เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 27-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 27 มกราคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง สำหรับยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนบริเวณภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 - 28 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเป็นบางพื้นที่ ใน บริเวณภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อน

ส่วนในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 1 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ประกอบกับในช่วงวันที่ 29 - 30 ม.ค. 64 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 26 - 27 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 28 ม.ค. ? 1 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 27-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


พบไมโครพลาสติกในก้นมหาสมุทรแปซิฟิก! สัญญาณบอกอันตรายต่อห่วงโซ่อาหารมนุษย์ และระบบนิเวศทางทะเล


คูริล ? คัมชัตกาคู ร่องลึกในมหาสมุทรแปซิฟิกพบว่าเป็นกับดักไมโครพลาสติก (เครดิตภาพ: Wikimedia Commons)

งานวิจัยชิ้นล่าสุดจาก Senckenberg Research Institute & Natural History Museum โดย เซเลน่า มาร์ติน่า เอเบล และ ดร. แองเจลิก้า แบรนด์ จากการสุ่มเก็บตัวอย่างของเศษทรายบริเวณคูริล ? คัมชัตกา (Kuril-Kamchatka) ซึ่งเป็นร่องลึกของมหาสมุทรแปซิฟิก พบไมโครพลาสติกปะปน 14-209 ชิ้น ในพื้นผิวของเม็ดทราย 1 กิโลกรัม

งานวิจัยนี้เพื่อค้นหาปริมาณไมโครพลาสติกที่จมดิ่งลงและปนเปื้อนอยู่ในทะเล ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม หรือ Environmental Pollution ระบุว่า ปริมาณเม็ดทรายพื้นผิวทุกๆ 1 กิโลกรัมจะมีไมโครพลาสติกปะปนอยู่ตั้งแต่ 14 ถึง 209 ชิ้น และในจำนวนดังกล่าวมีพลาสติกจำนวน 15 ชนิดที่แตกต่างกัน

"โลกผลิตพลาสติกมากกว่า 400 ล้านตันต่อปี และเราปฏิเสธไม่ได้ว่า มีปริมาณขยะพลาสติกจำนวนไม่น้อยที่หลุดลอยลงสู่ทะเล หรือเป็นพลาสติกที่สะสมอยู่ในพื้นที่ป่า ในรูปแบบของขยะ" จากข้อมูลของเอเบล มีเศษชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่าไมโครพลาสติกปนเปื้อนอยู่ในทุกที่ของมหาสมุทร ไม่เว้นกระทั่งก้นทะเลที่อยู่ลึกที่สุด

ทีมนักวิจัยต้องการสุ่มสำรวจว่าบริเวณร่องมหาสมุทรแปซิฟิก Kuril-Kamchatka ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาค ว่ามีปริมาณพลาสติกตกค้างมากแค่ไหน โดยตั้งจุดสำรวจบริเวณที่คาดว่าจะเป็นจุดลึกที่สุด และตั้งสมมติฐานว่าจุดนี้จะเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสพบไมโครพลาสติกในปริมาณมาก เนื่องจากอนุภาคเล็กๆที่ถูกคลื่นและน้ำทะเลพัดพามักจะตกตะกอนในบริเวณนี้ ดังนั้นจึงไม่ผิดที่จะบอกว่า บริเวณพื้นที่ร่องมหาสมุทรนี้เองที่เป็นหลุมดักพลาสติกขนาดยักษ์

ในจำนวนพลาสติก 15 ชนิดที่พบในบริเวณนี้นั้น มีพลาสติกจำพวก โพลีพริพโพลีน (PP) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของภาชนะบรรจุอาหาร และโพลีแอทธีลีน (PE) ที่พบมากกว่า 75% ของตัวอย่างที่สำรวจทั้งหมด และพบเส้นใยพลาสติกจำพวกโพลีเอสเตอร์ประมาณ 63% นอกจากนั้นนักวิจัยยังพบ อนุภาคของพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 375 ไมโครมิเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีขนาดไม่เกิน 125 ไมโครมิเตอร์ ซึ่งเป็นหน่วยที่มีความเล็กประมาณ 1/8 ของ 1 มิลลิเมตร

งานวิจัยจากสถาบันการศึกษา และองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับไมโครพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ระบุตรงกันว่า เศษพลาสติกเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ และระบบนิเวศทางทะเลโดยตรง ซึ่งสิ่งมีชีวิตอาจจะบริโภคไมโครพลาสติกเหล่านี้เข้าไปอย่างไม่รู้ตัวหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มีอนุภาคพลาสติกปนเปื้อนอยู่ในร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าผลกระทบจากการปนเปื้อนของพลาสติกในระดับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยอาจเกิดความผิดปกติของการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่ระบบย่อยอาหาร รวมถึงสารประกอบของพลาสติกบางตัว ยังส่งผลถึงระบบสืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิตได้ด้วยเช่นกัน

แม้ทั่วโลกมีการรณรงค์เรื่องการลดปริมาณขยะพลาสติกอย่างต่อเนื่อง แต่การสะสมของปัญหาที่กินระยะเวลาหลายทศวรรษไม่อาจสร้างสิ่งแวดล้อมให้กลับมาดีขึ้นได้ทันท่วงที ดังนั้นวิธีการแยกขยะ และลดการใช้พลาสติกตั้งแต่ต้นทางจึงเป็นทางเลือกที่หลายประเทศเลือกใช้เพื่อให้สิ่งแวดล้อมของโลกเราไม่แย่ลงไปกว่านี้


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000008073

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 27-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


เผยปริศนา"วาฬอำแพง "อายุกว่า 3,380ปี สะท้อนทะเลไทย อาจเคยมีวาฬขนาดยักษ์อยู่อาศัย


ส่วนสีแดงคือ ชิ้นส่วนที่ค้นพบกระดูกของวาฬอำแพง

25 ม.ค.63 - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี แถลงข่าว ?ทธ. เผยปริศนา...อายุวาฬอำแพง ย้อนเวลาสู่อดีตทะเลโบราณ? เผยได้นำชิ้นส่วนกระโหลกวาฬส่งพิสูจน์อายุพบว่า วาฬอำแพงมีอายุ 3,380 +/-30 ปี ถือว่ามีสภาพเป็นซากฟอสซิลสมบูรณ์ถึง 90% และพบซากชิ้นส่วนสำคัญ ได้แก่ บาลีนและกระดูกหู ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย

นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี(ทธ.) เปิดเผยว่า จากการค้นพบโครงกระดูกวาฬอำแพง ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ได้ส่งตัวอย่างกระดูกบริเวณส่วนหัวกะโหลกที่แตกหัก 1 ชิ้นประมาณ 100 กรัม ไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์หาอายุด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 (C-14) ที่ห้องปฏิบัติการบริษัท เบต้า จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการชั้นนำด้านการหาอายุด้วยวิธีคาร์บอน 14 AMS ทราบว่า วาฬอำแพงมีอายุ 3,380 ปี +/-30 ปี หรือมีอายุมากกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อทางธรณีวิทยากับโบราณคดี โดยสามารถบ่งบอกสภาพแวดล้อมในอดีตได้ว่า เป็นช่วงที่เริ่มมีอารยธรรม พบสิ่งมีชีวิต หรือเริ่มเข้าสู่ในยุคอาณาจักรศรีวิชัย หลังจากนี้อาจจะสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและระดับน้ำทะเล ที่จะมีผลกระทบต่อที่ลาบลุ่มภาคกลางจะเป็นอย่างไรต่อไป

อธิบดี ทธ. กล่าวเพิ่มว่า เมื่อกลางเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการอนุรักษ์ตัวอย่างชิ้นสุดท้ายชิ้นที่ 128 คือ เฝือกส่วนกะโหลก และกระดูกหู 2 ข้าง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการจำแนกสายพันธุกรรมโบราณและวิวัฒนาการของวาฬ อีกทั้งยังเป็นการค้นพบครั้งแรกในประเทศไทย เพราะกระดูกหูถือว่าเป็นส่วนที่ค้นพบได้ยากมากๆ ยังพบบาลีนหรือ ส่วนขากรรไกรบน (ซ้าย-ขวา) กว้าง 40 เซนติเมตร และชิ้นส่วนนิ้วเพิ่มอีกจำนวน 3 ข้อ สรุปชิ้นตัวอย่างโครงกระดูกวาฬ จำนวนรวมทั้งสิ้น 138 ชิ้น และจะทำการศึกษาต่อไปถึงสรีระของวาฬ วิวัฒนาการของวาฬในอดีตเชื่อมโยงปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ณ ขณะนี้โครงกระดูกวาฬเพื่อทำการอนุรักษ์ตัวอย่าง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี และหากสถานที่ของทางจังหวัดสมุทรสาครที่จะนำชิ้นกลับไปดูแลอนุรักษ์ เป็นสมบัติของจังหวัด ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

ภายในงานเสวนา สภาพแวดล้อมบรรพกาลกับวาฬอำแพง นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การจำแนกชนิด"วาฬอำแพง" ชิ้นส่วนที่สามารถนำมาจำแนกได้ อย่าง ส่วนของกระดูกจมูก พบว่ากระดูกจมูกวาฬอำแพง ยังไม่มีความชัดเจน แต่ได้ให้น้ำหนักใกล้เคียงกับ วาฬบรูด้า ที่มีลักษณะโค้งงอและเส้นตรง แต่อีกส่วนที่สำคัญที่สามารถพิสูจน์ชนิดได้ คือด้านข้างของกะโหลก แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์เพราะกระโหลกมีความชำรุด

ทั้งนี้ มีข้อมูลจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ ที่น่าสนใจคือ มีการพบว่าวาฬอำแพง ที่มีรหัสพันธุกรรมใกล้เคียงกับวาฬ Sei Whale แต่ทั้งนี้ขนาดของวาฬอำแพงเมื่อโตเต็มไวมีขนาดประมาณ 12.5 เมตร ซึ่งใหญ่กว่า วาฬบรูด้า แต่เล็กกว่าวาฬ Sei Whale ที่มีขนาด 15 เมตร อีกทั้งยังไม่พบการแพร่กระจายในประเทศไทย ดังนั้นยังคงไม่ข้อสรุปเรื่องชนิดวาฬ จะต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมที่อาจจะทำให้พบชนิดพันธุ์เพิ่มขึ้นได้


https://www.thaipost.net/main/detail/91069

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 27-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


?วาฬอำแพง? อายุกว่า 3,000 ปี

กรุงเทพฯ 26 ม.ค. ? กรมทรัพยากรธรณีเผยผลตรวจหาอายุซากดึกดำบรรพ์ของวาฬซึ่งพบที่ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร พบว่า มีอายุมากกว่า 3,000 ปี รวมทั้งเป็นหลักฐานสำคัญบ่งชี้ว่า ตำบลอำแพงในอดีตเป็นทะเลมาก่อน



นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการอนุรักษ์ตัวอย่างชิ้นสุดท้ายชิ้นที่ 128 คือ เฝือกส่วนกะโหลก และกระดูกหู 2 ข้าง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการจำแนกสายพันธุกรรมโบราณและวิวัฒนาการของวาฬ อีกทั้ง ยังพบขากรรไกรบน (ซ้าย-ขวา) และชิ้นส่วนนิ้วเพิ่มอีก 3 ข้อ สรุปชิ้นตัวอย่างโครงกระดูกวาฬมีทั้งสิ้น 138 ชิ้นตัวอย่าง หลังจากการส่งตัวอย่างกระดูกวาฬอำแพงเพื่อวิเคราะห์หาอายุของวาฬ กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งจากห้องปฏิบัติการบริษัท เบต้า จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการชั้นนำด้านการหาอายุด้วยวิธีคาร์บอน 14 AMS ทราบว่า วาฬอำแพงมีอายุ 3,380 +/-30 ปี หรือมีอายุมากกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ซึ่งผลอายุของกระดูกวาฬอำแพงได้นำไปสู่หลักฐานที่บ่งชี้ว่าพื้นที่บริเวณตำบลอำแพงเป็นทะเลเมื่อประมาณ 3,380 +/-30 ปีก่อน ซึ่งเป็นผลให้สามารถอธิบายถึงสภาพนิเวศวิทยาโบราณที่มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตเนื่องจากบริเวณเดียวกันยังพลซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์อื่นๆ ได้แก่ ฉลาม กระเบน หอยกาบคู่ หอยกาบเดี่ยว ทั้งยังช่วยเรื่องการลำดับชั้นตะกอนทะเลโบราณของที่ราบภาคกลางได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้การขุดค้นพบโครงกระดูกวาฬอำแพงเริ่มเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 หลังได้รับแจ้งจากบริษัท ไบรท์ บลู วอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด พบโครงกระดูกวาฬในชั้นตะกอนดินเหนียว ที่ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร โดยกรมทรัพยากรธรณี และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจขุดค้นและศึกษาบริเวณพื้นที่โดยรอบ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563 จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายโครงกระดูกวาฬเพื่อทำการอนุรักษ์ตัวอย่างที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งการอนุรักษ์โครงกระดูกวาฬอำแพง ดำเนินการแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2563 โดยมีชิ้นตัวอย่างโครงกระดูกวาฬ 127 ชิ้นตัวอย่าง ขณะเดียวกันได้ส่งตัวอย่างกระดูกบริเวณส่วนหัวกะโหลกที่แตกหัก 1 ชิ้น ประมาณ 100กรัม ไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์หาอายุด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 (C-14)

กรมทรัพยากรธรณียังจัดประชุมวิชาการ เรื่อง ?สภาวะแวดล้อมบรรพกาลกับวาฬอำแพง? เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการกับภาคีเครือข่ายด้านซากดึกดำบรรพ์ที่ให้ความร่วมมือในการสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬ ประกอบด้วยหัวข้อ การสำรวจขุดค้นซากกระดูกวาฬโบราณ การศึกษาด้านธรณีวิทยาและตะกอนวิทยา ตลอดจนซากสิ่งมีชีวิตโบราณอื่นๆ ที่พบร่วมด้วย รวมทั้งเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นนำไปสู่แนวทางด้านการสงวน การอนุรักษ์ การศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์และแหล่งซากดึกดำบรรพ์ให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 เพื่อป้องกันการลักลอบขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ หรือขุดค้นโดยไม่ถูกหลักวิชาการ ทำให้ซากดึกดำบรรพ์ที่มีคุณค่าถูกทำลาย นอกจากนี้ ผลการศึกษาวิจัยที่ครบถ้วนรอบด้าน ส่งเสริมให้แหล่งวาฬอำแพงมีศักยภาพในการพัฒนา


https://tna.mcot.net/latest-news-624956
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:52


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger