เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 27-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 27-29 กันยายน 2563 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่แนวร่องมรสุมปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 กันยายน ? 2 ตุลาคม 2563 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่แนวร่องมรสุมปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 27 ก.ย. ? 2 ต.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 27-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ออสเตรเลียช่วยวาฬนำร่องเกยตื้นได้ 108 ตัว สลดตายเกือบ 350 ตัว

สรุปเหตุวาฬนำร่องเกยตื้นที่ออสเตรเลีย มีวาฬรอดชีวิตทั้งสิ้น 108 ตัว ส่งกลับลงทะเลทั้งหมดแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังหาทางจัดการกับซากวาฬที่ตายไปถึง 350 ตัว



สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาะแทสมาเนีย ของออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันเสาร์ที่ 26 ก.ย. 2563 ว่า เหตุวาฬนำร่องครีบยาวเกยตื้นครั้งใหญ่ที่ชายหาดบริเวณอ่าว 'แมคควอรี ฮาร์เบอร์' ทางตะวันตกของเกาะเมื่อสัปดาห์ก่อน มีวาฬรอดชีวิต 108 ตัว ซึ่งทั้งหมดถูกส่งกลับลงทะเลไปแล้ว และเชื่อว่าไม่มีวาฬตัวอื่นรอดอีก

เหตุเกยตื้นดังกล่าวทำให้มีวาฬนำร่องตายไปประมาณ 350 ตัว นับเป็นเหตุวาฬเกยตื้นครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น โดยในตอนนี้เจ้าหน้าที่หันไปให้ความสำคัญกับการจัดการซากวาฬ โดยมีการฝังในทะเล 15 ตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อทดลองว่าวิธีการนี้จะใช้ได้ผลดีหรือไม่

ด้าน ดร.คริส คาร์ลียง นักชีววิทยาสัตว์ป่าจากโครงการอนุรักษ์สัตว์น้ำ (MCP) กล่าวว่า นี่เป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากความพยายามอย่างยากลำบากของทีมช่วยเหลือตลอด 5 วันที่ผ่านมา "เรามีวาฬกลับมาเกยตื้นใหม่เพียงตัวเดียวในคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีมาก เนื่องจากเมื่อวาน (วันศุกร์) มีวาฬถูกส่งกลับทะเลถึง 20 ตัว"

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จำต้องทำการุณยฆาตวาฬนำร่องไป 4 ตัว เนื่องจากพวกมันมีอาการเหนื่อยล้ามากเกินกว่าจะช่วยชีวิตเอาไว้ได้

ทั้งนี้ วาฬนำร่องกว่า 270 ตัวเกยตื้นที่หาดบริเวณอ่าว แมคควอรี ฮาร์เบอร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 ก.ย. ก่อนจะมาเกยเพิ่มอีก 200 ตัวในวันต่อมา โดยที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ แต่วาฬนำร่องมักตกเป็นข่าวมาเกยตื้นตามชายหาดอยู่บ่อยครั้ง

นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ บ้างก็ว่า วาฬเกยตื้นเพราะสับสนเส้นทางระหว่างตามเหยื่อเข้าสู่ชายฝั่ง ขณะที่บางคนเชื่อว่า มีวาฬตัวหนึ่งนำฝูงไปผิดทางจนมาเกยหายทั้งฝูง หรืออาจเป็นเพราะโซนาร์ตามธรรมชาติของวาฬตรวจจับแนวชายฝั่งในพื้นที่น้ำตื้นได้ไม่ดี


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1938568

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 27-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


กลุ่มประเทศแปซิฟิกกระตุ้นชาวโลกรักษาสิ่งแวดล้อม

ในขณะที่วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 กำลังเป็นวาระเร่งด่วนระดับโลก กลุ่มประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกล่าวว่า วิกฤติโลกร้อนเป็นภัยคุกคามที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ว่าประธานาธิบดีเดวิด ปานูเอโล ผู้นำสหพันธรัฐไมโครนีเซีย แถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อวันศุกร์ มีใจความตอนหนึ่งว่า นอกเหนือจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ตอนนี้ชาวโลกกำลังอยู่ใน "สงครามโลก" ที่เป็นการต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ ทั้งไฟป่ารุนแรงในสหรัฐ พายุกำลังก่อตัวในมหาสมุทร และอุทกภัยในเอเชีย


United Nations
?
อย่างไรก็ตาม มนุษย์สามารถ "เป็นผู้ชนะ" เหนือภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ได้ ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นตามแนวทางปฏิบัติซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลงปารีส "ด้วยความเป็นเอกภาพ" ผู้นำไมโครนีเซียกล่าวด้วยว่า กลุ่มประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก "เป็นด่านหน้า" ของการแบกรับความเสี่ยงจากวิกฤติโลกร้อน


United Nations
?
ขณะที่นายกรัฐมนตรีคอซี นาตานู ผู้นำตูวาลู กล่าวว่าแม้ตูวาลูเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศบนโลก ซึ่งยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 แต่ผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับทุกประเทศ ตูวาลูก็เช่นกัน อุตสาหกรรมประมงและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทานโลกมีผลต่อความความปลอดภัยด้านอาหาร
?
ทั้งนี้ ผู้นำตูวาลูกล่าวว่าความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาใดก็ตาม "ไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง" การตอบสนองต่อวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ถือเป็นวาระเร่งด่วน แต่วิกฤติสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นปัญหายืดเยื้อที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน


United Nations
?
ด้านประธานาธิบดีทาเนติ มาเมา ผู้นำคิริบาส หรือคิริบาตี กล่าวว่าจริงอยู่ที่การแก้ไขวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 "เป็นวาระฉุกเฉิน" แต่ความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศเป็นความท้าทายใหญ่หลวงสำหรับทุกภาคส่วนบนโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ความมั่นคง และความปลอดภัยของชาวหมู่เกาะแปซิฟิก


https://www.dailynews.co.th/foreign/797732

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 27-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สุดอึ้ง! พลาสติกในท้องลูกเต่า 104 ชิ้น ที่รัฐฟลอริดา



"เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกเต่าทะเลอ่อนแรงถูกซัดขึ้นฝั่งในเมืองโบคาเรตัน รัฐฟลอริดา ต่อมาไม่นานมันก็ตาย เมื่อชันสูตรก็ต้องตกใจเมื่อพบสารพัดพลาสติก นับเป็นจำนวนถึง 104 ชิ้นอยู่ในช่องท้อง มีตั้งแต่กระดาษห่อลูกโป่งไปจนถึงฉลากขวดพลาสติกชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้แต่สายที่ใช้รัดถุงขยะก็มี" ตามที่ South Florida Sun-Sentinel รายงาน

ศูนย์ธรรมชาติกัมโบลิมโบ (Gumbo Limbo Nature Center) ในโบคาเรตัน ได้แชร์ภาพถ่ายลูกเด่า และพลาสติกทั้งหมดที่พบในท้อง ลงบนเฟซบุ๊ก จนทำให้คนเข้าไปโพสต์และแชร์จำนวนมาก

Emily Mirowski ผู้ช่วยฟื้นฟูเต่าทะเลที่ศูนย์ฯ กล่าวว่าได้ทำการตรวจสอบเต่าก่อนที่มันจะตาย "สภาพของลูกเต่าที่พบอ่อนแอและผอมแห้ง ฉันบอกได้เลยว่ามันทำได้ไม่ดีนัก"

ทางเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูให้ยาขับปัสสาวะแก่เต่าเพื่อพยายามล้างพลาสติกออกจากระบบทางเดินอาหาร แต่มันก็ไม่รอด และสิ่งที่ทำให้คนผ่าพิสูจน์ตกใจ ก็เมื่อยิ่งผ่าช่องท้องเข้าไป ก็ยิ่งพบพลาสติกออกมาจากท้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มันเป็นฤดูแห่งการชะล้างที่ Gumbo Limbo ซึ่งตามแนวชายฝั่งมักจะพบลูกเต่าตัวเล็กๆ และอ่อนแอ พวกมันต้องการความช่วยเหลือจากเรา และการช่วยเหลือก็ไม่ได้ทำให้มันรอด 100%

"ไม่น่าเชื่อเลยว่าพลาสติกจำนวนมากสามารถอยู่ในเต่าตัวเดียวได้ เราทำการผ่าศพเต่าทุกตัวที่ตายเพราะเป็นวิธีการระบุสาเหตุของการตาย พวกเต่าที่เรานำมาปฐมพยาบาลได้รับความทุกข์ทรมานจากการขาดสารอาหาร เนื่องจากการบริโภคพลาสติก กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วที่ ศูนย์ธรรมชาติกัมโบลิมโบ"

"สำหรับลูกเต่าตัวนี้มีขนาดพอดีกับฝ่ามือของคุณ แต่กินพลาสติกไปถึง 104 ชิ้น"

นี่เป็นคำเตือนที่น่าเศร้าเพื่อให้เราทุกคนมีส่วนร่วมเพื่อให้มหาสมุทรของเราปราศจากพลาสติก

มลพิษจากพลาสติกเป็นโลกที่น่าเศร้าของเต่า แต่พวกเราก็อาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกันอยู่ด้วย

หากพวกเขาได้รับการดูแลให้กลับมามีสุขภาพดี พวกเขาก็จะถูกนำกลับคืนทะเล ซึ่งก็เสี่ยงต่อการกินพลาสติกอีกครั้ง


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000098737

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 27-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


ลุยศึกษา 'แลนด์บริดจ์' หนุน 'ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้' รุกแผนระยะยาว 1.02 แสนล้าน

รัฐบาลยืนยัน ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ไม่สะดุด มองผลระยะยาวพัฒนาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ประตูสู่ตลาดเอเชียใต้ ศึกษาแลนด์บริดจ์อันดามัน-อ่าวไทย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.63 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคม จ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุนใน "โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land bridge)" คาดจะรู้ผลกลางปี 2566

ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและคมนาคมอย่างครบถ้วนระหว่าง EEC (ฝั่งอ่าวไทย) และ SEC (ฝั่งอันดามัน) เพิ่มศักยภาพในการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าจากพื้นที่ EEC เพื่อส่งออกและนำเข้าไปยังประเทศแถบมหาสมุทรอินเดียโดยตรง และเชื่อมต่อไปยังกลุ่ม BIMSTEC ประเทศตะวันออกกลาง และยุโรปได้อย่างต่อเนื่อง

โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ขับเคลื่อนแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor: SEC) ครอบคลุม 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่และทางออกทางทะเลของภาคใต้ตอนบน ควบคู่ไปกับการเดินหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้กรอบการพัฒนา SEC ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่
1) การพัฒนาประตูการค้าฝั่งตะวันตก (Western Gateway)
2) การพัฒนาประตูสู่การท่องเที่ยวอ่าวไทยและอันดามัน (Royal Coast & Andaman Route)
3) การพัฒนาอุตสาหกรรมฐานชีวภาพและการแปรรูปการเกษตรมูลค่าสูง (Bio-Based & Processed Agricultural Products) และ
4) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรม (Green & Culture)

ซึ่งโครงการเริ่มตั้งแต่ระยะ 2562-2565 และยังมีแผนระยะยาวปี 2566 เป็นต้นไป รวม 111 โครงการ วงเงินเฉพาะที่ต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน 102,418 ล้านบาท มีโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง โครงการพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการตลาดของท่าเรือระนองรองรับกลุ่ม BIMSTEC ที่มีประชากรกว่า 1.5 พันล้านคน (บังคลาเทศ อินเดีย เมียนมา ศรีลังกา ภูฏาน และเนปาล)

โครงการพัฒนาถนนเลียบชายทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันสู่พื้นที่ตอนใน โครงการขยายทางหลวงระนอง-พังงาเป็น 4 ช่องจราจร โครงการศึกษาออกแบบ/ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รถไฟสายใหม่ระนอง-ชุมพร โครงการสนับสนุนการแปรรูปสมุนไพรแบบครบวงจร โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็น ASEAN Digital Hub

"แม้เศรษฐกิจประเทศจะอยู่ในภาวะหดตัวเช่นเดียวกับประเทศทั่วโลก เนื่องจากผลกระทบโควิด-19 แต่รัฐบาลยังคงเดินหน้าวางรากฐานเพื่อการพัฒนาประเทศและการลงทุน เพราะในระยาวเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัว การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจแห่งใหม่ และการเชื่อมโยงการคมนาคมและขนส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศถือเป็นการวางพื้นฐานสำคัญ รัฐบาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉยรอความหวังจะถึงวันเศรษฐกิจดีขึ้น" รองโฆษกฯ กล่าว


https://www.bangkokbiznews.com/news/...paign=economic

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:54


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger