เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 23-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อน ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย สำหรับลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับพายุไต้ฝุ่น ?ซูรีแค? บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยจะออกห่างจากประเทศฟิลิปปินส์มากยิ่งขึ้น พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 บริเวณประเทศไทยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนในหลายพื้นที่ และมีอากาศร้อนจัด ในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว

ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. 64 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามัน อ่าวไทย และภาคใต้ มีลมตะวันตกพัดปกคลุมตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "ซูรีแค" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ โดยจะออกห่างจากประเทศฟิลิปปินส์มากยิ่งขึ้น พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 23-? 25 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. 2564 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 23-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ผู้นำอิเหนาสั่งทุ่มเต็มที่ค้นหาเรือดำน้ำที่สูญหาย ห่วง 53 ลูกเรือขณะ'ออกซิเจน' พอใช้ถึงแค่เสาร์นี้


เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ของอินโดนีเซีย เตรียมตัวเข้าร่วมการปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402 ของกองทัพเรือแดนอิเหนาที่สูญหายไป ณ ท่าเรือเซลูคัน บาวัง ในจังหวัด บูเลเลง ของอินโดนีเซีย วันพฤหัสบดี (22 เม.ย.)

ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซียออกคำสั่งในวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ให้ทุ่มเทใช้ความพยายามแบบสุดๆ ในการทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาเรือดำน้ำลำหนึ่งของกองทัพที่สูญหายไประหว่างการฝึกซ้อมในทะเล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของลูกเรือจำนวน 53 คน โดยที่ผู้บัญชาการทหารเรือระบุว่าออกซิเจนภายในเรือจะมีใช้ได้แค่ถึงวันเสาร์ (24) นี้

อินโดนีเซียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และเรือ 5 ลำออกค้นหาบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งตอนเหนือของเกาะบาหลี แต่ยังไม่พบสัญญาณใดๆ ของเรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402(KRI Nanggala-402) ลำนี้ ซึ่งสูญหายไปอย่างไร้รอยเมื่อวันพุธ (21) ขณะออกฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดที่บริเวณน่านน้ำดังกล่าว

ด้าน โยโด มาร์โกโน ผู้บัญชาการทหารเรือแถลงว่า การค้นหาในตอนนี้ไม่ประสบความยุ่งยากอะไร เนื่องจากท้องทะเลสงบราบเรียบ อย่างไรก็ดี ออกซิเจนบนเรือดำน้ำจะใช้ได้นานที่สุดแค่ถึงวันเสาร์

ตั้งแต่วันพุธ จากการบินสำรวจทางอากาศได้พบคราบน้ำมันใกล้จุดที่เรือดำน้ำดำลงไป กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียระบุว่าได้ส่งคำขอความอนุเคราะห์ไปยังออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งทั้งหมดก็ตอบรับเข้าช่วยเหลือ

ฮาร์ดี ทยาห์ยันโต ผู้บัญชาการทหารของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือในวันพุธว่า เรือดำน้ำขาดการติดต่อตอนเวลา 04.30 น. และเวลานี้กำลังดำเนินหน้าค้นหาเรือดำน้ำบริเวณห่างจากชายฝั่งเกาะบาหลี ประมาณ 96 กิโลเมตร

กองทัพเรือระบุในถ้อยแถลงว่า ?มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดไฟฟ้าดับตอนที่เรือดำน้ำดำลง ดังนั้นจึงสูญเสียการควบคุมและขั้นตอนฉุกเฉินไม่สามารถดำเนินการได้ จากนั้นเรือก็หล่นสู่ความลึก 600-700 เมตร?

ข้อสันนิษฐานดังกล่าวก่อความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเผยว่าเรือดำน้ำลำนี้สามารถต้านทานแรงดันต่อเนื่อง ณ ความลึกสุดแค่ราวๆ 250 เมตรเท่านั้น

ขณะเดียวกัน กองทัพเรือยังสันนิษฐานว่าคราบน้ำมันที่พบบริเวณพื้นผิวทะเลอาจหมายความว่าเรือดำน้ำอาจเกิดความเสียหายบริเวณถังเชื้อเพลิง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่ามันจะเป็นการส่งสัญญาณจากลูกเรือ

จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 ซึ่งมีน้ำหนัก 1,395 ตัน ถูกสร้างในเยอรมนีในปี 1977 และเข้าประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียในปี 1981 เรือลำนี้เคยผ่านการยกเครื่องปรับปรุงเป็นเวลา 2 ปีในเกาหลีใต้ ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2012

ในอดีตอินโดนีเซียเคยมีกองเรือดำน้ำ 12 ลำที่ซื้อจากสหภาพโซเวียตมาใช้ตรวจการณ์น่านน้ำรอบหมู่เกาะกว้างไกลของประเทศ แต่ปัจจุบันอินโดนีเซียเหลือเรือดำน้ำเพียง 5 ลำ รวมถึง 2 ลำที่เป็นเรือดำน้ำแบบ 209 ที่ต่อโดยเยอรมนี และเรือดำน้ำที่ใหม่กว่าจำนวน 3 ลำจากเกาหลีใต้


https://mgronline.com/around/detail/9640000038464


__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 23-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


มลภาวะไมโครพลาสติกกระจายทั่วทุกทวีป ลอยไปกับกระแสอากาศที่ไหลเวียนรอบโลก



ผลวิจัยล่าสุดชี้ ปัญหามลภาวะจากไมโครพลาสติกเข้าขั้นวิกฤตแล้ว หลังพบอนุภาคพลาสติกจำนวนมหาศาลฝังตัวเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของกระแสอากาศที่ไหลเวียนไปรอบโลก เสมือนกับว่ามันเป็นสสารในธรรมชาติอย่างก๊าซออกซิเจนหรือน้ำเลยทีเดียว

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS ฉบับเดือนเมษายนนี้ ระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ค้นพบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวงจรชีวิตของไมโครพลาสติก ซึ่งได้กระจายตัวไปปนเปื้อนอยู่ทั่วทุกหนแห่งของโลก ทั้งบนบก ในน้ำ และในอากาศ

"เราพบมลภาวะจากไมโครพลาสติกที่สะสมตัวมานานหลายสิบปีเป็นจำนวนมหาศาล อนุภาคพลาสติกเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทิ้งไว้ให้ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่หลายทศวรรษก่อน" ผศ.ดร. แจนิซ บราห์นีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรธรรมชาติ และหนึ่งในผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตตของสหรัฐฯ กล่าว

ทีมวิจัยของผศ.ดร. บราห์นีย์ ได้ตรวจสอบปริมาณและที่มาของไมโครพลาสติกที่พบในภูมิภาคทางตะวันตกของสหรัฐฯ ระหว่างเดือนธ.ค. 2017 ถึงเดือนม.ค. 2019 ทำให้ทราบว่าอนุภาคพลาสติกส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวถูกพัดพามาจากแหล่งกำเนิดในที่อื่น ๆ โดยปะปนมากับฝุ่นละอองที่ลอยฟุ้งตามท้องถนน 84% มากับละอองน้ำในมหาสมุทรที่ถูกพัดขึ้นบก 11% และอีก 5% มากับฝุ่นดินจากพื้นที่การเกษตร


ภาพจากกล้องจุลทรรศน์แสดงให้เห็นชิ้นส่วนพลาสติกสีฟ้า ปะปนอยู่กับฝุ่นและเส้นใยที่กรองได้จากอากาศ

เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทีมผู้วิจัยพบว่าแหล่งกำเนิดสำคัญของไมโครพลาสติก ซึ่งกระแสลมกรดได้พัดพาให้กระจายตัวไปยังทุกทวีปทั่วโลกนั้น มาจากการสลายตัวของแพขยะขนาดยักษ์ในมหาสมุทรเป็นหลัก

ขยะพลาสติกที่ถูกคลื่นลมบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะถูกลมพัดให้ล่องลอยขึ้นไปอยู่ในบรรยากาศได้เป็นเวลานานหลายชั่วโมงไปจนถึงเกือบหนึ่งสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งนับว่านานเพียงพอที่จะทำให้มันเดินทางไกลข้ามทวีปได้

ผลวิจัยยังพบว่า มลภาวะจากไมโครพลาสติกไม่ได้มีอยู่แค่ในเมืองใหญ่เท่านั้น หากแต่ยังปรากฏในพื้นที่ห่างไกลผู้คน เช่นในเขตป่าลึกของอุทยานแห่งชาติอีกด้วย เนื่องจากอนุภาคพลาสติกนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบกระแสอากาศโลกที่พัดไหลเวียนไปได้ทั่วทุกแห่ง

นับแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา มนุษย์ทั่วโลกได้ผลิตพลาสติกขึ้นมาแล้วถึง 1 หมื่นล้านตัน แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 12% - 18% เท่านั้นที่ถูกกำจัดด้วยการเผา นำไปถมดิน หรือเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ดังนั้นเรายังคงมีขยะพลาสติกตกค้างจำนวนมหาศาลที่ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปอยู่กันในที่ใดบ้าง ซึ่งเศษพลาสติกเหล่านี้อาจกำลังก่อปัญหาใหญ่หลวงให้กับระบบนิเวศอยู่ก็เป็นได้


https://www.bbc.com/thai/international-56842245

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:42


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger