เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 12-01-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 12 มกราคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 4-14 องศาเซลเซียส และยอดภูอุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 ม.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นในตอนเช้า บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส และบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 17 ม.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก ประกอบกับในช่วงวันที่ 13 - 16 ม.ค. 64 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วง 12 ? 17 ม.ค. 65 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นส่วนมากทางตอนล่างของภาค และคลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 13 ? 16 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 15 - 17 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 12-01-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


แกะรอย "เรือผี" ลึกลับ เจอ ขยะ-เศษอาหาร เบาะแสล่าเจ้าของเรือ .

รายการ "ถอนหมุดข่าว" ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 11 ม.ค.65 นำเสนอรายงานพิเศษ แกะรอย "เรือผี" ลึกลับ เจอ ขยะ-เศษอาหาร เบาะแสล่าเจ้าของเรือ .



เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา มีการพบ "เรือปริศนา" ชื่อว่าเรือ Fin Shui Yuan 2 ที่ลอยตามกระแสน้ำเข้ามาบริเวณพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาค 2

ห่างจากฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 142 กิโลเมตร โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แท่นผลิตไพลินเหนือ ของบริษัท เชฟรอน ขณะที่เรือดังกล่าวกําลังลอยตามกระแสน้ำและลมเข้ามาใกล้พื้นที่ปลอดภัยของแทนขุดเจาะตรวจสอบ

จากนั้น ศรชล.ภาค 2 ได้สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 2 จัดกําลังทางเรือและอากาศยานไร้คนขับ เข้าปฏิบัติการตรวจสอบ พบว่าไม่มีลูกเรืออยู่บนเรือ พร้อมตรวจสอบข้อมูลของเรือผ่านระบบ Sea vision และระบบ MISC พบว่าไม่มีข้อมูลเรือลำดังกล่าว

รวมทั้งตรวจสอบสัญญาณ AIS ย้อนหลังไป 90 วัน ไม่พบว่ามีการส่งสัญญาณ อุปกรณ์เดินเรือทั้งหมดบนสะพานไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงไฟแบตเตอรี่ทํางานได้ ทําให้ไฟยอดเสายังติดอยู่

ส่วนห้องเครื่องจักรใหญ่และเครื่องไฟฟ้าถูกน้ำท่วมขังทั้งหมด รวมทั้งยังคงมีน้ำเข้าบริเวณระวางห้องเครื่องจักรใหญ่ต่อเนื่อง และมีกลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิงกระจายทั่วไป โดยคราบน้ำมันดังกล่าวมีลักษณะเจือจางไม่มีแผ่นหนามาก เมื่อเจอคลื่นลมน้ำมันจะแตกตัวและเมื่อเจอความร้อนของแดด น้ำมันก็จะระเหยไปเองตามธรรมชาติ

จากนั้นระหว่างวันที่ 7 - 8 มกราคม ศรชล.ภาค 2 ได้แจ้งให้ทัพเรือภาคที่ 2 จัด เรือหลวงตาปี และ หลีเป๊ะ เข้าเฝ้าพื้นที่และดำเนินการกู้ซ่อมเบื้องต้น เพื่อจะทำการตรวจสอบเพิ่มเติม แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง และมีน้ำเข้าตัวเรือต่อเนื่อง ทำให้เรือจมลง

จึงแจ้งให้ กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 พล็อตตำแหน่งเรือและติดตามสถานการณ์ ออกประกาศชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือ เตรียมการเก็บกู้เรือให้ปลอดภัย พร้อมประสานประเทศเจ้าของเรือ

และดำเนินการ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย หากเกินกำหนดระยะเวลา 15 วัน ยังไม่มีเจ้าของเรือมาแสดงตัวและกู้เรือ กรมเจ้าท่าจะพิจารณากู้เรือ และแจ้งให้ ศรชล.(อ่านว่า ศร ชล)ภาค 2 ร่วมกับ สำนักสืบสวนและสอบสวนกลาง ศรชล. ร่วมกับ ตำรวจน้ำ จัดตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนที่มาที่ไปของเรือ

จากการสำรวจเบื้องต้น โดยมนุษย์กบของศูนย์สงครามพิเศษทางเรือ ที่ดำน้ำลงไป 30 เมตร ในจุดที่เรือจม โดยได้ทำการผูกทุ่นลอยผิวน้ำ พบระยะห่างจากผิวน้ำกับเรือ 18 เมตร ห่างจากชายฝั่ง อ.สิชล ประมาณ 50 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามทาง ศรชล. เชื่อว่าอาจไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เพราะต้องชดเชยเงินในการกู้เรือเป็นหลักล้านบาท

ทั้งนี้ กองทัพเรือจะประสานประเทศสิงคโปร์และสหรัฐฯ ตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อตรวจสอบว่า เรือมาจากไหนและตรวจสอบย้อนหลังว่ามีเรือลำนี้ในระบบหรือไม่ ทำผิดกฎหมายเรื่องใดหรือไม่ ซึ่งพบว่าเป็นเรือขนส่งสินค้า ไม่ใช่เรือน้ำมัน ไม่ใช่เรือประมง

แต่ "ข้อมูลสำคัญ" อยู่ที่ "อาหารและเศษขยะ" ที่พบบนเรือ เพราะแสดงว่ามี "ความเคลื่อนไหว" เกิดขึ้นบนเรือลำดังกล่าวก่อนหน้านี้

นอกจากนี้มีรายงานว่า มีการคาดการณ์เบื้องต้นว่าเรือลำดังกล่าวอาจมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่เชื่อมต่อกับอ่าวไทย ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่อ่าวไทยมักมีเรือประมงของประเทศเพื่อนบ้านที่รุกล้ำน่านน้ำไทยเข้ามาเป็นประจำ อีกทั้งเคยเกิดเหตุการณ์เรือรุกล้ำน่านน้ำไทย พุ่งชนเรือทหารมาแล้วด้วย

ดังนั้นในกรณีนี้แม้จะเป็น "เรือปริศนา" หรือที่เรียกกันว่า "เรือผี" แต่กลับเป็นงานใหญ่ของ ศรชล. ที่ดูแลน่านน้ำไทย ต้องพิสูจน์ที่มาเรือให้ได้ เพื่อขยายผลเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆต่อไป


https://mgronline.com/crime/detail/9650000003264

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 12-01-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ลุยตรวจ น้ำทะเลเปลี่ยนสี สงสัยคราบน้ำมันเรือผี สุดท้ายไม่ใช่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ



วันที่ 11 ม.ค.65 นายอรุณ บุปผโก ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะสมุย รับแจ้งจาก นาวาเอก(พิเศษ) วศากร สุนทรนันท์ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังมีกระแสข่าวพบคราบน้ำมันลักษณะสีเขียวลอยอยู่กลางทะเล บริเวณเกาะมัดสุม เกาะแตน ซึ่งเป็นเกาะบริวารของเกาะสมุย โดยระบุว่าเป็นคราบน้ำมันจากเรือไร้สัญชาติที่ทหารเรือ เข้าตรวจสอบต่อมาเรือได้จมลงใต้ทะเลในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

จากนั้นจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเรือสปีดโบ๊ทเจ้าท่าออกตรวจสอบน้ำทะเลบริเวณเกาะมัดสุม และเกาะแตน และจากการสอบถามเรือประมง เรือโป๊ะลากจูงสินค้า บริเวณดังกล่าว ไม่มีใครพบคราบน้ำมันตามที่ได้รับแจ้งมาแต่อย่างใด ส่วนคราบสีเขียวที่มีผู้พบและถ่ายรูปแชร์ในโซเชียลนั้นเป็นการเกิดแพลงก์ตอนบลูม หรือการตายของแพลงก์ตอนพืช

ทั้งนี้ข้อมูลองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ หรือ Red Tide เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทะเลทั่วทุกมุมโลก สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของสาหร่ายเซลล์เดียวจำพวก "แพลงก์ตอนพืช" ในทะเลแถบนั้น หรือที่เรียกอีกชื่อว่า "แพลงก์ตอนบลูม" จำนวนประชากรของแพลงก์ตอนที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากนี้ ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี โดยปกติแล้วจะเป็นสีแดงหรือสีเขียว และบางทีอาจจะเป็นสีม่วงหรือสีชมพูก็ได้

การเกิดแพลงก์ตอนบลูมก็มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ มีฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงทำให้มีปริมาณธาตุอาหารและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแพลงก์ตอน หรือ การเกิดน้ำผุด (up welling) เป็นขบวนการที่น้ำเบื้องล่างถูกพัดพาขึ้นมาเบื้องบน


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6828811


*********************************************************************************************************************************************************


อังกฤษพบซากปลาดึกดำบรรพ์ เผยสภาพสมบูรณ์-อายุกว่า180ล้านปี



อังกฤษพบซากปลาดึกดำบรรพ์ ? วันที่ 11 ม.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานการค้นพบครั้งสำคัญของวงการบรรพชีวินวิทยาที่ประเทศอังกฤษ ว่าคณะนักขุดค้นพบซากปลาดึกดำบรรพ์ขนาดลำตัวยาวถึง 10 เมตร มีอายุกว่า 180 ล้านปี คาดว่าเป็นปลายักษ์อิกทิโอซอรัส (Ichthyosaurus)

การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณอ่างเก็บน้ำเขตรัดแลนด์ ภาคปกครองอีสต์มิดแลนด์ นับเป็นฟอสซิลปลาอิกทิโอซอรัสที่มีสภาพสมบูรณ์และขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมาในประเทศอังกฤษ และคาดว่าเป็นฟอสซิลปลาไตรโกโนดอน (Temnodontosaurus trigonodon) ตัวแรกที่พบในอังกฤษด้วย



รายงานระบุว่า ปลาอิกทิโอซอรัสนั้นจัดเป็นสัตว์พวกกึ่งปลากึ่งสัตว์เลื้อยคลาน และมีรูปร่างหน้าใกล้เคียงกับโลมา มีชีวิตอยู่ในช่วง 250 ล้านปีก่อน และสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 90 ล้านปีก่อน

ส่วนผลงานการค้นพบนั้นเป็นของคณะขุดค้นจากมูลนิธิสัตว์ป่าเลสเตอร์เชียร์ แอนด์ ไวลด์ไลฟ์ ทรัสต์ นำโดยนายโจ เดวิส ซึ่งทำงานร่วมกับบริษัทแองเกลียนวอเตอร์ในโครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำ ซึ่งต้องสูบน้ำออกจากอ่างเก็บ นำไปสู่การค้นพบส่วนฟอสซิลดังกล่าวที่ก้นอ่างเก็บน้ำ

ต่อมาทางมูลนิธิจึงระดมนักขุดค้นและผู้เชี่ยวชาญและนักขุดค้นจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์เข้าสำรวจและขุดค้นระหว่างเดือนส.ค. ถึงก.ย. 2564



นายดีน โลแม็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญปลาอิกทิโอซอรัส ที่เดินทางมามหาวิทยาลัยดังกล่าวในช่วงเวลานั้น ระบุว่า ความพิเศษของฟอสซิลนี้ คือ ขนาดมโหฬารและสภาพสมบูรณ์แบบ เพราะไม่เคยมีการค้นพบที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้มาก่อนในอังกฤษ

"ปลาชนิดนี้เป็นสัตว์นักล่าในชั้นสูงสุดของยุคนั้น ดังนั้นอาหารของมันน่าจะเป็นพวกเดียวกันไปจนถึงปลาใหญ่ชนิดอื่นๆ รวมถึงสัตว์ทะเลทั่วไปอย่าปลาหมึกด้วย" โลแม็กซ์ ระบุ

อย่างไรก็ดี การขุดค้นที่เกิดขึ้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีซากของปลาที่กำลังถูกล่าอยู่ใกล้เคียง ไปจนถึงความเป็นไปได้ที่ปลาอิกทิโอซอรัสที่พบนั้นอาจกำลังตั้งท้อง

นายรีแกน แฮร์ริส โฆษกบ.แองเกลียนวอเตอร์ กล่าวว่า การค้นพบข้างต้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงมาก เป็นสิ่งที่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองตอนที่ค้นพบ แม้พวกฟอสซิลปลาอิกทิโอซอร์จะเคยถูกพบในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยพบว่าครั้งใดสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

ด้านนายพอล บาร์เร็ตต์ นักวิจัยจากแผนกสัตว์มีกระดูกสันหลังและบรรพชีววิทยาเชิงมานุษยวิทยา ของพิพิธภัณท์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ กรุงลอนดอน กล่าวว่า การค้นพบนี้เป็นสิ่งยืนยันถึงการกระจายอยู่ของพวกมันทั่วโลก หลังการค้นพบที่เยอรมนี

"เป็นซากฟอสซิลที่น่าประทับใจมากครับ น่าจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 20-30 ปี ในอังกฤษเลยก็ว่าได้" บาร์เร็ตต์ ระบุ


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_6827794

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 12-01-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


"เจ้าท่า" กางแผน 10 ปีเสริมทรายชายหาดใต้-ตะวันออกหนุนเศรษฐกิจ

กรมเจ้าท่าสนองนโยบายเจ้ากระทรวงคมนาคม "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ-อธิรัฐ รัตนเศรษฐ์" พัฒนาชายฝั่งทะเลด้านการเสริมทราย แก้ปัญหาการกัดเซาะ ฟื้นฟูพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว



นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ได้มอบหมาย นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ เป็นประธานในพิธีส่งมอบพื้นที่เสริมทรายชายหาดจอมเทียน ที่แล้วเสร็จ 800 เมตร ของโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี 3,575 เมตร ให้เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อย่างเป็นทางการเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ บริเวณหน้าชายหาดจอมเทียน ซอยนาจอมเทียน 2

ทั้งนี้ ชายหาดจอมเทียนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันเกิดสภาพปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาวางแผนแม่บทและสำรวจออกแบบการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในระยะยาว และรับฟังความคิดเห็นประชาชน ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง

สำหรับโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เฟส 1 ระยะทาง 3,575 เมตร กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ดำเนินโครงการงานเสริมทรายตั้งแต่บริเวณนาจอมเทียน 4 จนถึงจอมเทียน 11 โดยใช้แหล่งทรายจากเกาะรางเกวียน ซึ่งเป็นทรายที่ใช้เสริมทรายชายหาดพัทยา ห่างจากชายหาดจอมเทียนไปทางทะเล 15 กิโลเมตร ทำให้จากเดิมที่มีชายหาดกว้าง 5 เมตร เปลี่ยนเป็นชายหาดกว้างขึ้นเฉลี่ย 51 เมตร มีความยาว 800 เมตร

การปรับปรุงเสริมทรายในครั้งนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่สันทนาการและจัดกิจกรรมชายหาดต่าง ๆ ได้ดีกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดรายได้ต่อประชาชนและภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผลศึกษาโครงการพบว่า การลงทุน 1 บาทจะได้ผลตอบแทนกลับมา 3.23 บาท คาดการณ์เวลา 25 ปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 28,042 คน ยกระดับภาพลักษณ์ท่องเที่ยวทั้งระบบของชายหาดพัทยา-จอมเทียน จากเดิมที่เป็นชายหาดท่องเที่ยวแบบแยกส่วน มาเป็นระบบชายหาดท่องเที่ยวของประเทศ

กรมเจ้าท่ามีโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียนในส่วนที่เหลือความยาว 2.5 กิโลเมตร และในอนาคตมีแผนงานเสริมทรายชายหาดท่องเที่ยวในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่น ชายหาดบางแสน ชายหาดสมิหลา ชายหาดชะอำ ชายหาดเขาหลัก ชายหาดบางเสร่ ชายหาดอ่าวดงตาล ชายหาดแสงจันทร์ ชายหาดปราณบุรี และชายหาดทรายรี เป็นต้น ระยะทางรวม 42 กิโลเมตร

ซึ่งการเสริมทรายชายหาดนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูชายหาดอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับประเทศอีกด้วย


https://www.prachachat.net/property/news-837430

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:47


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger