เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

อนึ่ง ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน จะเคลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 20-23 สิงหาคม 2563


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 18 - 19 ส.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีการกระจายของฝนมากกว่าภาคอื่นๆ

ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 24 ส.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ประกอบกับมีร่องมรสุม ยังคงพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบนลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อน

อนึ่ง พายุระดับ 3 (โซนร้อน "ฮีโกส") บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 19-20 สิงหาคม 2563 ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 20 ? 23 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุระดับ 4 (โซนร้อนกำลังแรง) "ฮีโกส" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2563

เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (19 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 (โซนร้อน) "ฮีโกส" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ4 (โซนร้อนกำลังแรง) "ฮีโกส" แล้ว และเมื่อเวลา 04.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก พายุนี้ยังคงเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กม./ชม. และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนตอนใต้ ในเช้าวันนี้ (19 ส.ค. 63) โดยพายุนี้อยู่ห่างจากเกาะมาเก๊า ประเทศจีน ไปทางใต้ประมาณ 35 กิโลเมตร

สำหรับร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน จะเคลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในช่วงวันที่ 20-23 สิงหาคม 2563






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เศร้า! พบซากโลมากระโดดลอยเกยตื้นหาดท้ายเหมือง

พังงา - พบซากโลมากระโดด เพศเมีย ถูกคลื่นซัดเกยชายหาดท้ายเหมือง พบมีบาดแผลที่ลำตัว เจ้าหน้าผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอีกครั้ง



วันนี้ (18 ส.ค.) นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากโลมาตายเกยตื้น บริเวณปากน้ำท้ายเหมือง หาดท้ายเหมือง เขตหมู่ที่ 3 บ้านพอแดง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง กำนันตำบลท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เข้าตรวจสอบ พบว่า เป็นซากโลมากระโดด 1 ตัว ขนาดความยาว 107 ซม. สภาพเริ่มเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น ตรวจพบมีบาดแผลเป็นรอยกัดบริเวณด้านหลังค่อนมาทางหาง จึงขนย้ายซากโลมานำส่งสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุการตาย เบื้องต้น คาดว่าบาดแผลที่พบเกิดจากถูกฉลามกัด เพราะรอยบาดแผลเรียบคล้ายของมีคมตัด ทั้งนี้ ต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ซากต่อไป

ล่าสุด ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งผ่าพิสูจน์ พบว่า เป็นโลมากระโดด เพศเมีย น้ำหนักประมาณ 15 กก. มีฟันบน 46 ซี่ ฟันล่างซ้าย 45 ซี่ ฟันล่างขวา 43 ซี่ สำหรับสาเหตุการตายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนบาดแผลที่เป็นรอยกัดนั้น อาจเกิดภายหลังการตายจากการตัดครีบออกด้วยวัตถุมีคม ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นเนื้อนำไปเข้าห้องแล็บเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง


https://mgronline.com/south/detail/9630000084672

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ฉลามวาฬว่ายเข้ามาใกล้เรือ หนุ่มกระโดดขี่หลัง-ล่องทะเลแดง



ฉลามวาฬว่ายเข้ามาใกล้เรือ - วันที่ 18 ส.ค. เดลี่เมล์ เผยแพร่คลิปหนุ่มกระโดดขึ้นฉลามวาฬและเกาะครีบหลังเพื่อพยายามขี่ หลังเห็นสัตว์ทะเลตัวนี้ว่ายน้ำเข้ามา ใกล้ท่าเรือเมืองยันบูของซาอุดีอาระเบีย

ซากี อัล-ซาบาฮี หนุ่มในคลิป กำลังนั่งอยู่บนหัวเรือยอชต์ เห็นฉลามวาฬว่ายเข้ามาใกล้เรืออย่างช้าๆ นายอัล-ซาบาฮีจึงกระโจนขึ้นหลังและจับครีบหลังและเอาขาทั้งสองข้างพาดรอบกระบังลมฉลามวาฬ

นายอัลซาบาฮีอยู่กับอยู่กับเพื่อนอีกสองคนที่อัดคลิปและอัพโหลดโซเชี่ยลมีเดีย เผยได้ยินเสียงเพื่อนคนหนึ่งพูดเตือน "ระวังมันเขมือบนายนะ" ขณะที่นายอัล-ซาบาฮีจับครีบหลังฉลามวาฬ

เนื่องจากฉลามเป็นสัตว์หายากยิ่งในทะเลแดง ชาวเน็ตจึงขนานนามนายอัล-บาซาฮีเป็น สตันต์แมน ด้วยความกล้าหาญ และขอให้พระเจ้าทรงคุ้มครอง แต่มีเสียงตำหนิถึงความประมาทและทำให้สัตว์หวาดกลัวได้เช่นกัน ขณะที่ทางการซาอุดีอาระเบียยังไม่มีออกมาชี้แจงใดๆ

ทั้งนี้ แม้ว่าฉลามวาฬจะเป็นปลาขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแต่กลับไม่ดุร้าย แถมลูกฉลามวาฬยังชอบเล่นกับนักดำน้ำด้วย ขณะเดียวกัน เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตามบัญชีแดง IUCN เนื่องจากผลกระทบต่างๆ ตทั้งการทำประมงทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจจับ เรือชน รวมถึงอายุขัยยาวนานและเติบโตช้า


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_4734359

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


เมื่อไร้มนุษย์รบกวน ธรรมชาติกลับฟื้นตัว !! เที่ยวอุทยานฯ สุขใจทำอย่างไร เมื่อเจอสัตว์ป่า



18 ส.ค.2563นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติว่า หลังจากกรมฯได้ปิดให้บริการแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาตินานกว่า 3 เดือนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "การติดเชื้อไวรัสโควิด-19" ปรากฎว่าอุทยานฯ ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หลายแห่ง ธรรมชาติกลับมาฟื้นตัว ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด ตลอดจนสัตว์ป่าหายาก ปรากฏตัวให้เห็นมากขึ้นเวลานี้ไปที่ไหนนักท่องเที่ยวมีโอกาสพบสัตว์ป่าสูงมาก ดังนั้นข้อระมัดระวังเมื่อพบเจอสัตว์ป่าคือต้องไม่บีบแตรหรือเปิดไฟส่องโดยเด็ดขาด ควรค่อยๆ ถอย หรือจอดรถ เพราะหากไม่ทำตามข้อระมัดระวังอาจจะทำให้สัตว์แตกตื่นตกใจได้ และต้องเว้นระยะห่างจากสัตว์ป่าอย่างน้อย 50 เมตร แต่หากเป็นสัตว์นักล่า เช่น เสือ ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 150 เมตรเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต้องไม่ประมาท อย่าทำอะไรที่ทำให้สัตว์ป่าเกิดอาการตกใจ มีสัญชาตญาณป้องกันตัวจนทำร้ายเราได้

"ถ้าเจอสัตว์พลัดหลง แจ้งเจ้าหน้าที่ โทร. 1362 เจ้าหน้าที่จะมาช่วยหรืออำนวยความสะดวก ทั้งนี้ ควรไปที่ทำการอุทยานฯ ก่อน เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำว่าเจอสัตว์ป่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร หรือจุดเสี่ยงต้องให้เจ้าหน้าที่นำไป อย่าไปโดยพลการ ต้องเชื่อฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่"

นายธัญญา กล่าวต่อไปว่า วันนี้สัตว์ที่หายากเริ่มกลับมา เริ่มวางไข่ ดังนั้นนักท่องเที่ยวต้องไม่ทำให้สัตว์เกิดความหวาดกลัวตื่นตระหนก อย่าหวังแต่ต้องการถ่ายภาพอยู่ใกล้กับสัตว์ในระยะประชิด เมื่อสัตว์หวาดกลัวอาจจะหนีไปเจอสัตว์นักล่าได้ ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ นักท่องเที่ยวต้องมีจิตสำนึกเข้าใจชีวิตสัตว์ ไม่รบกวน ส่วนเรื่องการให้อาหารสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะอุทยานฯ จะกำหนดจุดให้อาหารสัตว์

"กรณีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ โทร. 1362 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะสามารถช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นนักท่องเที่ยวได้ หากบาดเจ็บร้ายแรงจะประสานเฮลิคอปเตอร์มารับผู้บาดเจ็บได้ทันท่วงที อุทยานฯ แต่ละแห่งจะมีอุปกรณ์กู้ชีพช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ เรายังได้เก็บเงินค่าบริการเป็นเงินประกันชีวิตให้กับนักท่องเที่ยว 10 บาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวอุทยานฯ ด้วยความปลอดภัย"

"ผมขอย้ำว่านักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามกฎระเบียบและเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะทำให้ทุกท่านสามารถท่องเที่ยวอย่างมีความสุข และปลอดภัย"



สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในอุทยานฯ จะเปิดให้มีจองล่วงหน้าเป็นเวลา 15 วัน ผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ โดยเข้าไปจองที่พักได้ทุกอุทยานทั่วประเทศ สามารถทราบผลได้ทันทีว่ามีที่พักว่างในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางหรือไม่ ทั้งนี้จะเปิดให้จองล่วงหน้าผ่านแอพฯ ร้อยละ 70 ส่วนที่เหลือร้อยละ 30 จะรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่อุทยานฯ

พร้อมแล้วไปกัน! ท่องเที่ยววิถีใหม่แบบนิว นอร์มอล สัมผัสความงดงามของธรรมชาติและสัตว์ป่า ท่ามกลางระบบนิเวศที่สมบูรณ์ตื่นตาตื่นใจ หลังจากทุกสรรพสิ่งในผืนป่า ท้องทะเลไทย ได้รับการพักฟื้น เพราะอานิสงส์จากโควิดอย่าเที่ยวเพลิน จนลืมใส่ใจธรรมชาติ และหากพบเจอสัตว์ป่าที่ใด ทั้งในป่า นอกป่า หรือในเส้นทางที่บรรดาสัตว์ป่าลงมาหากิน หรือเดินข้ามเพื่อไปแหล่งอาหารยังอีกฝั่งหนึ่งของป่า ก็ควรปฏิบัติตามข้อบังคับของอุทยานแห่งชาติ อย่างเคร่งครัดเพราะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พาตัวเองหลีกหนีชีวิตเมืองเข้าสู่ป่า จะเป็นสิ่งงดงาม ถ้าเราช่วยกันดูแล ใส่ใจ และรักษาบ้านของสัตว์ป่าให้อุดมสมบูรณ์ดังเดิม


https://www.naewna.com/local/512366


*********************************************************************************************************************************************************


สุดเศร้า! พบซากโลมาเกยตื้นที่หาดท้ายเหมือง



วันที่ 18 สิงหาคม 2563 นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบซากโลมาตายเกยตื้น บริเวณปากน้ำท้ายเหมือง หาดท้ายเหมือง เขตหมู่ที่ 3 บ้านพอแดง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง กำนันตำบลท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นซากโลมากระโดด 1 ตัว ขนาดความยาว 107 เซนติเมตร สภาพเริ่มเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น ตรวจพบมีบาดแผลเป็นรอยกัดบริเวณด้านหลังค่อนมาทางหาง จึงขนย้ายซากโลมานำส่งสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุการตาย เบื้องต้นคาดว่าบาดแผลที่พบเกิดจากถูกฉลามกัด เพราะรอยบาดแผลเรียบคล้ายของมีคมตัด ทั้งนี้ต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ซากต่อไป

ซึ่งล่าสุดทีมสัตว์แพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งผ่าพิสูจน์ พบว่าเป็นโลมากระโดเพศเมีย น้ำหนักประมาณ 15 กก มีฟันบน 46 ซี่ ฟันล่างซ้าย 45 ซี่ ฟันล่างขวา 43 ซี่ สำหรับสาเหตุการตายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนบาดแผลที่เป็นรอยตัดนั้น อาจเกิดภายหลังการตายจากการตัดครีบออกด้วยวัตถุมีคม ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นเนื้อนำไปเข้าห้องแลป เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง


https://www.naewna.com/likesara/512505
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


กรมประมง เร่งผลักดันให้ปลิงทะเลเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย หลังเป็นที่นิยมของตลาด กิโลกรัมละ 7,000 บาท


นายถาวร จิระโสภณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการนำปลิงทะเลขึ้นมาใช้ประโยชน์เพื่อการบริโภค ทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ เป็นที่ต้องการของตลาด โดยราคาขายปลิงทะเลสด จะขายอยู่ที่ ราคา 300 ? 500 บาท/กิโลกรัม ส่วนแบบตากแห้ง ราคาจะยิ่งสูงขึ้นไปถึง 3,000 ? 7,000 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นเหตุให้ปลิงทะเลถูกจับขึ้นมาจำนวนมากจนไม่สามารถเกิดทดแทนได้ทัน

ด้วยเหตุนี้ กรมประมง จึงมุ่งผลักดันโครงการเพาะเลี้ยงปลิงทะเลขยายผลสู่เกษตรกร พร้อมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ควบคู่กันไป โดยศึกษาพัฒนาเทคนิคการอนุบาลลูกปลิงทะเลอย่างต่อเนื่อง เพิ่มผลผลิตเพื่อนำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติและทดลองเลี้ยงในบ่อดินเพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ต่อไป


http://thainews.prd.go.th/th/news/de...00818140917017

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ลักลอบขุด "ไม้เทียนทะเล" จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศมาตรการคุ้มครอง "ไม้เทียนทะเล" ตามที่ทช.ออกคำสั่งภายใต้พ.ร.บ.ทรัพยากรทางทะเล โดยมีผลบังคับใช้แล้ว หลังพบปัญหาลักลอบขุดไปขายทำบอนไซจนเสี่ยงสูญพันธุ์ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



วันนี้ (18 ส.ค.2563) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า จากปัญหาลักลอบขุดไม้เทียนทะเล ในพื้นที่ป่าชายเลนในธรรมชาติ เพื่อนำไปเป็นต้นบอนไซ มีความต้องการสูงและราคาแพงมากทำให้พบลักลอบขุดออกจากพื้นที่ แต่เนื่องจากไม้เทียนทะเล ไม่ได้อยู่ในบัญชีไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ทำให้ไม้เทียนทะเลไม่ได้มีกฎหมายคุ้มครอง ทช.ดำเนินการได้เพียงแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก ทำลายป่าเท่านั้นทั้งที่เป็นไม้ที่มีคุณค่าต่อระบบนิเวศ

นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มอบนโยบายให้ออกคำสั่ง และมาตรการคุ้มครองไม้เทียนทะเล ทช.จึงทำหนังสือขอให้กรมป่าไม้ ได้พิจารณาเสนอไม้เทียนทะเลที่ขึ้นในป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ในบัญชีไม้หวงห้าม ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน กว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้




ดังนั้นเพื่อเป็นการระงับการกระทำที่ทำให้ไม้ชนิดนี้ ที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วในธรรมชาติไม่ให้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ทช.จึงออกคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 977/2563 เรื่องมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล ไม่ให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการลักลอบขุดล้อมไม้เทียนทะเล เพื่อการค้าไม้บอนไซ และนำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนอื่นใด

โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.นี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดพบเห็นผู้กระทำความผิดขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ในทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้เร่งรัดดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด




https://news.thaipbs.or.th/content/295587

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:18


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger