เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #1  
เก่า 01-09-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,256
Default ฉก"ดอกไม้ทะเล"..."นีโม่"ใกล้สูญพันธุ์


ฉก"ดอกไม้ทะเล"..."นีโม่"ใกล้สูญพันธุ์


เมื่อปลายปี 2546 ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง Finding Nemo ปลาเล็กหัวใจโต๊โต ออกฉายสะท้อนชะตากรรมของ "นีโม่" ลูกปลาการ์ตูนสีส้มขาวแสนสวย ที่ถูกมนุษย์จับไปเลี้ยงในตู้ปลา แต่สุดท้ายเจ้านีโม่ก็สามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางดอกไม้ทะเล ที่เปรียบเสมือนบ้านแสนสุขและปลอดภัย แต่ชีวิตจริงของปลาการ์ตูนไม่มีตัวใดโชคดีเหมือนเจ้านีโม่สักตัว

ขณะที่นีโม่โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มโกยเงินในฮอลลีวู้ดอยู่นั้น ปลาการ์ตูนในธรรมชาติกลับเผชิญวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ จากการถูกลักลอบจับมาขาย พร้อมกับดอกไม้ทะเลจำนวนมาก แม้จะไม่มีรายงานตัวเลขที่แน่ชัดการหายไปของดอกไม้ทะเล แต่คำบอกเล่าของนักท่องโลกใต้ทะเลยืนยันว่า ดอกไม้ทะเลที่เคยเห็นมันหายไปแล้วจริงๆ ตรงกันข้ามกับความรุ่งโรจน์ของอควอเรียม หรือตู้เลี้ยงปลาและสัตว์ทะเล ที่กำลังเป็นที่นิยมชื่นชอบของคนมีเงิน ที่อยากยกโลกใต้ท้องทะเลมาไว้ใกล้ตัว

"สามารถ เดชสถิตย์" นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ สำนักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กรมประมง ผู้เพาะเลี้ยงปลาการ์ตูนสายพันธุ์ไทยและต่างประเทศ 11 ชนิด 13 สายพันธุ์ ยอมรับว่า ปลาการ์ตูนในธรรมชาติลดน้อยลงมาก อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งสิ่งแวดล้อมและฝีมือมนุษย์ โดยเฉพาะดอกไม้ทะเลที่กำลังเหลือน้อยมากในธรรมชาติ ขณะที่ยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ดอกไม้ทะเลได้

"หลังจากปล่อยปลาการ์ตูนคืนธรรมชาติ ก็ช่วยเพิ่มจำนวนปลาการ์ตูนได้เยอะ แต่การปล่อยปลาการ์ตูนจะต้องมีความเหมาะสมและสมดุลกับดอกไม้ทะเลด้วย ตอนนี้ดอกไม้ทะเลในธรรมชาติเหลือน้อยมาก หากปล่อยปลาการ์ตูนไปจำนวนมาก แต่ไม่มีดอกไม้ทะเลให้เขาอยู่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร" สามารถ กล่าว

กรมประมงเริ่มต้นวิจัยเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนตั้งแต่ปี 2543 กระทั่ง 3 ปีต่อมาจึงประสบความสำเร็จ พร้อมๆ กับการมาของปลานีโม่บนแผ่นฟิล์ม และวิกฤติปลาการ์ตูนในธรรมชาติ แต่การปล่อยปลาการ์ตูนคืนสู่ธรรมชาติ จะต้องใช้เวลาฟูมฟักเกือบครึ่งปี เพื่อสอนลูกปลาการ์ตูนที่อ่อนต่อโลกใต้ทะเลได้เรียนรู้หลบภัยในดอกไม้ทะเล ภายในศูนย์เพาะเลี้ยง ก่อนจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งจะมีปลาการ์ตูนเพียง 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่รอดชีวิต และที่ผ่านมากรมประมงปล่อยปลาการ์ตูนคืนสู่ธรรมชาติอย่างต่อเนื่องทุกปี เมื่อปี 2551 ปล่อยไปแล้ว 1,000 ตัว ล่าสุดกำลังเตรียมปล่อยปลาการ์ตูนอีก 500 ตัว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 นี้

นักเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนจากกรมประมงอธิบายขั้นตอนการปล่อยปลาการ์ตูนคืนสู่ธรรมชาติว่า จะคัดเลือกเฉพาะสายพันธุ์ท้องถิ่น เช่น ปลาการ์ตูนสีส้มขาว ปลาการ์ตูนลายปล้อง ฯลฯ อายุประมาณ 5 เดือน นำมาเรียนรู้การหลบภัยในดอกไม้ทะเลก่อน 1 สัปดาห์ ส่วนวิธีปล่อยจะแบ่งปลาการ์ตูนเป็นชุดเล็กๆ 4-5 ตัว แล้วให้นักดำน้ำลึกนำปลาการ์ตูนไปปล่อยที่ดอกไม้ทะเลโดยตรง เพื่อให้ปลาการ์ตูนรอดพ้นจากการถูกสัตว์ผู้ล่าทำร้าย ทั้งนี้ ดอกไม้ทะเล 1 ดอก จะรองรับปลาการ์ตูนได้ประมาณ 4-5 ตัว

เมื่อปล่อยไปแล้วนักดำน้ำจะลงไปสำรวจอัตราการรอดชีวิตของปลาการ์ตูน พบว่า มีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่ามากกว่าในธรรมชาติ ที่ลูกปลาการ์ตูนมีอัตราการรอดชีวิตเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น !?!

"ราตรี สุขสุวรรณ์" นักวิชาการประมงชำนาญการ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยอมรับเช่นเดียวกันว่า ปลาการ์ตูนในธรรมชาตินั้นเหลือน้อยมาก เนื่องจากดอกไม้ทะเลถูกจับมาแสดงในอควาเรียมที่ผุดขึ้นมามากมาย เมื่อไม่มีดอกไม้ทะเลอัตราการรอดชีวิตของปลาการ์ตูนก็ต่ำด้วย เพราะปลาการ์ตูนเป็นปลาสวยงาม ไม่มีพิษมีภัยที่จะป้องกันตัวเองได้ อาศัยพึ่งพาอยู่กับดอกไม้ทะเลเป็นหลัก

"ก่อนปล่อยปลาการ์ตูนที่เพาะเลี้ยงคืนสู่ธรรมชาติ จะต้องมีการสำรวจตามแนวประการังพื้นที่เป้าหมายก่อนว่า มีดอกไม้ทะเลเพียงพอหรือไม่ มีอาหาร กระแสน้ำ เป็นอย่างไร อยู่ในเขตห้ามจับหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่ออัตราการรอดของปลาการ์ตูนที่ปล่อยสู่ธรรมชาติ และก่อนนำออกทะเลต้องปรับพฤติกรรมปลาการ์ตูนอายุ 2 สัปดาห์ ให้เรียนรู้การอยู่กับดอกไม้ทะเล 1 เดือนเสียก่อน โดยธรรมชาติของปลาจะว่ายอยู่ไม่ห่างจากดอกไม้ทะเล รัศมีไม่เกิน 1 เมตร" ราตรี กล่าว

จากผลวิจัยการปล่อยปลาการ์ตูนคืนธรรมชาติ 4 ครั้ง ใน 3-4 พื้นที่ โดยแต่ละพื้นที่จะปล่อยปลาการ์ตูน 30 ตัว ในส่วนของราตรีพบว่า มีปลาการ์ตูนรอดชีวิตราว 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจเกิดจากการถูกล่า กระแสน้ำ และอาหาร เป็นต้น

แม้ว่าการปล่อยปลาการ์ตูนจะมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ แต่นักวิจัยก็ยังไม่ละความพยายาม และทุ่มเทหาวิธีทำให้ปลาการ์ตูนมีชีวิตรอดอยู่ในธรรมชาติ ท่ามกลางความหวังว่า "บ้าน" หรือ "ดอกไม้ทะเล" ของนีโม่จะไม่หายไปมากกว่านี้ เพราะตราบใดที่ยังมีดอกไม้ทะเลเพียงพอต่อครอบครัวปลาการ์ตูน ก็อาจไม่จำเป็นต้องปล่อยนีโม่เพาะพันธุ์ตัวใหม่เพิ่ม เนื่องจากจำนวน 10-20 เปอร์เซ็นต์ของปลาการ์ตูนที่รอดชีวิต จะสามารถขยายครอบครัว สร้างสมดุลและความสวยงามในท้องทะเลไทยได้เอง

ทั้งนี้ ปลาการ์ตูนจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับปลาสลิดหิน พบอาศัยอยู่ตามแนวปะการังในบริเวณเส้นศูนย์สูตรทั่วโลก อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเล กินแพลงตอนเป็นอาหาร ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ออกลูกเป็นตัว พ่อแม่ปลาจะช่วยกันเลี้ยงลูกอยู่กันเป็นครอบครัว เป็นปลาที่หวงถิ่นมาก จะมีเขตที่อยู่ของตนเอง และสามารถเปลี่ยนเพศได้ ทั่วโลกพบปลาการ์ตูนทั้งหมด 28 ชนิด ในเมืองไทยพบปลาการ์ตูน 7 ชนิด ได้แก่ ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนแดง ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอินเดียน



จาก : คม ชัด ลึก วันที่ 31 สิงหาคม 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:54


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger