เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 07-03-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,115
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคเหนือ จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน จากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมอยู่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียว ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ซึ่งจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะเกิดในระยะต่อไป สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเชีย ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 12 มี.ค. 65 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณ์เช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเชีย ได้เคลื่อนผ่านไปปกคลุมหัวเกาะสุมาตราแล้ว ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 7-8 มี.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่จะเกิดขึนได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบถึงวันที่ 8 มีนาคม 2565)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 07 มีนาคม 2565

บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

โดยจะมีผลกระทบดังนี้


วันที่ 7 มีนาคม 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา

สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์


วันที่ 8 มีนาคม 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัด บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม

ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 07-03-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,115
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


'ทีมงานแมวน้ำ' ผู้ช่วยนักวิจัยญี่ปุ่นเก็บข้อมูล ภายใต้น้ำแข็งแอนตาร์กติกา

พาไปชมการทำงานของ "บรรดาแมวน้ำผู้ช่วย" เพื่อให้คณะนักวิจัยจากญี่ปุ่นสามารถศึกษาระบบนิเวศในทวีปแอนตาร์กติกา ได้อย่างละเอียดมากขึ้น



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า แมวน้ำซึ่งมีอุปกรณ์คล้ายตัวรับส่งสัญญาณ พร้อมเสาอากาศอยู่บนหัว อาจดูผิดปกติและแปลกตา แต่เจ้าแมวน้ำสายพันธุ์ Weddell จำนวน 8 ตัวที่มีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่บนหัว กำลังช่วยนักวิจัยชาวญี่ปุ่นสำรวจน่านน้ำ ใต้แผ่นน้ำแข็งหนาในทวีปแอนตาร์กติกา

งานวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเดือน มี.ค-พ.ย. 2560 โดยแมวน้ำเหล่านี้ถูกติดตั้งเครื่องเซ็นเซอร์วัดค่าการนำไฟฟ้า อุณหภูมิ และวัดระดับความลึกไว้บนหัว เพื่อช่วยให้นักวิทยาสาตร์สามารถรวบรวมข้อมูล เพื่อการสังเกตการณ์ เช่น อุณหภูมิของน้ำ และระดับเกลือ ในบริเวณที่มีอันตรายสูง

นายโนบุโอะ โคคุบุน หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า การวิจัยนี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตามพฤติกรรม และรูปแบบนิเวศวิทยาของสัตว์ในทวีปแอนตาร์กติกาได้ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน ที่ทีมนักวิจัยสามารถเดินทางไปยังที่หมาย โดยใช้เรือตัดน้ำแข็งเพื่อทำการลงพื้นที่จริงและเก็บรวบรวมข้อมูล แต่ในช่วงฤดหนาวพวกเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ จึงต้องอาศัยทีมผู้ช่วยพิเศษที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แอนตาร์กติกาอย่างเจ้าแมวน้ำเหล่านี้



ข้อมูลที่รวบรวมอย่างสมบูรณ์จากแมวน้ำเจ็ดตัว แสดงให้เห็นว่า หนึ่งในนั้นเดินทางไกลถึง 633 กิโลเมตร จากชายฝั่งของสถานีโชวา (Showa) ของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา ในขณะที่อีกตัวหนึ่งได้ดำลงไปในน้ำที่ระดับความลึก 700 เมตร

โคคุบุน กล่าวอีกด้วยว่า นักวิจัยได้เรียนรู้ว่าน้ำทะลอุ่นจากส่วนบนในทะเลเปิด ได้ไหลไปทวีปแอนตาร์กติกาตั้งแต่เดือน มี.ค. จนถึงช่วงฤดูหนาวในปีนั้น ซึ่งน้ำที่ไหลอยู่ใต้น้ำแข็งนั้น จะพัดพาสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เช่น ตัวเคยแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของแมวน้ำ

โครงการวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อพื้นที่ชายฝั่งทะเลแอนตาร์กติกา อีกทั้ง ทีมวิจัยหวังว่าจะสร้างอุปกรณ์ขนาดเล็กที่จะพอดีกับสัตว์ขั้วโลกอื่นได้อีก เช่น เพนกวิน เป็นต้น

สำหรับข้อดีของเพนกวิน คือ พวกมันจะกลับมาสถานที่เดิม ทำให้นักวิจัยสามารถเก็บข้อมูลจากพวกมันได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถใช้อุปกรณ์กับนกเพนกวินจำนวนมาก เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง.

เครดิตภาพ : REUTERS


https://www.dailynews.co.th/news/829482/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 07-03-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,115
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เริ่มแล้ว!! สำรวจแบรนด์ขยะพลาสติก พื้นที่แรก ?หาดเจ้าหลาว? ขยะอันดับ 1 "บรรจุภัณฑ์อาหาร "

"กรีนพีซ ประเทศไทย" จัด 10 อันดับจำนวนขยะที่เก็บได้จากกิจกรรมการเก็บขยะที่บริเวณหาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี พบ "บรรจุภัณฑ์อาหาร" และ "ภาชนะใส่อาหาร" นำโด่ง วางแผนสำรวจอีกหลายพื้นที่ เพื่อรายงานผลสำรวจแบรนด์สินค้าจากขยะพลาสติกช่วงปลายปี พร้อมประกาศว่าเป็นของบริษัทผู้ผลิตใดบ้าง หวังผลักดันร่วมรับผิดชอบ



"กรีนพีซ ประเทศไทย" ดำเนินการสำรวจแบรนด์ขยะพลาสติก (Brand Audit) อย่างต่อเนื่อง โดย "หาดเจ้าหลาว" เป็นพื้นที่แรกของการทำกิจกรรมเก็บขยะและสำรวจแบรนด์ขยะพลาสติก (Brand Audit) ในปีนี้ ผลจำนวนขยะที่เก็บได้จากกิจกรรมการเก็บขยะที่บริเวณหาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 โดยนิสิตจากมหาวิทยาลัยบูรพา (วิทยาเขตจันทบุรี) ร่วมเก็บขยะสำรวจแบรนด์ใช้เวลาเก็บขยะประมาณ 3 ชั่วโมง สามารถเก็บขยะได้ทั้งหมด 5,395 ชิ้น

โดยสามารถจัด 10 อันดับ ได้ดังนี้ 1.บรรจุภัณฑ์อาหาร 1,456 ชิ้น 2.ภาชนะใส่อาหาร 1,275 ชิ้น 3.โฟมใต้ฝา 560 ชิ้น 4.ฝาขวด 468 ชิ้น 5.ขวด 385 ชิ้น 6.หลอด 326 ชิ้น 7.ช้อน 164 ชิ้น 8.ถุงพลาสติก 160 ชิ้น 9.รองเท้า 147 ชิ้น 10.ฉลาก 142 ชิ้น โดยมีขยะอื่นๆ รวม 312 ชิ้น สามารถระบุแบรนด์ได้ 1,165 ชิ้น และไม่สามารถระบุแบรนด์ได้ 4,230 ชิ้น (จำพวกถุงพลาสติกใส่แกง เศษพลาสติก โฟม ยางวง หลอด เป็นต้น)



"กรีนพีซ ประเทศไทย" วางแผนจะทำกิจกรรมเก็บขยะสำรวจแบรนด์ในอีกหลายพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลเป็นรายงานผลการสำรวจแบรนด์สินค้าจากขยะพลาสติก และเผยแพร่ในช่วงปลายปี ในรายงานผลการสำรวจแบรนด์สินค้าจากขยะพลาสติกจะเปิดเผยว่ามีบริษัทผู้ผลิตบริษัทใดบ้างที่พบขยะบรรจุภัณฑ์ของพวกเขาตกค้างในสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

เป้าหมายของกรีนพีซต้องการส่งเสียงให้บริษัทผู้ผลิตมีนโยบายลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในบรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่บริษัทผลิตขึ้น พร้อมนำหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต หรือ Extended Producer Responsibility (EPR) มาใช้ในทุกวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์

EPR คือ หลักการที่ขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตไปยังช่วงต่าง ๆ ของวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์ เป็นแนวทางให้ผู้ผลิตคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ กระจายสินค้า การรับคืน การเก็บรวบรวม การใช้ซ้ำ การนำกลับมาใช้ใหม่ และการบำบัด

นอกจากนี้ กรีนพีซยังเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถร่วมทำการสำรวจแบรนด์ขยะพลาสติก (Brand Audit) ได้ในพื้นที่ของทุกคน และมาร่วมกันค้นหาว่านอกจากผู้บริโภคที่ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหามลพิษขยะพลาสติก แล้วมีใครอีกที่ไม่เคยถูกกล่าวถึงหรือต้องมีส่วนร่วมเข้ามาแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ?สืบจากขยะ ใครกันที่ต้องรับผิดชอบ? สามารถสวมบทบาทนักสืบ โดยเริ่มสืบได้ที่ https://plasticfreefuture.greenpeace.or.th/


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9650000022113

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:51


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger