เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 09-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 8 ? 9 ก.พ. 65 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า

ส่วนในช่วงวันที่ 10 ? 14 ก.พ. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังปานกลาง ตลอดช่วง (8 ? 14 ก.พ. 65) ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในระยะนี้ไว้ด้วยตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 10 ? 14 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 09-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


น่าสงสาร กระเบนแมนตาติดเชือกอวนกลางทะเล ยังไม่มีใครช่วย



นักดำน้ำบันทึกภาพ "กระเบนแมนตา" ติดเชือกอวนกลางทะเลอันดามัน บริเวณเกาะบอน ระหว่างเกาะตาชัย และหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ว่ายเข้ามาใกล้เหมือนอยากให้ช่วย แต่ไม่สามารถช่วยได้เพราะไม่ได้นำมีดติดตัวไปด้วย และเวลาจวนเจียนต้องรีบกลับ ได้แต่ถ่ายภาพมาโพสต์

ที่ จ.พังงา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65 มีภาพกระเบนราหู แมนตา ที่นักดำน้ำสามารถบันทึกได้ โดยนายสุนทร เชิดนาม นักดำน้ำทีมเที่ยวละมัย บันทึกและโพสต์ในเพจ Suntorn cherdnam เป็นกระเบนราหู ขนาดประมาณ 4 เมตร ประมาณจากปลายปีกไปปลายปีกอีกข้าง ที่น่าสนใจพบว่ามีเชือกที่ใช้ในการประมงเส้นใหญ่ยาวประมาณ 10 เมตร ติดอยู่กับงวงข้างซ้ายของกระเบนราหูตัวนี้ เชือกลอยใต้ตัวกระเบนม้วนขึ้นหลังแล้วม้วนลงที่ใต้ท้องมาอีกรอบ ลักษณะมัดอยู่กับตัว ทำให้หางกระเบนถูกเชือกถูจนขาดออก ส่วนหลังเป็นรอยแผลถลอก

นายสุนทร เชิดนาม นักดำน้ำทีมเที่ยวละมัย เปิดเผยว่า ขณะที่ตนและเพื่อนลงดำน้ำที่บริเวณ เกาะบอน อยู่ระหว่างเกาะตาชัย และหมู่เกาะสิมิลันโดยเรือวีนัส ได้ดำน้ำลึกประมาณ 10 เมตร

พบกระเบนแมนตา ว่ายเข้ามาใกล้ เห็นแล้วสงสาร แต่ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากไม่ได้นำมีดติดตัวเพื่อตัดเชือก อีกทั้งเวลาที่ต้องเดินทางกลับแบบจวนเจียน จึงได้แต่บันทึกภาพเก็บไว้และนำมาโพสต์ด้วยความสงสาร.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/2310211

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 09-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


"เจ้าท่า" คลอดประกาศบังคับขนาดเรือเหมาะกับคลื่นลม

"กรมเจ้าท่า" คลอดประกาศข้อบังคับขนาดเรือเหมาะกับสภาพคลื่นลมทะเล เพิ่มความปลอดภัย ช่วยป้องกันอุบัติเหตุและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ



ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเจ้าท่า?(จท.)?แจ้งว่า ปัจจุบันการเดินเรือในบริเวณทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามันของประเทศไทย อาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัย เนื่องจากคลื่นลมแรงที่เกิดขึ้นในทะเล โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมและมีพายุฝนฟ้าคะนองที่อาจก่อให้เกิดคลื่นที่มีความสูงมากจนเกิดอันตรายแก่การเดินเรือ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ กรมเจ้าท่าจึงออกประกาศที่ 243/2564 เรื่องการออกเดินเรือในทะเลตามความเหมาะสมของความยาวเรือและสภาพคลื่นลม เพื่อกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการเดินเรือและเป็นแนวทางปฏิบัติในการออกเดินเรือในทะเลตามความเหมาะสมของความยาวเรือและสภาพคลื่นลมไว้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ ป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำและป้องกันสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ดังนี้

1.เจ้าของหรือผู้ครอบครองเรือ หรือผู้ประกอบกิจการเดินเรือ นายเรือและผู้ควบคุมเรือ ต้องระมัดระวังควบคุมเรือที่จะออกเดินเรือในทะเลอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย และมีขนาดตัวเรือสัมพันธ์กับความเร็วลมและขนาดความสูงของคลื่นในทะเลจากท้องคลื่นถึงยอดคลื่น กรณีคลื่นในทะเลมีความสูงประมาณ 1 เมตร ความเร็วลมเฉลี่ย 13 นอต เรือที่มีความยาวต่ำกว่า 3 เมตรไม่ควรออกเรือ กรณีคลื่นในทะเลมีความสูงประมาณ 2 เมตร ความเร็วลมเฉลี่ย 18 นอต เรือที่มีความยาวต่ำกว่า 6 เมตร ไม่ควรออกเรือ กรณีคลื่นในทะเลมีความสูงประมาณ 3 เมตร ความเร็วลมเฉลี่ย 24 นอต เรือที่มีความยาวต่ำกว่า 9 เมตร ไม่ควรออกเรือ และกรณีคลื่นในทะเลมีความสูงประมาณ 4 เมตร ความเร็วลมเฉลี่ย 30 นอต เรือที่มีความยาวต่ำกว่า 12 เมตร ไม่ควรออกเรือ

2.เรือเล็กกว่าขนาดที่แนะนำในข้อ 1 ควรงดออกจากฝั่งหรืองดออกเดินเรือในทะเลบริเวณทะเลอ่าวไทยหรือทะเลอันดามัน เมื่อมีประกาศของกรมเจ้าท่าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศ เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อการเดินเรือ



3.เจ้าของ ผู้ครอบครองเรือ หรือผู้ประกอบกิจการเดินเรือ นายเรือและผู้ควบคุมเรือ ต้องระมัดระวังการเดินเรือและติดตามข่าวสารพยากรณ์สภาพอากาศ และคลื่นลมจากกรมอุตุนิยมวิทยาและประกาศของกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ

4.นายเรือและผู้ควบคุมเรือที่นำเรือขนาดเล็กกว่าที่ประกาศนี้ออกจากฝั่ง หรือออกเดินเรือในทะเลโดยฝ่าฝืนประกาศนี้ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การเดินเรือ เป็นอันตรายแก่ชีวิตและร่างกายของผู้อื่น เกิดความเสียหายแก่เรือและทรัพย์สินของบุคคลอื่นเกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า จะพิจารณาสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตมีกำหนดไม่เกิน 2 ปี ตามมาตรา 291 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยพระพุทธศักราช 2456 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางทางน้ำและทรัพย์สิน นายเรือตามวิชาชีพจะต้องทราบความคงทนทะเล (Seaworthiness)?หรือสมรรถนะและความสามารถที่จะเดินเรือได้อย่างปลอดภัยในและสภาพภูมิอากาศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ผู้โดยสาร หรือบุคคลที่อยู่ในเรือ หากประชาชนพบเห็นความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถติดต่อได้ที่ 1199 สายด่วนกรมเจ้าท่า ตลอด 24 ชม.


https://www.dailynews.co.th/news/745376/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 09-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


พบปลากระเบนราหูยาวกว่า 2 เมตรลอยขึ้นอืดตายในคลองบางสองร้อย

พบซากปลากระเบนราหูยาวกว่า 2 เมตรลอยขึ้นอืดตายในคลองบางสองร้อย คาดหลงมาจากแม่น้ำแม่กลอง



เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 ก.พ.65 นายจำนงค์ จันทวงศ์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองราชบุรี ว่าที่ร้อยตรีมารุต นุตตะโร ประมงอำเภอเมือง นางอ้อย บ้านโก๋ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหลุมดิน เข้าตรวจสอบปลากระเบนตัวใหญ่ ลอยขึ้นอืด ตายอยู่เหนือผิวน้ำ คลองบางสองร้อย ม.4 ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่เกิดเหตุเป็นช่วงคุ้งน้ำในลำคลองที่ห่างจากประตูน้ำไหลกว่า 2 กิโล เชื่อมต่อลงสู่แม่น้ำแม่กลอง

นางอ้อย บ้านโก๋ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหลุมดิน เผยว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบปลาขนาดใหญ่ลอยตายอยู่บนผิวน้ำ จึงได้แจ้งไปยัง กำนันและผู้ใหญ่บ้านทราบ ก่อนประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุ

ว่าที่ร้อยตรีมารุต นุตตะโร ประมงอำเภอเมือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบซากกระเบนเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนขนาดและน้ำหนักขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 50 กก.ขึ้นไป แต่ไม่น่าจะเกินกว่า 100 กิโลกรัม ลำตัวแผ่กว้างสุดปลายปีกประมาณ 1.5 เมตร และยาวจากหัวจรดปลายหางประมาณเกือบ 2 เมตร ไม่ทราบเพศเนื่องจากซากอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยแล้ว โดยเชื่อว่าน่าจะตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 วัน

ส่วนสาเหตุการตายนั้น เชื่อว่ากระเบนราหูหรือกระเบนเจ้าพระยาตัวนี้ น่าจะหลงน้ำเข้ามาจากแม่น้ำแม่กลองในช่วงน้ำขึ้นที่ผ่านมา ก่อนเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นลำคลองที่คับแคบและหาทางกลับออกไปสู่ในแม่น้ำไม่ได้หรือหลงน้ำ ประกอบกับในลำคลองสายนี้ยังมีสภาพที่ตื้นเขิน สอบถามจากชาวบ้านทราบว่าในขณะที่น้ำลงต่ำสุด มีความลึกเพียงประมาณ 2 เมตรเศษ ทั้งในลำคลองยังกว้างเพียง 8 -10 เมตร

ขณะที่ตามชายคลองยังมีต้นไม้และวัชพืชขึ้นรกปกคลุมไปตลอดตามแนวตลิ่ง จึงยิ่งทำให้ลำคลองคับแคบลงไปอีก กระเบนราหูที่หลงเข้ามาจึงปรับสภาพไม่ทัน เนื่องจากตามปกติแล้วกระเบนราหู เป็นกระเบนน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกระเบนน้ำเค็ม (แมนตา) ที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก อย่างน้อย 8-10 เมตร และหากินอยู่ในระดับผิวดินใต้น้ำโดยที่จะไม่โผล่ขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ

ประกอบกับช่วงระยะ 3-4 วันที่ผ่านมา สภาพอากาศในพื้นที่ค่อนข้างร้อนและอบอ้าว มีแสงแดดแรง เมื่อกระเบนเข้ามาอยู่ในบริเวณน้ำตื้นจึงทำให้ทนต่อสภาพอุณหภูมิของน้ำที่สูงไม่ไหว จึงตายลงในที่สุด โดยปกติกระเบนน้ำจืดขนาดใหญ่ลักษณะนี้ มักจะพบได้ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลึก เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง และแม่กลอง จึงทำให้มีชื่อเรียกทางสายพันธุ์ทั่วไปว่า กระเบนเจ้าพระยา และยังเป็นสัตว์น้ำคุ้มครองอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ทำการเก็บซากเพื่อนำไปฝังกลบต่อไป


https://www.naewna.com/local/634229

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:16


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger