างตง จำกัด รายงานว่ามีการเทคอนกรีตครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคาร (28 พ.ย.) ขณะงานก่อสร้างอุโมงค์ใต้น้ำแบบท่อ ซึ่งมีความยาวราว 6.8 กิโลเมตร ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว

อุโมงค์ใต้น้ำแบบท่อข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงความยาว 24 กิโลเมตร เชื่อมเมืองเซินเจิ้นและเมืองจงซานที่ตั้งอยู่บนแต่ละฝั่งของปากแม่น้ำจูเจียง

ทางหลวงสายเซินเจิ้น-จงซาน เป็นโครงการศูนย์กลางการขนส่งหลักในภูมิภาคอ่าวใหญ่กว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า ประกอบด้วยอุโมงค์ใต้น้ำหนึ่งแห่ง สะพานสองแห่ง และเกาะเทียมสองแห่ง ทำให้เป็นหนึ่งในโครงการเส้นทางข้ามทะเลที่มีความท้าทายมากที่สุดในโลก

ที่มาข่าว สำนักข่าวซินหัว


https://mgronline.com/china/detail/9660000107565

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:06


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger