เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #41  
เก่า 18-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default




พระราชวังหลวง




หลวงพระบางเป็นเมืองหลวงของลาวเมื่อนานเนกาเลมาแล้ว...ตามประวัติชาติลาว ที่เล่าโดยไกด์สาวชาวลาว ได้ความว่า....





เดิมที่อาณาจักรล้านช้างมีชื่อเรียกว่า “เมืองชวา” อันเนื่องมาจากมีชาวชวาอาศัยอยู่มากกว่ากลุ่มอื่น เมื่อปี พ.ศ. 1896 – 1916 พระเจ้าฟ้างุ้มได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆของชนเผ่าไท-ลาวในเขตลุ่มน้ำโขง แม่น้ำคาน แม่น้ำอู แล้วก่อตั้งอาณาจักรล้านช้าง ณ ดินแดนริมน้ำโขง ซึ่งคือที่ตั้งเมืองหลวงพระบาง โดยการช่วยเหลือของกษัตริย์ขอม ผู้เป็นบิดาของพระมเหสีของเจ้าฟ้างุ้ม พร้อมๆกันนั้น พระองค์ได้รับเอาพุทธศาสนาเข้ามาแทนการนับถือผี ที่ชาวลาวเคยนับถือ



ในปี พ.ศ. 1900 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เมืองเชียงทอง" กระทั่งกษัตริย์ขอมได้พระราชทานพระพุทธรูปองค์หนึ่ง มีชื่อว่า พระบาง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหล เจ้าฟ้างุ้มจึงทรงเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น “หลวงพระบาง"



ปัจจุบัน...พระบาง ได้ประดิษฐานไว้ใน "หอพระบาง" ซึ่งตั้งอย่างสง่างาม อยู่ทางด้านซ้ายทางเข้าพระราชวังหลวง ซึ่งได้เปลี่ยนมาเป็น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ของลาวไปแล้ว




อาณาจักรล้านช้างแตกออกเป็นสามอาณาจักร คือ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เวียงจันทน์ และ จำปาศักดิ์



ปี พ.ศ. 2088 พระเจ้าโพธิสารราชเจ้า โปรดฯ ให้ย้ายเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้างไปอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ แม้หลวงพระบางจะไม่ได้เป็นเมืองหลวงต่อไป แต่เจ้ามหาชีวิตยังคงประทับที่หลวงพระบาง



กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง สืบทอดราชบัลลังก์กระทั่งถึงยุคสิ้นสุดของราชวงศ์ อันมีสาเหตุหลักมาจากตกเป็นเมืองขึ้นของสยาม เวียตนาม และ ฝรั่งเศส กษัตริย์หรือเจ้ามหาชีวิตองค์สุดท้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชาวลาว คือ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ซึ่งมีอนุเสาวรีย์ตั้งอยู่ด้านขวามือของวังหลวง


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-06-2012 เมื่อ 17:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #42  
เก่า 18-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default







เราได้เข้าไปชมในพระตำหนักที่ประทับของเจ้ามหาชีวิต ที่แบ่งออกเป็นห้องต่างๆมากมาย แต่ละห้องได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามน่าชม (ผิดกับที่เราได้เข้ามาชมเมื่อยี่สิบปีก่อนมาก) ทั้งนี้ โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก UNESCO ซึ่งได้ยกย่องให้เมืองหลวงพระบางเป็น เมืองมรดกโลก


น่าเสียดาย...ที่ห้ามถ่ายภาพ ภายในเขตพระตำหนัก โดยเราต้องเก็บกล้องไว้ในตู้ที่เจ้าหน้าที่ได้จัดไว้ให้ จะได้ไม่เผลอหยิบกล้องมาถ่าย ให้ถูกจับ







ด้านข้างพระตำหนัก มีรถทรงในพระราชพิธีต่างๆแสดงไว้ด้วยในเต๊นท์ผ้าใบ คาดว่าจะเป็นการตั้งแสดงไว้เป็นการชั่วคราว เพราะเต๊นท์นั้น หาได้คุ้มแดดคุ้มฝนไม่







ไกด์สาวชาวลาวของเรา บรรยายเรื่องราวของวังหลวงให้เราได้ฟังอย่างสนุกสนาน





__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-06-2012 เมื่อ 17:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #43  
เก่า 18-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default




ด้านหน้าวังหลวง เป็นที่ตั้งของ พระธาตุพูสี ซึ่งตั้งอยู่บนดอยสูง...ส่วนที่เชิงดอย เป็นที่ขายของพื้นเมืองของชาวบ้าน ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นชาวเขาเผ่าต่างๆของลาว







ไม่ซื้อ...ไม่หา...ไม่ว่าอะไร...







มือหนึ่งอุ้มลูก...อีกมือวุ่นกับการจัดของเตรียมขาย...


ความรักของแม่.....เห็นที่ไหนก็ประทับใจเสมอ...




__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 12-07-2012 เมื่อ 18:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #44  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default



วัดวิชุนราช หรือ วัดหมากโม





วัดวิชุนราช หรือ วัดหมากโม...เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช สร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2046 ในสมัยพระเจ้าวิชุนราช จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ พระธาตุรูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโมผ่าครึ่ง อันเป็นที่มาของชื่อ "วัดหมากโม"




วัดวิชุนราช ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช สร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2046 ในสมัยพระเจ้าวิชุนราช เพื่อใช้ประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเชียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราช โปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057


หลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งทำให้ชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่า "พระธาตุหมากโม" เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูป ตามแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบน มีเจดีย์ทิศทรงบัวตูมทั่งสี่มุม






พระธาตุหมากโมนี้มีสีดำเก่าๆ แม้จะเคยผ่านการบูรณะปฎิสังขรมาแล้วสองครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ อีก 19 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้ว ซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2014 เมื่อ 16:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #45  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default







พระอุโบสถ หรือที่ชาวลาวเรียกว่า "สิม" เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบาง ตัวอุโบสถมีรูปทรงอาคารไทลื้อสิบสองปันนา ซึ่งมีจุดเด่นคือส่วนคอชั้นสองจะยกระดับสูงขึ้นไป ส่วนบนหลังคาประดับด้วยโหง่(หรือช่อฟ้าแบบไทย) ตรงกลางหลังคามีช่อฟ้า เป็นรูปปราสาทยอดฉัตรเล็กๆ ลดหลั่นหลายชั้น






หน้าต่างพระอุโบสถประดับด้วยลูกมะหวด บานประตูด้านหน้าทั้งสามช่อง แกะสลักลงรักปิดทอง มีรูปเทพเจ้าของพราหมณ์ คือ พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม และ พระอินทร์ ซึ่งลักษณะเป็นศิลปะแบบเชียงขวาง





พระประธาน หรือพระองค์หลวงในพระอุโบสถมีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง ด้านหลังพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมมาจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง เช่นพระพุทธรูปสำริด พวกไม้จำหลักลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรักปิดทองสูงเท่าคนจริงจำนวนมาก




__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-06-2012 เมื่อ 17:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #46  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default




ด้านข้างวัด มีวิหารเล็กๆตั้งอยู่ มีเจดีย์สีดำคล้ำ สร้างอยู่หลายองค์











__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #47  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default




เด็กน้อยวัยเพียงแปดเดือน ที่ไปกับพ่อ แม่ ตา ยาย น้าสาว และน้าเขย....น่ารักน่าเอ็นดู อารมณ์ดี ไม่งอแงเลยค่ะ...







ใครเห็น...ก็อดไปทักทายไม่ได้...






สองสายก็ได้เพื่อนใหม่มากมายจากการไปทริปครั้งนี้ค่ะ






__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-05-2012 เมื่อ 11:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #48  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default




วัดเชียงทอง







วัดเชียงทอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง


วัดเชียงทองสร้างขึ้นก่อนหน้า ที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจะย้ายเมืองหลวงไปยังนครเวียงจันทน์ไม่นานนัก และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของประเทศลาว







พระอุโบสถ ภาษาลาวเรียกว่า "สิม" เป็นพระอุโบสถหลังไม่ใหญ่โตมากนัก หลังคาพระอุโบสถมีหลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น กล่าวกันว่านี่คือศิลปะแห่งหลวงพระบาง







ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทองชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อเป็นข้อสังเกตุว่าวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง จะมีช่อฟ้า 17 ช่อ ส่วนคนสามัญสร้างจะมีช่อฟ้า 1- 7 ช่อเท่านั้น เชื่อว่าบริเวณช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆตรงกลางช่อฟ้าจะมีของมีค่าบรรจุอยู่






__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-05-2012 เมื่อ 18:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #49  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default






ส่วนที่ประดับที่ยอดหน้าบันชาวลาวเรียกว่า "โหง่" มีรูปร่างเป็นเศียรนาค และมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับศาสนาพุทธ






ประตูพระอุโบสถแกะสลักสวยงามเช่นเดียวกับหน้าต่างภายในพระอุโบสถมีภาพสวยงามที่ผนัง มีลักษณะลวดลายปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ ส่วนใหญ่เป็นภาพพุทธประวัติเรื่องพระสุธน – มโนราห์ และเรื่องพระเจ้าสิบชาติ ส่วนผนังด้านหลังของพระอุโบสถ เป็นภาพที่เกิดจากการใช้กระจกสีตัด ติดต่อกันเป็นรูปต้นทองขนาดใหญ่ ซึ่งเคยมีในเมืองหลวงพระบางลักษณะคล้ายต้นโพธิ์ ด้านข้างต้นทองเป็นรูปสัตว์ในวรรณคดี ยามใดที่แสงแดดสาดส่อง จะส่งแสงดสะท้อนดูงดงาม





__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2014 เมื่อ 16:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #50  
เก่า 21-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,158
Default







วิหารน้อย ด้านข้างและด้านหลังของพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งของวิหารสองหลัง จุดเด่นของวิหารนี้คือผนังด้านนอกมีการตกแต่งด้วยกระจกสี ตัดเป็นชิ้นเล็กๆและนำมาต่อเป็นรูปต่างๆเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน บนพื้นสีชมพู อะร้าอร่ามยามเมื่อต้องแสงแดด...









หน้าต่างบานเล็กๆ ที่เปิดออกมาชมพระอุโบสถได้








__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-05-2012 เมื่อ 19:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:16


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger