เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,392
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เอเชียปาดเหงื่อ คลื่นความร้อนจะนานขึ้น ถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้นอีก

- ทวีปเอเชียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนรุนแรง โดยผลการวิจัยพบว่าผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ จะยิ่งทำให้คลื่นความร้อนยาวนานขึ้น ถี่ขึ้น และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

- ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายประเทศในเอเชียประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อน และให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ส่งผลต่อสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด โดยประชาชนต่างหาที่หลบร้อนตามสวนสาธารณะ และห้างสรรพสินค้าที่มีเครื่องปรับอากาศแทน

- ขณะเดียวกันโรงเรียนในฟิลิปปินส์ และบังกลาเทศ ก็ประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของครูและนักเรียน แม้ว่าจะต้องส่งผลต่อความต่อเนื่องในการเรียนก็ตาม




ภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างต้องรับมือกับสภาพอากาศร้อนจัด จนทำให้หน่วยงานสาธารณสุขต้องออกประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพ ขณะที่ประชาชนต่างก็หาที่หลบร้อนตามสวนสาธารณะและห้างสรรพสินค้า เพื่อบรรเทาความร้อนชั่วคราว

โดยคลื่นความร้อนรุนแรงได้เข้ามาปกคลุมภูมิภาคเอเชียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิความร้อนพุ่งสูงถึงราว 45 องศาเซลเซียส และยังทำให้โรงเรียนอีกจำนวนมากต้องปิดเรียน เพื่อให้นักเรียนอยู่บ้าน อย่างที่ฟิลิปปินส์ ได้ประกาศปิดเรียนเบื้องต้น 2 วัน ในวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากกรุงมะนิลาเมืองหลวง อุณหภูมิสูงทำลายสถิติ

ขณะที่ประเทศไทย มีรายงานผู้เสียชีวิตจากฮีตสโตรกอย่างน้อย 30 ศพแล้วในปีนี้ ขณะที่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยา เตือนสภาพอากาศรุนแรง หลังจากอุณหภูมิของจังหวัดในภาคเหนือพุ่งทะลุ 44.01 องศาเซลเซียส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ส่วนประเทศกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม อินเดีย และบังกลาเทศ หน่วยงานด้านสภาพอากาศเตือนอุณหภูมิอาจจะพุ่งเกิน 40 องศาเซลเซียสในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ

ซาน ยิน ชาวบ้านในย่างกุ้ง วัย 39 ปี ระบุว่า เธอไม่กล้าจะออกนอกบ้านในเวลากลางวันเลย เพราะกลัวว่าจะเป็นฮีตสโตรก โดยทั้งเธอ สามี และลูกชายวัย 4 ขวบ จะออกจากอพาร์ตเมนต์ในเวลากลางคืน และไปเดินเล่นในสวนเพื่อคลายร้อน เพราะในห้องพักของเธอก็อบอ้าวมากเช่นกัน

โดยข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า อุณหภูมิโลกได้พุ่งสูงทำลายสถิติไปเมื่อปีที่แล้ว และภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะร้อนขึ้นในอัตราที่รวดเร็วมาก ซึ่งผลจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทำให้คลื่นความร้อนจะอยู่นานขึ้น เกิดบ่อยครั้งขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย


ความร้อนยังไม่ทุเลา

จากข้อมูลของหน่วยงานติดตามสภาพอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ว่าเมียนมาได้ทุบสถิติอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยในเดือนเมษายน ราว 3-4 องศาเซลเซียสแล้ว และเมื่อวันอาทิตย์ หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าอุณหภูมิในช่วงตอนกลางของประเทศอย่างในเมืองมัณฑะเลย์ อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 43 องศาเซลเซียส

ด้านกระทรวงทรัพยากรน้ำ และอุตุนิยมวิทยาของกัมพูชา เตือนว่าอุณหภูมิมีโอกาสจะแตะระดับ 43 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ของประเทศในสัปดาห์หน้า ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนคอยติดตามข่าวสารด้านสภาพอากาศ และดูแลสุขภาพตัวเองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

ส่วนอุณหภูมิที่เวียดนาม ก็มีการคาดการณ์ว่าน่าจะพุ่งสูงตลอด 5 วัน ซึ่งเป็นวันหยุดเนื่องในวันชาติ โดยคาดว่าอุณหภูมิทางภาคเหนือจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิจะสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ก่อนที่จะค่อยๆ เย็นลงในเดือนพฤษภาคม

ในขณะที่หน่วยงานด้านสภาพอากาศของอินเดีย ระบุว่า คลื่นความร้อนรุนแรง จะยังคงต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ในหลายๆ รัฐ โดยบางจุดอาจจะอุณหภูมิขึ้นไปถึง 44 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่าอากาศร้อนจัดส่งผลกระทบต่อการออกไปใช้สิทธิของประชาชนหลายล้านคน ที่ต้องไปยืนรอต่อคิวเพื่อใช้สิทธิในการเลือกตั้งทั่วไปด้วย โดยมีรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดีย ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อสำรวจผลกระทบที่เกิดจากคลื่นความร้อนและความชื้นในพื้นที่ ก่อนที่จะมีการใช้สิทธิในแต่ละรอบด้วย

ส่วนในบังกลาเทศ ประชาชนนับล้านคนทยอยกลับไปเรียนแล้ว หลังจากที่ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราวจากคลื่นความร้อนรุนแรง แม้ว่าหน่วยงานสภาพอากาศจะออกมายืนยันว่า คลื่นความร้อนจะยังไม่ทุเลาอย่างน้อยในอีก 3 วันข้างหน้า


สั่งปิดโรงเรียน

การประกาศปิดโรงเรียนในฟิลิปปินส์มีขึ้น หลังจากมีข้อมูลว่า กรุงมะนิลาเผชิญอุณหภูมิสูงสุดทำลายสถิติเท่าที่เคยมีมา โดยพนักงานขับรถโดยสารจี๊ปนีย์ ซึ่งเป็นรถสาธารณะที่ไม่มีแอร์ในฟิลิปปินส์ เตรียมที่จะรวมตัวประท้วงกันในช่วงนี้ด้วย

โดยอุณหภูมิในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 38.8 องศาเซลเซียสเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ดัชนีความร้อน หรืออุณหภูมิความร้อนที่ร่างกายสัมผัสได้ในขณะนั้น พุ่งไปถึง 45 องศาเซลเซียส

และเนื่องจากโรงเรียนส่วนใหญ่ในฟิลิปปินส์ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทำให้นักเรียนต้องทนร้อนระอุในห้องเรียนที่มีผู้คนหนาแน่น และอากาศถ่ายเทไม่ดี โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากแห่ไปยังห้างสรรพสินค้าและสระว่ายน้ำเพื่อคลายร้อน

เดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม นับเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด และแห้งที่สุดในบรรดา 12 เดือนในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าสภาพอากาศในปีนี้เลวร้ายมากจากผลของปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยมีการคาดการณ์ว่าหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะในกรุงมะนิลา จะต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนมากกว่านี้จนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม และคาดว่าอุณหภูมิในปีนี้จะแตะระดับสูงสุด ทำลายสถิติในฟิลิปปินส์ในหลายพื้นที่อีกด้วย.


ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย, Omanobserver



https://www.thairath.co.th/news/foreign/2781844
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:21


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger