เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 22-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,234
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคอื่นๆมีอากาศเย็น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23 ? 27 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง โดยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 21 ? 22 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ในขณะที่ในช่วงวันที่ 23 ? 27 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง โดยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนในช่วงวันที่ 23 -27 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย และชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 22-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,234
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


อ้วกวาฬ อำพันทะเล แพงจริง ใช้ทำหัวน้ำหอมพรีเมียม แต่หาคนรับซื้อไม่ง่าย!



อำพันทะเล ถือเป็นของล้ำค่าที่อยู่ในทะเล ซึ่งล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ.) มีรายงานว่า นางอัญมณี สะรียายอ สาวผู้โชคดี เจออำพันทะเลหนักกว่า 30 กิโลกรัม ระหว่างไปเที่ยวพักผ่อนที่หาดตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้ประกาศขายอำพันทะเลดังกล่าว หลังจากนำไปตรวจที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ว่าเป็นอำพันทะเลของจริง

อำพันทะเล ข้อมูลจากเว็บไซต์ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ระบุไว้ว่า อำพันทะเล (Ambergris) คือ ขี้วาฬ หรือ อ้วกวาฬหัวทุย (ขึ้นอยู่กับวาฬจะขับออกมาทางไหน) เกิดจากอาหารที่วาฬกินเข้าไป คือจำพวกหมึก แต่ร่างกายของวาฬไม่สามารถขับไขมันจากหมึกได้ ทำให้ไขมันของหมึกสะสมอยู่ในลำไส้ จนร่างกายขับถ่ายไขมันส่วนนี้ออกมาพร้อมอุจจาระ หรือสำรอกไขมันออกมา ที่เรียกว่า อ้วก ส่วนที่ออกมาสามารถละลายในน้ำทะเลได้อย่างอุจจาระ อ้วก หรือสารอื่นๆ ก็จะละลายไปกับน้ำทะเล แต่ไขมันจากหมึก ไม่สามารถย่อยสลายได้ จึงลอยตัวอยู่บนผิวทะเล

ปกติแล้วอำพันทะเลจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์สักเท่าไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป เป็นเดือน ปี แสงแดดและน้ำทะเลจะทำปฏิกิริยากลายสภาพเป็นก้อนสีขาว น้ำตาล เทา หรือสีดำ ตามระยะเวลาของการทำปฏิกิริยา เมื่อเวลานานไป กลิ่นของขี้วาฬกลายเป็นกลิ่นหอม คล้ายกลิ่นน้ำมันหอมระเหย โดยเมื่อหลายร้อยปีก่อน นักทำน้ำหอมได้มีการจัดลำดับคุณภาพของขี้วาฬ ตามสีสันของมัน โดยสีออกดำนั้นจะมีมูลค่าน้อยสุด

ถึงแม้มูลค่าของ "อำพันทะเล" จะมีราคาสูง เหมาะสมในการทำน้ำหอมเกรดพรีเมียม แต่...เป็นที่ต้องการแค่ไหน คนที่เคยเจอในอดีต ขายได้หรือยัง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงสอบถามไปยังผู้ที่เคยค้นพบ "อ้วกวาฬ" หรือ "อำพันทะเล" เมื่อปีที่แล้ว คือ นายณรงค์ เพชรราช หรือแมว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/6 หมู่ 3 ต.ตะกรบ อ.ไชยา อาชีพทำประมงพื้นบ้าน ที่เคยเจอ "อำพันทะเล" น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม โดยนายณรงค์ ตอบว่า "ป่านนี้ยังขายไม่ได้เลย มีแต่คนมาดูแล้วก็ไป ทั้งที่มีการพิสูจน์จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วก็ตาม ซึ่งก็ยืนยันว่ามันคือก้อนที่มาจากไขมันสัตว์ในทะเล"

ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีกิจการพิเศษ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมงบางเขน กล่าวว่า "ขี้วาฬ" นั้นเป็นของเฉพาะ และคนที่ต้องการของเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในเมืองไทย เพราะเขาจะนำไปใช้เป็นสูตรผสมทำ "หัวน้ำหอม" ระดับพรีเมียม ส่วนมากทำในยุโรป ฉะนั้นการที่เขาจะเดินทางมาซื้อถึงประเทศไทยนั้นอาจจะไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะอย่างประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เขาก็มี หรือแม้ในประเทศยุโรปก็มี

"อำพันทะเล" ถามว่ามีมูลค่าสูงไหม... ดร.ธรณ์ บอกว่า สูงมาก แต่...ถ้ามันขายได้นะ ซึ่งถามว่ามีความต้องการมากแค่ไหน คำตอบคือ "มีจำกัด" เพราะเป็นของที่นักธุรกิจบางกลุ่มต้องการ อีกทั้งไม่ได้อยู่ในเมืองไทย และก็เฉพาะเจาะจงต้องมาตามหาซื้อที่เมืองไทย..

ที่ผ่านมาก็มีการพบเจอ "อำพันทะเล" ค่อนข้างบ่อย แต่คำถามคือ เจอแล้วไปพิสูจน์ และหากพิสูจน์เสร็จแล้วยังไงต่อ...ก็ทำได้แค่เก็บไว้ และวันหนึ่งหากเขาต้องการเมื่อไหร่ เขาก็อาจจะมาหาซื้อ แต่ของแบบนี้ไม่เหมือนทองคำที่สามารถเดินไปขายได้เลย

ถามว่า ที่มีการเจอในเมืองไทย ใช่...ขี้วาฬไหม ดร.ธรณ์ ตอบว่า มันอาจจะใช่ เพราะ ขี้วาฬ อ้วกวาฬ เหล่านี้มันก็ลอยมาตามทะเล และในประเทศไทยก็พบวาฬหัวทุยอยู่บ้าง หรืออาจจะลอยมาจากที่อื่นก็ได้

ซึ่งคุณภาพของขี้วาฬก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งถามว่ามูลค่าแตกต่างกันแค่ไหน ก็คงขึ้นอยู่กับผู้รับซื้อ ผมเองก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่คนซื้อ อีกทั้งเชื่อว่าบริษัทน้ำหอมก็คงไม่เอาราคามาบอกง่ายๆ น่าจะเป็นเรื่อง "ความลับ" บริษัท

เมื่อถามว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบ ในใบเซอร์ ก็ไม่ได้บอกว่าเป็น "อ้วกวาฬ" หรือ "อำพันทะเล" แค่ระบุว่าเป็นไขมันสัตว์จากทะเล ดร.ธรณ์ อธิบายในประเด็นนี้ว่า ถือเป็นเรื่องปกติ ที่สถาบันที่รับตรวจ เขาจะระบุว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ระบุว่าเป็นไขมันจากสัตว์ทะเล ซึ่ง "ไขมันจากสัตว์ทะเล" จะเข้าใจกันว่า คืออ้วก หรือขี้วาฬ แต่นี่คือความเข้าใจทั่วไป ใช่ว่ามันคือ "อ้วกวาฬ" แล้วจะขายได้

"อำพันทะเล" อาจจะมาจากวาฬชนิดอื่นๆ ได้ แต่ที่นิยมและมีราคาแพงก็ต้องมาจาก ?วาฬหัวทุย? เพราะเขานิยมใช้จากวาฬชนิดนี้มานับร้อยปีแล้ว คิดว่าน่าจะได้สูตรผสมลงตัวกันมาแล้ว.

https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2321645


__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:25


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger