เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 05-09-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 5 - 6 ก.ย. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 10 ก.ย. 64 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลางโดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 7 - 10 ก.ย. 64 ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 05-09-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


โลกร้อน : จากไฟป่าในไซบีเรียสู่น้ำท่วมที่นิวยอร์ก ย้อนดูเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในปีนี้ ............... BBC Thai


น้ำท่วมฉับพลันทำให้ระบบรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กเกือบทั้งหมดต้องหยุดชะงัก ......... EPA

อย่างน้อย 45 ราย คือจำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุไอดาที่เข้าถล่มภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่วันมานี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนถึง "วิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศ" โดยบอกว่าสหรัฐฯ "ต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้" ในอนาคต

วิดีโอบันทึกเหตุน้ำท่วมทะลักเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในนครนิวยอร์กที่เผยแพร่กันในโซเชียลมีเดียดูน่าตกใจก็จริง แต่เมื่อเรามองย้อนดูปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ในปีนี้ จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว (extreme weather) กำลังกลายเป็นสิ่งที่โลกต้องเจอบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ

บีบีซีชวนย้อนดูปรากฎการณ์ลักษณะนี้ในประเทศต่าง ๆ ที่หลายคนมองว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ


น้ำท่วมในสหรัฐอเมริกา

พายุไอดาที่เข้าถล่มบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 ราย ครัวเรือนหลายแสนครัวเรือนในรัฐลุยเซียนา รัฐนิวยอร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐมิสซิสซิปปี ยังไม่มีไฟฟ้าใช้

ที่นครนิวยอร์ก น้ำท่วมฉับพลันทำให้ระบบรถไฟใต้ดินเกือบทั้งหมดต้องหยุดชะงัก มีคนอย่างน้อย 14 รายเสียชีวิต โดย 11 คนในจำนวนนี้จมน้ำขณะติดอยู่ในที่พักชั้นใต้ดิน

ฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ บอกว่าที่รัฐมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย โดยส่วนใหญ่ติดอยู่ในรถขณะที่ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางไปลุยเซียนาวันศุกร์นี้ โดยนี่เป็นรัฐแรกที่เผชิญพายุไอดาซึ่งทำให้เกิดเหตุดินถล่ม และมีถึง 9 แสนครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในตอนนี้

"นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย และเราทุกคนต้องเผชิญกับมันด้วยกัน" ปธน. ไบเดน กล่าว "นี่เป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงที่สุดในยุคนี้แต่ผมก็มั่นใจว่าเราจะจัดการได้"

ผู้นำสหรัฐฯ บอกว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุของน้ำท่วมในครั้งนี้ และบอกว่าต้องมี ?การลงทุนครั้งประวัติศาสตร์? เพื่อจัดการกับวิกฤตดังกล่าว


ฝนตกเป็นประวัติการณ์ในจีน

ภาพน้ำท่วมสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในนครนิวยอร์กอาจทำให้ใครหลายคนนึกถึงเหตุการณ์ที่จีนเมื่อช่วงเดือน ก.ค.

เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เป็นผลจากฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์ในภาคกลางของจีนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และประชาชนกว่า 100,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้าน มีกว่า 12 เมืองในมณฑลเหอหนานที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึงเมืองเจิ้งโจวซึ่งเป็นศูนย์กลางของมณฑลนี้ด้วย วิดีโอที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์แสดงภาพน้ำท่วมถึงเอวคนบนท้องถนนและในสถานีรถไฟฟ้า

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันที่ 20 ก.ค ว่า การรับมือกับน้ำท่วมเป็นไปอย่าง "ยากยิ่ง" และอยู่ใน "สภาวะวิกฤต" ในตอนนั้น ทางการของมณฑลเหอหนาน ซึ่งมีประชากรทั้งหมด 94 ล้านคน ได้ประกาศเตือนภัยทางภูมิอากาศขั้นสูงสุด โดยทางการท้องถิ่นบอกว่าสถานการณ์น้ำท่วมแบบนี้ ร้อยปีมีครั้ง


ฝนตกหนักที่ยุโรป


น้ำท่วมตามแนวแม่น้ำอาร์ในเยอรมนี ............ Getty Images

ยุโรปเองก็เผชิญกับฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงเมื่อเดือน ก.ค. โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

น้ำท่วมในเยอรมนี เบลเยียม และอีกหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 220 คน สร้างความตกตะลึงให้แก่บรรดานักพยากรณ์อากาศและเจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นอย่างมาก โดยนักวิจัยระบุว่า โลกร้อนมีโอกาสทำให้เกิดเหตุฝนตกหนักเช่นนี้ในยุโรปตะวันตกมากขึ้นเป็น 9 เท่า ขณะที่ปริมาณน้ำฝนในภูมิภาคเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3-19% เนื่องจากปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากมนุษย์

นอกจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว ยังมีบ้านเรือน ถนนและทางรถไฟได้รับความเสียหายจากน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว


คลื่นความร้อนในสหรัฐฯ และแคนาดา

ฝั่งตะวันตกของแคนาดาและสหรัฐฯ ต้องเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์เพราะโดมความร้อน (heat dome) หรือปรากฏการณ์โดมความร้อน โดยหมู่บ้านลิตตัน ทางฝั่งตะวันตกของแคนาดา อุณหภูมิสูงถึง 49.6 องศาเซลเซียส จากที่แคนาดาเคยอุณหภูมิสูงสุดแค่ 45 องศาเซลเซียส

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ปรากฏการณ์เมื่อปลาย มิ.ย. ?แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย? หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ทีมนักวิจัยด้านสภาพภูมิอากาศนานาชาติ 27 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศนานาชาติ หรือ World Weather Attribution บอกว่า หากมนุษย์ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศอย่างที่ทำมา สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลงถึง 150 เท่า

หลังจากหมู่บ้านลิตตันของแคนาดาเผชิญอุณหภูมิสูงสุดเป็นกระวัติการณ์ไม่นานก็เกิดเหตุไฟป่าลุกลามทำลายพื้นที่จำนวนมาก


หมู่บ้านลิตตันหลังโดนไฟป่าลุกลาม ................ Reuters

ในสหรัฐฯ หลายเมืองในรัฐออริกอน และรัฐวอชิงตัน ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสมาก

อุณหภูมิที่สูงมากลักษณะนี้เป็นอันตรายถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ต้องเข้ารับการรักษาตัวเพิ่มขึ้นจากอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากอากาศร้อน


ไฟป่าครั้งมโหฬารในไซบีเรีย

หายนะไฟป่าครั้งรุนแรงที่เขตไซบีเรียในปีนี้ สร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมโลกอย่างมหาศาล โดยเหตุเพลิงไหม้ป่าสนหิมะได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากเป็นสองเท่าของสถิติเมื่อปีที่แล้ว และผลักให้อัตราการปล่อยคาร์บอนจากไฟป่าทั่วโลกในปีนี้ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ

สำนักงานควบคุมดาวเทียมคอเปอร์นิคัสเพื่อการติดตามสภาพบรรยากาศโลกแห่งยุโรป (CAMS) เผยว่าไฟป่าในไซบีเรียซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ตั้งแต่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซียไปจนถึงภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้วกว่า 800 ล้านตัน นับแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา

ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากสถิติในเหตุไฟป่าไซบีเรียเมื่อปีที่แล้ว ทั้งยังสูงกว่าอัตราการปล่อยคาร์บอนทั้งปีของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ปล่อยคาร์บอนในปริมาณสูงสุดของยุโรปและอยู่ในอันดับ 6 ของโลก

ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่าไฟป่าไซบีเรียในปีนี้กินพื้นที่กว้างถึง 161,300 ตารางกิโลเมตร โดยอาจเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยพื้นที่ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ในเขตไซบีเรียเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว มีขนาดใหญ่กว่าบริเวณที่กำลังเกิดไฟป่าในขณะนั้นทั่วโลกมารวมเข้าด้วยกัน


แอ่งน้ำซึ่งเกิดจากน้ำแข็งละลายที่กรีนแลนด์ สะท้อนถึงความรุนแรงของภาวะโลกร้อน ............... Getty Images

การเกิดไฟป่ารุนแรงในเขตอากาศหนาวจัดเช่นนี้ สะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบันของภาวะโลกร้อนที่ยิ่งเลวร้ายลงทุกที โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของกลุ่มกรีนพีซประจำรัสเซียได้ชี้ถึงสาเหตุของไฟป่าขนาดใหญ่ ว่าเกิดจากความละเลยไม่ใส่ใจของภาครัฐ ทั้งยังมีกฎหมายห้ามไม่ให้จัดการดับไฟ หากหน่วยปฏิบัติการผจญเพลิงต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง หรือในกรณีที่ไฟป่าไม่ได้ไหม้ลามถึงเขตที่อยู่อาศัย


https://www.khaosod.co.th/bbc-thai/news_6601676

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 05-09-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


น้ำมันรั่วลงทะเล หายนะของธรรมชาติ จากความผิดพลาด(อีกครั้ง)ของมนุษย์

|

ข่าวน้ำมันรั่วลงทะเลคือเรื่องที่เราได้ยินอยู่ทุกปี ล่าสุดคือครั้งที่เกิดในซีเรีย เหตุการณ์เหล่านี้หลายครั้งทิ้งผลกระทบกับผู้คนและธรรมชาติไว้มากมาย ไม่เว้นแม้แต่ที่เคยเกิดขึ้นกับจังหวัดระยองในประเทศไทยเอง


HIGHLIGHTS

- น้ำมันรั่วลงทะเลเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบทั่วทุกมุมโลก โดยมีระดับความร้ายแรงต่างกันตามพื้นที่

- ผลกระทบที่เกิดกับธรรมชาติคือความเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศ ร้ายแรงจนทำให้สูญเสียชีวิตสัตว์น้ำไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงปนเปื้อนสัตว์น้ำในพื้นที่จนไม่อาจนำมาใช้บริโภค

- ตามมาด้วยการสูญเสียบางอาชีพในพื้นที่จากการปนเปื้อนสารพิษ ทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนไปโดยสิ้นเชิง

- ปัจจุบันแนวทางแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมยังไม่ชัดเจนหรือได้ผลมากนักในทั่วทุกมุมโลก




การรั่วไหลของน้ำมันคือข่าวที่เราได้ยินกันจนชาชิน ล่าสุดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลเกิดขึ้นในโรงกลั่นน้ำมันของซีเรีย ลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนและกำลังไหลลงบนเกาะไซปรัสในไม่ช้า เป็นการรั่วไหลของถังน้ำมัน 15,000 ตันในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนตรงชายฝั่งแถบซีเรีย มาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม และการวิเคราะห์ด้วยภาพถ่ายการรั่วไหลของน้ำมันครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า 800 ตารางกิโลเมตรทีเดียว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในโลกที่มีอุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหลลงท้องทะเล แม้แต่ในประเทศไทยเองก็เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อยู่ทุกปี สถิติล่าสุดจากกรมเจ้าท่าเองในปี 2563 มีเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลเกิดขึ้น 6 ครั้ง เป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป และหนึ่งในครั้งใหญ่สุดในประเทศไทยคงเป็นเคสปี 2556 โดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล กับการรั่วไหลมากกว่า 50,000 ลิตร

เมื่อเกิดการรั่วไหลหากเป็นในปริมาณน้อยอาจสามารถควบคุมความเสียหายอยู่ในวงจำกัด หรือปล่อยให้เกิดการย่อยสลายตามธรรมชาติได้ แต่นั่นสามารถทำได้เพียงกับปริมาณน้อยและจำกัดเพียงบางชนิด อีกทั้งต้องมีการติดตามผลกระทบของคราบน้ำมันอย่างใกล้ชิดในกรณีเกิดความเปลี่ยนแปลง

แต่หากปริมาณการรั่วไหลมีมากเกินจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่และแก้ปัญหาอย่างจริงจัง หาไม่ผลกระทบที่ตามมามากพอจะฆ่าทั้งท้องทะเลและมนุษย์เราไปพร้อมกัน




ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและท้องทะเลที่อาจไม่กลับมาเหมือนเก่า

ไม่ใช่ทุกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์น้ำมันรั่วจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ด้วยอาจเกิดการรั่วไหลขึ้นในพื้นที่กลางทะเลห่างไกลจากชายฝั่ง หรือคลื่นลมพัดพาจนเกิดผลกระทบขึ้นไม่มาก แต่บางกรณีก็สร้างผลกระทบร้ายแรง เช่น การรั่วไหลน้ำมันของ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล กลางอ่าวไทย จังหวัดระยอง, การรั่วไหลของน้ำมันในแถบชายฝั่งมอริเซียส หรือการรั่วไหลน้ำมันดิบบีพีในสหรัฐฯ เป็นต้น

ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสัตว์น้ำเกิดขึ้นในหลายระดับ ในเบื้องต้นเมื่อน้ำมันปนเปื้อนร่างกายและผิวหนังจะทำให้ขนสัตว์จับตัวเป็นก้อน น้ำซึมลึกเข้าถึงผิวหนังจนอาจทำให้เกิดการจมน้ำ อีกทั้งการรักษาอุณหภูมิร่างกายทำได้ยาก จนเกิดอัตราการตายทั้งจากความหนาวหรือร้อนตายเป็นจำนวนมาก บางครั้งยังอาจไปอุดตันปากและจมูกได้อีกด้วย

นอกจากส่งผลทางตรงยังทำให้เกิดการปนเปื้อนในสัตว์น้ำเป็นวงกว้าง เป็นพิษต่อทางเดินอาหารของสัตว์น้ำและทำลายเนื้อเยื่อในอวัยวะภายใน เป็นอีกสาเหตุให้สัตว์น้ำเสียชีวิต และเมื่อมีการปนเปื้อนหรือตายไปเป็นจำนวนมาก ห่วงโซ่อาหารย่อมได้รับผลกระทบ ตามมาด้วยความเสียหายต่อระบบนิเวศทั้งหมดโดยรวม

ยิ่งไปกว่านั้นสารประกอบหรือสารเคมีในน้ำมันล้วนส่งผลให้ปะการังเกิดการฟอกขาวและตายลง ส่งผลกระทบกับปลาและความสมบูรณ์ภายในระบบนิเวศอย่างร้ายแรง ขัดขวางการสังเคราะห์แสงของปะการัง หญ้าทะเล สาหร่าย ไปจนถึงแพลนตอน ทั้งยังทำให้การวางไข่และขยายพันธุ์ของสัตว์หลายชนิด เช่น เต่ากับนกทะเลอีกด้วย

ตัวอย่างผลกระทบที่เกิดจากน้ำมันรั่วดังเช่น เหตุการณ์ดังของแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก Deepwater Horizon ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมหาศาล ตั้งแต่ นกทะเลจำนวนกว่า 800,000 ตัว เต่าทะเล 65,000 ตัว วาฬและโลมาอีกร่วม 1,400 ตัว และนี่ยังถือเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหาย และผลกระทบระยะยาวอีกมากมายที่ตามมา




เคราะห์กรรมที่หนีไม่พ้นเมื่ออันตรายย้อนกลับมาสู่ตัวเรา

น้ำมันรั่วไหลย่อมตามมาด้วยสารพิษปริมาณมหาศาลลงสู่ทะเลไปตามกัน ส่งผลกระทบกับมนุษย์หรือใครก็ตามที่เข้าไปสัมผัส ในระยะสั้นอาจทำให้เกิดการวิงเวียน ปวดศีรษะ เคืองตา เสียการทรงตัว หมดสติ ไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนในระยะยาวเมื่อสารพิษซึมลงไปตามร่างกาย อาจทำให้เกิดผื่นคันลุกลามไปถึงมะเร็งผิวหนัง หากสูดเข้าไปอาจทำให้ปอดเกิดติดเชื้อและอักเสบทำลายทางเดินหายใจ ทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ จนเกิดเลือดออกในอวัยวะจนล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด

นั่นคือผลกระทบในทางตรงและเมื่อเกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ตามมาด้วยคุณค่าทางเศรษฐกิจของทั้งพื้นที่ ตั้งแต่การสูญเสียคุณสมบัติในการเป็นแหล่งท่องเที่ยว จากการปนเปื้อนของสารพิษและน้ำมัน ทำลายทัศนียภาพและความปลอดภัยไปหมดสิ้น

เช่นเดียวกับแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำทั้งหลายเมื่อเกิดการปนเปื้อน ฟาร์มกุ้ง หอย ปู ที่เพาะพันธุ์ขายจะถูกทำลายจากการปนเปื้อนจนไม่สามารถนำไปบริโภค รวมถึงธุรกิจประมงทำให้สัตว์น้ำจำนวนมากตายและลดจำนวน ถึงสามารถหาจับได้บางส่วนก็เกิดความผิดปกติเช่น ตาบอดหรือมีเนื้องอกทำให้อาชีพประมงในพื้นที่ถูกทำลาย


เทียบจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้น เหตุการณ์รั่วไหลน้ำมันดิบในจังหวัดระยอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวจังหวัดระยอง ภายหลังเหตุการณ์น้ำมันรั่วในปี 2556 แม้มีการเก็บกู้ทำความสะอาดท้องทะเลแล้ว สารพิษตกค้างกลับยังคงอยู่และไม่ได้มีการจัดสำรวจอย่างจริงจัง สาเหตุมาจากการประเมินและตรวจสอบจำกัดแค่ผลกระทบต่อสุขภาพของคนในพื้นที่ ไม่ได้ครอบคลุมการสำรวจทรัพยากรทางทะเล

เลวร้ายกว่าคือนอกจากตัวน้ำมันและสารเคมีประกอบภายในจะสร้างปัญหา เป็นอันตรายทั้งกับท้องทะเล สัตว์น้ำ และมนุษย์แล้ว อันตรายแอบแฝงไม่แพ้กันกลับเป็นสารที่มีไว้สำหรับสลายน้ำมันชื่อ Slickgone NS ซึ่งมีความเป็นพิษสูง หากใช้ในปริมาณมากเกินอาจทำให้ปะการังตายทันที รวมถึงผลผลิตด้านการประมงไม่ว่าจะเป็นเคยที่หายไปถึง 95% ปูลดลง 50% ปลาอินทรีหายไป 60%

มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เสียหายเกินกว่าจะประเมินค่า ไม่ว่าในแง่การท่องเที่ยวหรือประมงทำลายระบบเศรษฐกิจภายในชุมชนโดยสิ้นเชิง ความอุดมสมบูรณ์ของพันธ์ปลาสาบสูญ เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมหลายชนิดต้องยุติและปิดตัวลง ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านท้องถิ่นให้ต้องเปลี่ยนอาชีพ บ้างก็หันไปรับจ้างเรือใหญ่ บางส่วนก็จำใจเข้ามาทำงานในเมือง กลายเป็นปัญหาให้แก่ชุมชนและสังคมเมืองเพิ่มเติมอีกด้วย

จนปัจจุบันการแก้ไขและสำรวจคราบน้ำมันตกค้างรวมถึงความเสียหายต่อระบบนิเวศยังไม่มีวี่แววดำเนินการแน่ชัด แม้จะมีคำตัดสินจากศาลให้ทางบริษัทชดเชยค่าเสียหายแก่ชาวบ้านแล้วก็ตาม แต่ในส่วนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

นี่ไม่ใช่ปัญหาเกิดขึ้นในไทยที่เดียว หลายประเทศยามเกิดเหตุการณ์นี้ล้วนประสบปัญหา ไม่ว่าเหตุการณ์ในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ การรั่วไหลน้ำมันจากโรงไฟฟ้าสู่แม่น้ำภายในรัสเซีย หรืออีกหลายเหตุการณ์เอง การขจัดคราบน้ำมันออกไปไม่ใช่ผลสำเร็จเป็นแค่ก้าวแรก สำหรับการฟื้นฟูและลดทอนผลกระทบต่อธรรมชาติที่ตามมา

น่าสนใจว่าคราวนี้เหตุการณ์น้ำมันรั่วในซีเรียจะส่งผลกระทบต่อท้องทะเลบนโลกอีกมากแค่ไหน


https://www.nationtv.tv/original/378837841

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:27


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger