เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 09-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นอีกเล็กน้อย กับมีหมอกบางในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็น สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับอุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และระวังอันตรายสัญจรผ่านบริเวณทีมีหมอกไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่งทางตอนล่างของภาค


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 9 ? 13 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่อีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2?4 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ตลอดช่วง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ตลอดช่วง และควรระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ในช่างวันที่ 13-14 ธ.ค. 64 นี้ไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 09-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ชาวตะโล๊ะกาโปร์นำไม้กลมมาปักริมแนวชายฝั่ง หวังช่วยลดความรุนแรงของคลื่นช่วงมรสุม

ปัตตานี - ชาวตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ใช้ภูมิปัญญาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หวังลดความรุนแรงการกัดเซาะชายฝั่งของคลื่นในช่วงมรสุม ด้วยการนำไม้กลมมาปักเป็นลักษณะฟันปลา 2 ชั้นบริเวณแนวชายฝั่ง



วันนี้ (8 ธ.ค.) จากสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งในหลายอำเภอของ จ.ปัตตานี ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ตะโล๊ะกาโปร์ เพราะเป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านปาตา ต.ตะโล๊ะกาโปร์ ทำให้บ้านเรือนของราษฎรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่กลับไม่มีแนวทางของการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน ที่พอจะเป็นหลักประกันให้ความปลอดภัยกับประชาชนที่มีบ้านเรือนในบริเวณดังกล่าว ถึงแม้จะมีการเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจ แต่กลับเงียบหาย นอกจากมีการวางกระสอบทรายตามแนวกัดเซาะ ปล่องปูนซีเมนต์เพื่อป้องกันความรุนแรงของการกัดเซาะ แต่ก็ไม่เป็นผล

โดยเฉพาะปีนี้ความรุนแรงของการกัดเซาะมีมากขึ้น กินพื้นที่เป็นวงกว้าง มีการกัดเซาะบริเวณชายหาดตะโล๊ะกาโปร์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง มีการกัดเซาะต้นสนตามแนวชายหาดเสียหาย นอกจากนั้น ยังมีการกัดเซาะถนนทางหลวงชนบทบริเวณบ้านตะโล๊ะสะมิแล ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าพื้นที่ ต.แหลมโพธิ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ปัตตานี ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่บ้านปาตา ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้ร่วมกันใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน นำไม้กลมมาปักเป็นลักษณะฟันปลา 2 ชั้นบริเวณแนวชายฝั่ง เพื่อลดความรุนแรงของคลื่นที่ซัดเข้ามาซัดชายฝัง เพื่อลดความเสียหายของบ้านเรือนในบริเวณดังกล่าว เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า ทั้งนี้ ชาวบ้านได้พยายามศึกษาค้นหาข้อมูลในกูเกิล พบว่ามีหลายพื้นที่ใช้ไม้กลมปักลักษณะฟันปลาตามแนวชายฝั่งจะสามารถลดความรุนแรงของคลื่นได้ และยังสามารถทำให้คืนเม็ดทรายกลับคืนมา ชาวบ้านจึงได้ลองนำไม้มาปักดู โดยช่วยกันลงมือลงแรงกันเองโดยไม่ต้องว่าจ้าง


https://mgronline.com/south/detail/9640000121633


*********************************************************************************************************************************************************


"เกาะปอดะ" จ.กระบี่ ก็เพราะเธอสวย หนึ่งในไฮไลต์ท่องเที่ยวทางทะเลกระบี่ ใครก็อยากเป็นเจ้าของ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทำไมหลายคนจึงอยากเป็นเจ้าของ "เกาะปอดะ" จ.กระบี่ ก็เพราะเธอสวย หนึ่งในไฮไลต์ของการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลกระบี่ สัมผัสเม็ดทรายขาว เนียนนุ่มเท้า หลายคนจึงอยากเป็นเจ้าของ



"เกาะปอดะ" เกาะสวยแห่งทะเลกระบี่ ตั้งอยู่ในท้องที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นเกาะที่ยังคงความงดงาม เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลด้านหน้าหาดอ่าวนาง อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร หากยืนอยู่ริมหาดที่อ่าวนาง หรือหาดพนรัตน์ธารา แล้วมองออกไปในทะเลจะเห็นหมู่เกาะเล็กใหญ่กระจุกตัวอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน เกาะใหญ่ที่สุดในนั้นคือ "เกาะปอดะ" ส่วนเกาะใกล้ๆ กันได้แก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่ ซึ่งเป็น 4 เกาะไฮไลต์สำหรับการท่องทะเลกระบี่

เกาะปอดะ มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ เป็นพื้นราบประมาณ 70 ไร่ มีชายหาดล้อมรอบ 1 ใน 3 ของเกาะ ยกเว้นทางด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นด้านที่รับคลื่นลม เป็นภูเขาหน้าผาหินสูงชัน ด้านหน้าเกาะมีหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลใสถึงแม้จะอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง นักท่องเที่ยวนิยมแวะขึ้นเกาะเพื่อไปพักผ่อนเดินเล่นชายหาดและเล่นน้ำ ซึ่งในช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากคลื่นลมสงบ น้ำทะเลสวยใส

สำหรับเกาะปอดะ เป็นเกาะที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ถูกจัดไว้ในโปรแกรมเที่ยว 4 เกาะกระบี่ (เกาะปอดะ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่) เหมาะสำหรับการเดินเล่นบนหาด เป็นแนวหาดทรายที่ขาวเนียน เนื้อทรายละเอียด เดินแน่นนุ่มเท้า เมื่อมองออกไปเห็นน้ำทะเลสวยใส โดยเฉพาะที่ด้านหน้าหาด เมื่อมองออกไปจะเห็นแนวหาดทราย ท้องทะเล และภูเขาหินรูปใบเรือตั้งตระหง่าน ถือเป็นภาพจำอันโดดเด่นของเกาะปอดะแห่งนี้

นอกจากนี้ ยังสามารถลงเล่นน้ำ และพักผ่อนเพราะเงียบสงบคนไม่พลุกพล่าน แต่ไม่เหมาะจะมาดำน้ำดูปะการัง เพราะปะการังแถวนี้ไม่ค่อยมี และที่มีก็ไม่ค่อยสวย ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นแถวทะเลแหวก ซึ่งอยู่ใกล้กัน

ด้วยความสวยงามโดดเด่นของเกาะปอดะ เกาะแห่งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของเส้นทางเที่ยวทะเลกระบี่ ทัวร์ 4 เกาะ และสำหรับเกาะปอดะหลังต่อสู้เป็นคดีความยืดเยื้อมายาวนานกว่า 30 ปี ระหว่างเอกชนกับภาครัฐ วันนี้เกาะปอดะได้กลับอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ เป็นพื้นที่สาธารณะภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี

สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะปอดะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที โดยสามารถซื้อแพกเกจทัวร์ 4 เกาะ แบบซันเดย์ทัวร์ ได้ที่สหกรณ์เรือหางยาว ริมหาดอ่าวนาง หรือเคาน์เตอร์ทัวร์ มีทั้งการให้บริการการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ และเช่าเหมาลำเรือหัวโทงผู้โดยสาร 6 คน ราคาโดยเฉลี่ยประมาณ 2,200 บาท นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางได้ด้วยการเช่าเหมาเรือสปีดโบ๊ต ราคาจะสูงขึ้นไปอีก ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-4583-5143 สหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง

อย่างไรก็ตาม เกาะปอดะ เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีกรณีพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างเอกชนและอุทยานฯ ซึ่งมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันมาอย่างยาวนาน โดยก่อนที่เกาะปอดะ จะกลับไปอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ เมื่อปี 2528 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แจ้งความดำเนินคดีข้อกล่าวหา นายชวน ภูเก้าล้วน เจ้าของเกาะข้อหาบุกรุกครอบครองพื้นที่อุทยานฯ โดยทางนายชวน แจ้งว่า มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 4 ฉบับ เนื้อที่กว่า 50 ไร่



เมื่อ 30 ธันวาคม ปี 2554 ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ทั้ง 4 ฉบับ และออกหมายบังคับคดีให้จำเลย พร้อมบริวารออกจากพื้นที่ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2556 ศาลจังหวัดกระบี่ ได้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยพร้อมบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่

เดือนธันวาคม ปี 2556 นายชวน ได้นำเอกสาร ส.ค.1 เลขที่ 2 ยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาล ซึ่งศาลกระบี่ พิจารณาแล้วให้ปฏิบัติตามศาลฎีกา เจ้าหน้าที่จึงเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ จากนั้น นายชวน ภูเก้าล้วน ได้ยื่นเอกสาร ส.ค.1 เลขที่ 1 เนื้อที่กว่า 70 ไร่ เพื่อยืนยันว่าได้มีการทำประโยชน์บนเกาะปอดะมาก่อนปี พ.ศ.2495 เป็นหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินบนเกาะปอดะต่อศาลอีกครั้ง ทางด้านอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ยื่นคัดค้านการออกเอกสารสิทธิครอบครอง และได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเขตอุทยานฯ

ศาลจังหวัดกระบี่ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2560 ให้ฝ่าย นายชวน ภูเก้าล้วน เป็นผู้ชนะคดี และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ แต่เมื่อ 16 ส.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้กรมอุทยานฯ เป็นฝ่ายชนะคดี สั่งจำคุกนายชวน ภูเก้าล้วน เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งทนายได้ยื่นขอประกันตัวออกมารอสู้คดี

ต่อมา วันที่ 10 ก.ย.62 ศาลฎีกา แผนกสิ่งแวดล้อม อ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยมีความความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.อุทยานฯ ลงโทษจำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่ศาลพิเคราะห์เห็นว่า เป็นความผิดไม่ได้รุนแรง จึงแก้คำพิพากษาให้ จำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่โทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี ให้จำเลยบำเพ็ญประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเวลา 30 ชั่วโมง ชำระค่าปรับเป็นเงิน 80,000 บาท พร้อมให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ ปิดคดีมหากาพย์ ครั้งที่ 1 ที่สู้กันมานานกว่า 30 ปี

หลังจากที่คดีประวัติศาสตร์การแย่งชิงเกาะปอดะ เริ่มถูกลืมเลือนได้มีผู้ที่อ้างสิทธิครอบครองเกาะปอดะ โผล่มาอีกราย คือ นายจรัส วะจิดี โดยอ้างสิทธิ และเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจำเลยที่ 1 นายสัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำเลยที่ 2 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จำเลยที่ 3 ต่อศาลจังหวัดกระบี่ ในข้อหาละเมิดต่อทรัพย์สิน คดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.745/61 หมายเลขคดีแดงที่ พ.623/64 และล่าสุดในส่วนของศาลชั้นได้พิพากษาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยพิพากษายกฟ้อง


https://mgronline.com/south/detail/9640000121494
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 09-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ไม่น่ารักเลยนะ! รักจะดำน้ำ แต่ไม่รักษาธรรมชาติ นั่งพิงปะการังถ่ายรูปใต้น้ำที่ "กองหินตาชัย"


(ภาพจากผู้ใช้เฟสบุค "Teerayuth Sangwiset")

เห็นแล้วเจ็บไปทั้งใจ กับภาพนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำลงไปชมโลกใต้ทะเลบริเวณ "กองหินตาชัย" แล้วอยากเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก เลยนั่งลงบนกองหินแล้วเอนพิงอยู่ติดกับปะการัง ทำเอาคนรักการดำน้ำและรักทะเลใจหายวาบ เกรงจะเป็นเกิดความเสียหายแก่แหล่งดำน้ำที่สวยติดอันดับต้นๆ ของไทย

ภาพดังกล่าวถูกโพสลงกลุ่ม "ชวนกันไปDive" โดยผู้ใช้เฟสบุคชื่อว่า "Teerayuth Sangwiset" ได้โพสต์ภาพนักท่องเที่ยวที่นั่งลงบนกองหิน และทำท่าคล้ายจะพิงอยู่กับกัลปังหา โดยให้ข้อมูลว่า "นานแล้วนะครับ ที่ไม่เห็นอะไรแบบนี้ ลงไปนั่งให้ถ่ายรูปบนหินแล้วพิง seafan ไม่รู้ว่าลูกค้าระดับ elite หรือยังไง ใครรู้ช่วยบอกทีครับ ???? 4/12/2021 Tachai Pinnacle"

โดยภาพดังกล่าวถ่ายในวันที่ 4 ธ.ค. 64 ณ กองหินตาชัย บริเวณเกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคอมเมนท์ว่า เป็น dive ที่ 3 ของวัน ช่วงเวลาประมาณ 14.00 ? 15.30 น.

งานนี้กลุ่มคนรักการดำน้ำก็ออกมาคอมเมนท์ช่วยกันตามหาบุคคลที่อยู่ในภาพดังกล่าว พร้อมแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย อาทิ ดำน้ำแบบไร้จิตสำนึก น่าเศร้าที่เจอคนดำน้ำแบบนี้ ถ้ารักษาสิ่งแวดล้อมไม่ได้ก็ไม่ต้องลง บ้างก็บอกว่าควรจับ ปรับ หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการ

ต่อมา อาจารย์ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้แชร์โพสดังกล่าวลงในเฟสบุคส่วนตัว และประกาศขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อส่งต่อไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และล่าสุด อาจารย์ศักดิ์อนันต์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคอมเมนต์ว่า ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้เรียกกลุ่มคนดังกล่าวมาตักเตือน พร้อมเสียค่าปรับแล้ว

สำหรับ "กองหินตาชัย" เป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำบริเวณ "เกาะตาชัย" ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องของ Sea fan (กัลปังหา) ที่มีความสมบูรณ์ สีสันสวยงาม ซ้อนกันหลายๆ ชั้น มีลักษณะเป็นยอดหินจมน้ำเป็นแหล่งของฝูงปลาขนาดน้อยใหญ่ ทั้งยังพบปลากระเบนราหู และฉลามวาฬ

ปัจจุบัน ยังไม่มีมาตรการที่จะเข้ามาควบคุมการดำน้ำโดยตรง มีเพียงอาศัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการดำน้ำในด้านต่างๆ เช่น พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งนับว่าเป็นกฎหมายหลักอันเกี่ยวข้องกับปัญหาความเสี่ยงต่อทรัพยากรใต้ทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติซึ่งถูกใช้เป็นจุดดำน้ำลึก และยังมีกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกเล็กน้อย

และในเมื่อยังไม่มีกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังในกิจกรรมการดำน้ำแบบนี้ หากทำผิดก็อาจจะเป็นเพียงการเรียกเข้าไปตักเตือน และจ่ายค่าปรับ สิ่งที่จำช่วยปกป้องทรัพยากรทางทะเล ทั้งปะการัง สัตว์น้ำ และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลได้ ก็มีเพียงจิตสำนึกของนักดำน้ำและนักท่องเที่ยวเท่านั้น


https://mgronline.com/travel/detail/9640000121506

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:53


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger