เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 4 - 9 มิ.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 7 - 9 มิ.ย. ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 4-9 มิย. ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


'อช.หมู่เกาะเภตรา' ปักป้ายเตือน 'ริมหาดปากบารา' ระวังแมงกะพรุนมีพิษ



วันที่ 3 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่เฟสบุ๊กส่วนตัวของ Kilttisa Ar-Lee โพสต์แจ้งเตือนผู้ปกครองทราบ หลังกรณีเกิดเหตุบุตรหลานไปเล่นน้ำบริเวณที่จุดชายหาดปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูลแล้วโดนแมงกะพรุนชนิดมีพิษเข้าที่ขาต้องเร่งส่งถึงหมอโรงพยาบาลอำเภอละงู โดยได้โพสต์เตือนเฝ้าระวัง

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบถามข้อมูลพบว่า เด็กที่ไปเล่นน้ำโดยมีผู้ปกครองพาไปเล่นบริเวณที่ชายหาดปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตานั้น ยังพบอีกว่ายังมีเด็กไปเล่นน้ำบริเวณอ่าวนุ่น ม.4 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราด้วยเช่นกัน เป็นแนวชายทะเลติดเชื่อมกันถึง 2 อุทยานฯ

ล่าสุดนายวิทยา บัวพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา หลังทราบข่าวจากโซเซียล จึงสั่งการให้ทางนายหมอดดี สำสู นักนันทนาการ สำนักงานอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ลงพื้นที่ปักป้ายเตือนประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะการนำเด็ ๆ มาเล่นน้ำให้ระวังแมงกะพรุน

นายวิทยา บัวพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กล่าวว่า สำหรับแมงกะพรุนมีพิษนั้นมีหลายชนิดในพื้นที่ชายหาดปากบาราและทะเลสตูลมีน้อยมากที่ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวจะโดนแมงกะพรุนจนได้รับบาดเจ็บ คงเกิดจากช่วงมรสุมน้ำขึ้นพัดพาแมงกะพรุนขึ้นมา เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแมงกะพรุนสายมาริมชายฝั่งและเป็นครั้งแรกในรอบปีที่มีโดนแมงกะพรุนสายได้รับบาดเจ็บ

สำหรับแมงกะพรุนสายมีลักษณะตัวกลมคล้ายถ้วยสีออกแดง มีหนวดยาวประมาณ 1.5 เมตร จะอาศัยอยู่น้ำลึกห่างจากฝั่งประมาณ 15-20 เมตรและจะเริ่มมีจำนวนมากตั้งแต่เดือน กรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี ซึ่งมีพิษสามารถทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้

อาการเฉพาะที่เมื่อถูกหรือสัมผัสกับสัตว์ที่มีพิษเหล่านี้จะรู้สึกเจ็บ ปวดแสบปวดร้อน บริเวณที่ถูกจะมีสีแดงเข้ม บางครั้งเหมือนรอยไหม้ ประมาณ 20-30 นาทีจะบวมนูนขึ้นเป็นทางยาวตามผิวหนังต่อไปจะเกิดเป็น Vesicle เล็กๆ หรืออาจเป็น Bleb ใหญ่ และแตกเป็นแผลเรื้อรังกว่าจะหายกินเวลานานแม้ว่าตกสะเก็ดแล้วก็เกิดแผลใหม่อีก อาการที่เกิดขึ้นจะมีความรุนแรงแตกต่างกันไปสุดแล้วแต่ชนิดและอาการกระทบกระแทก ตลอดจนบาดแผลที่ได้รับว่าอยู่ที่ส่วนใดของร่างกายและเนื้อที่มากน้อยเพียงใด พวกที่มีพิษน้อยก็จะรู้สึกคันๆ แสบร้อนเล็กน้อยแล้วก็หายไป บริเวณที่ถูกถ้าเป็นเนื้ออ่อน เช่น บริเวณขาอ่อน ตามซอกคอและหน้า อาการก็จะมาก


การปฐมพยาบาลให้ปฏิบัติดังนี้

1.) เมื่อถูกแมงกะพรุนในตอนแรก ให้ใช้ทรายที่หาดนั้นถูบนผิวหนังเบาๆ หรือผ้าเช็ดตัวเช็ด เพื่อขัดเอาน้ำเมือก ๆ จากตัวแมงกะพรุนบนผิวหนังออกล้างด้วยน้ำทะเล ห้ามใช้น้ำจืด

2.) ให้ใช้พวกด่างอ่อน ๆ เช่นน้ำแอมโมเนีย หรือแอมโมเนียหอม หรือน้ำยา โซดาไบคาบอเนต หรือน้ำปูนใสชุบปิดแผลนั้นไว้ หรือขยำต้นและใบผักบุ้งทะเลให้ได้วุ้นลื่นๆมาพอกแผล

3.) หลังจากนั้นใช้พวก แอนติฮิสตามีนครีม หรือพวกคอร์ติโคสเตอรอยครีม (เช่น เพร็ดนิโซโลนครีม ฯลฯ)

4.) ถ้ามีอาการปวดให้รับประทานยาแก้ปวด เช่นแอสไพริน เอ.พี.ซี. นำส่งโรงพยาบาล เพราะอาจมีอาการร้ายแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย (ถ้ามีอาการมาก แพทย์อาจให้พวก 10% แคลเซียมกลูโคเนทเข้าเส้นช้า ๆ และยาอื่น ๆ ตามอาการ) การป้องกัน

พร้อมกันนี้ก็ยังได้ประสานงานไปยังพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เร่งติดป้ายเฝ้าระวังแมงกะพรุนแล้วเช่นกัน


https://www.naewna.com/likesara/496898

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 04-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


เย้ยกฎหมาย ลักลอบคราดหอยแครง อ่าวปากนคร



อ่าวปากนคร จ.นครศรีธรรมราช มีเรือประมงลักลอบเข้ามาคราดหอยแครง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ไม่อยู่ ทำรายได้ไม่ต่ำกว่าลำละ 10,000 บาท

ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่สำรวจบริเวณปากอ่าวปากนคร ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ห่างจากชายฝั่งเพียง 300 เมตร พบมีเรือลักลอบคราดหอยแครงกว่า 20 ลำ กระจายปูพรมคราดหอยแครงในแนวกระโจมบ้านปลา ด้วยเครื่องมือคราดหอยแครงผิดกฎหมาย พวกเขาขับเรือวน แล้วใช้ตะแกรงเหล็กลากหอยแครงไปตามแนวหน้าดิน ในพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่ง

นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่ากลุ่มที่เข้ามาลักลอบคราดหอยแครงในพื้นที่อนุรักษ์ จะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจการณ์ เวลาเพียง 2 - 3 ชั่วโมง สามารถสร้างรายได้ให้พวกเขาไม่ต่ำกว่าลำละ 10,000 บาท ในพื้นที่แห่งนี้มีหอยแครงจำนวนมาก เป็นผลจากการที่กรมประมงและกลุ่มชาวประมงชายฝั่ง ร่วมกันปล่อยพันธ์หอยแครงเพื่อสงวนการกระจายพันธ์และสร้างการประมงแบบยั่งยืน จากนี้เจ้าหน้าที่จะสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ จากการสังเกตของทีมข่าวไทยพีบีเอส พบว่าหลังลักลอบคราดหอยแครงเสร็จแล้ว เรือทุกลำจะเร่งเครื่องยนต์กลับเข้าปากน้ำปากนครทันที มีบางลำยังคงใช้ตะแกรงลากหอยแครง แม้ห่างจากฝั่งไม่ถึง 100 เมตร เพิ่มไปอีกด้วย




https://news.thaipbs.or.th/content/293247

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 04-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : ต้นไม้อายุยืนหายไปจากผืนป่าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง .............. โดย แมตต์ แมคเกรธ


ในปี 2019 โบลิเวียสูญเสียพื้นที่ป่าครั้งใหญ่ จากปัญหาการเผาป่าเพื่อเกษตรกรรมที่ลุกลามจนควบคุมไม่อยู่ Image copyright GETTY IMAGES

ข้อมูลล่าสุดจากดาวเทียมเผยให้เห็นว่าป่าดงดิบหรือป่าดิบชื้นเก่าแก่ที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ในปริมาณมหาศาลกำลังสูญหายไปจากหลายพื้นที่ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ในสหรัฐฯ ที่ทำการศึกษาต้นไม้ความสูง 5 เมตรขึ้นไปพบว่า ในปี 2019 โลกได้สูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิ (primary forest) ขนาดเท่า 1 สนามฟุตบอลไปทุก ๆ 6 วินาที

ป่าปฐมภูมิ คือป่าดั้งเดิมที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติมาเป็นเวลายาวนานแล้ว และยังไม่เคยมีคนบุกรุกเข้าไปทำลาย

บราซิล เป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่ป่าปฐมภูมิที่หายไป เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 13 ปี นับจากปี 2016 และ 2017 ที่เกิดความเสียหายอย่างหนักจากไฟป่า

อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก สามารถลดการสูญเสียป่าไม้เหล่านี้ไปได้ในปีที่ผ่านมา

ขณะที่ออสเตรเลีย ต้องเผชิญการสูญเสียไม้ยืนต้นอายุมากเพิ่มขึ้น 6 เท่าจากเหตุไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา


งานวิจัยนี้ศึกษาถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ต้นไม้หายไป เช่น ไฟป่า และการรบกวนธรรมชาติของมนุษย์ Image copyright GETTY IMAGES

ป่าดิบชื้นปฐมภูมิ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตร้อนทั่วโลกและต้นไม้ในแถบนี้อาจมีอายุเก่าแก่หลายร้อยหรือหลายพันปีนั้น มีบทบาทสำคัญต่อโลกเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงจะเป็นแหล่งเก็บกักก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาล แต่ยังเป็นบ้านของบรรดาสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อย่าง ลิงอุรังอุตัง และเสือด้วย


การสูญเสียที่ไม่อาจยอมรับได้

งานวิจัยชิ้นนี้พบข้อมูลว่า เมื่อปี 2019 พื้นที่ป่าดิบชื้นในโลกหายไป 11.9 ล้านเฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 1 หมื่นตารางเมตร หรือ 6 ไร่ 1 งาน) ในจำนวนนี้ 3.8 ล้านเฮกตาร์เป็นพื้นที่ป่าดิบชื้นปฐมภูมิ นับการการสูญเสียป่าไม้ปฐมภูมิครั้งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 นับจากปี 2000 และปี 2018

ฟรานซิส ซีย์มัวร์ จากสถาบันทรัพยากรโลก ระบุว่า "การสูญเสียพื้นที่ป่าในปี 2019 เป็นระดับที่ไม่อาจยอมรับได้"

"หากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ดำเนินนโยบายที่ดี และบังคับใช้กฎหมายก็จะทำให้อัตราการสูญเสียพื้นที่ป่าลดลง แต่หากรัฐบาลหย่อนยานในการควบคุมเรื่องการเผาป่า หรือส่งสัญญาณว่ามีความประสงค์จะเปิดพื้นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ อัตราการสูญเสียผืนป่าก็จะเพิ่มขึ้น"

มิเกลลา ไวสส์ จากโกลบอล ฟอเรสต์ วอตช์ ที่เฝ้าติดตามข้อมูลพื้นที่ป่าของโลก ได้กล่าวถึงปัญหาการสูญเสียพื้นที่ป่าในบราซิลว่า "เราพบพื้นที่สำคัญใหม่หลายจุดที่มีการสูญเสียป่าปฐมภูมิในเขตที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมือง โดยเฉพาะในรัฐปารา ของบราซิล ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการยึดที่ดินและการทำเหมืองแร่"

ส่วนในอินโดนีเซีย สูญเสียพื้นที่ป่าในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อันเป็นผลมาจากการดำเนินมาตรการคุ้มครองป่าที่เข้มงวดของรัฐบาล


ภาพไฟที่เผาผลาญผืนป่าในรัฐปารา ของบราซิล เมื่อเดือน ส.ค. 2019 Image copyright GETTY IMAGES

สถานการณ์ในไทย

ระหว่างปี 2001-2019 ไทยสูญเสียพื้นที่ต้นไม้ปกคลุมไป 2.06 ล้านเฮกตาร์ หายไปราว 10% จากปี 2000 ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาถึง 807 ล้านตัน

เมื่อปี 2010 ไทยมีผืนป่าธรรมชาติครอบคลุมพื้นที่ 19.1 ล้านเฮกตาร์ เป็นสัดส่วนราว 37% ของพื้นดินทั้งประเทศ

มาในปี 2019 ได้สูญเสียพื้นที่ป่าธรรมชาติเหล่านี้ไป 1.29 แสนเฮกตาร์ หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศปริมาณ 50 ตัน

ระหว่างปี 2001-2019 ไทยสูญเสียป่าดิบชื้นปฐมภูมิ 1.22 แสนเฮกตาร์ หายไปถึง 98%

จำนวนที่หายไปนี้ คิดเป็น 5.9% ของพื้นที่ต้นไม้ปกคลุมทั้งหมดทั่วประเทศ


https://www.bbc.com/thai/features-52891036
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:07


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger