เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 14-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนต่อเนื่อง เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวขึ้นสู่อ่าวเบงกลอตอนบน สำหรับพายุไต้ฝุ่น "หว่องฟ้ง" (VONGFONG) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 16 พ.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. 63 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนเพิ่มมากขึ้น กับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น มีแนวโน้มเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนไปทางอ่าวเบงกอลตอนบน

อนึ่ง พายุโซนร้อนหว่องฟ้ง(VONGFONG) ปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ กำลงัเคลื่อนตัวทางทิศทางตะวันเฉียงเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นขึ้นฝั่งบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ตอนบน ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่า ในระยะนี้ไว้ด้วย และประชาชนภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. 63












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 14-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ไมโครพลาสติกส่งผลพฤติกรรมปูเสฉวน



มลพิษทางมหาสมุทรกำลังคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ทางทะเลและผลกระทบต่อพฤติกรรมของพวกมัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่จะสายเกินไป และต้องวิจัยว่าเหตุใดไมโครพลาสติกถึงเปลี่ยนพฤติกรรมของสัตว์ในทะเล เช่นสัตว์ที่ช่วยทำความสะอาดทะเลอย่างปูเสฉวนที่ถูกระบุว่าได้รับผลกระทบมลพิษพลาสติก

ปกติแล้วปูเสฉวนจะอาศัยอยู่ในเปลือกหอยเปล่า และจะเปลี่ยนเปลือกอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเปลือกเก่าไม่เหมาะกับขนาดตัวของมันอีกต่อไป ล่าสุด นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยควีน?ส เบลฟาสต์ ในไอร์แลนด์เหนือและมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล จอห์น มัวร์ ในอังกฤษ ออกโรงเตือนว่าไมโครพลาสติกอาจมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์โดยเฉพาะผลเสียต่อพฤติกรรมการเลือกเปลือกหอยของปูเสฉวน ซึ่งสำคัญต่อการอยู่รอดของปูเสฉวนและการสืบพันธุ์ในระยะยาว

ทีมได้ตรวจสอบผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อพฤติกรรมของปูเสฉวนเพศเมีย 35 ตัว ในถังที่ใส่น้ำทะเลพร้อมสาหร่ายและเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนเป็นเวลา 5 วัน และให้ปูเสฉวนอีก 29 ตัว อยู่ในถังที่ไม่มีพลาสติก หลังจากนั้นก็ส่งปูเสฉวนไปให้เลือกเปลือกหอย นักวิจัยพบว่าปูเสฉวนที่สัมผัสกับพลาสติก มีแนวโน้มตรวจสอบการเข้าไปอยู่ในเปลือกหอยที่ดีที่สุด พวกมันยังใช้เวลานานในการเคลื่อนย้ายตัวเองเข้าไปในเปลือกหอย มากกว่ากลุ่มปูเสฉวนที่ไม่สัมผัสพลาสติก เป็นไปได้ว่าไมโครพลาสติกจะรบกวนพฤติกรรมการอยู่รอดที่สำคัญของปูเสฉวน ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีส่วนสำคัญต่อระบบนิเวศ.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1842409


*********************************************************************************************************************************************************


ล็อกดาวน์คุมโควิด ทำอินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดใน 4 ทศวรรษ



มาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 พลอยส่งผลทำให้อินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ

เว็บไซต์ "Carbon Brief" ที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศเปลี่ยน ระบุว่า อินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ โดยนับตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ชาวอินเดียเริ่มใช้ไฟฟ้ากันน้อยลง มีการใช้พลังงานที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหินลดลง และชาวอินเดียยังหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศเพิ่มขึ้นทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้ตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลงแต่หลังจากที่มีการออกมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตัวเลขก็ยิ่งลดลงไปอย่างมาก

ผลการศึกษาพบว่า อินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลง 15%ในเดือนมีนาคม 2563 และลดลงถึง 30%ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบกว่า 37 ปี

ข้อมูลจากการไฟฟ้าแห่งชาติของอินเดียระบุว่า การใช้ไฟจากถ่านหินลดลง 15% ในเดือนมีนาคม และลดลง 31%ในเดือนเมษายน ในส่วนของการส่งมอบถ่านหิน จนถึงสิ้นสุดไตรมาสแรกปีนี้ ก็มีปริมาณลดลง 2%

นอกจากนี้ ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลของอินเดียลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 และพอเข้าสู่ช่วงมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้การคมนาคมได้รับผลกระทบ การใช้น้ำมันลดลงไป 18% ต่อปี ในเดือนมีนาคม 2563.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1842768
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 14-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ศึกษากันสักนิด! ปล่อยเต่าลงน้ำหวังได้บุญ สุดท้ายอาจกลายเป็นบาป

หนุ่มโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับการปล่อยเต่าคืนสู่ธรรมชาติ หรือปล่อยลงแม่น้ำ ควรศึกษาข้อมูลให้ดี เนื่องจากเต่าบางชนิดว่ายน้ำไม่เป็น ปล่อยไปอาจทำให้จมน้ำตายได้



เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Nattawut Phothong" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อเป็นวิทยาทาน สำหรับผู้ใจบุญ ที่ต้องการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ด้วยการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่อาจจะกลับกลายเป็นได้ปาบ หากท่านปล่อยผิดวิธี จนทำให้สัตว์ดังกล่าวต้องตายลงอย่างน่าสงสาร

โดยผู้โพสต์ได้ยกตัวอย่าง "เต่า" ซึ่งพบว่าเต่ามีหลายชนิด บางชนิดไม่สมควรปล่อยลงน้ำ หรือทะเล บางชนิดเหมาะสมอยู่บนบก เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

"เผื่อช่วยอีกหลายชีวิต อยากบอกว่า ประเภทของเต่ามีหลายชนิด ซึ่งมีเต่าประเภทเต่าบก เค้าว่ายน้ำไม่ได้ กระดองหนัก หลายคนด้วยความไม่รู้ ปล่อยเต่าบกลงน้ำ ไม่กี่นาทีเค้าต้องตาย เพราะจมน้ำ

เลยอยากประชาสัมพันธ์ข้อมูลนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดจากการทำบุญปล่อยเต่าดังภาพ"



สำหรับสิ่งที่ต้องรู้ ไม่ใช่เต่าทุกชนิดที่จะว่ายน้ำได้

1. "เต่าบก" ว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าปล่อยลงน้ำก็จม เพราะกระดองหนักมาก จุดสังเกต เท้ากลมไม่มีพังผืด เล็บหนาขามีเกล็ดแข็ง

2. "เต่าน้ำจีด" ว่ายน้ำได้ แต่ต้องการพื้นดินไว้พักเหนื่อย จุดสังเกต เท้าแบน มีพังผืดระหว่างนิ้ว เล็บขนาดเล็ก

3. "เต่าทะเล" อยู่ในทะเลตลอด ยกเว้นตอนขึ้นมาวางไข่ จุดสังเกต ขามีลักษณะคล้ายใบพาย


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000049870
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:33


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger