เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 06-12-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ในขณะที่ลมตะวันออกในระดับบนยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในระยะนี้

สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนล่าง ในขณะที่ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงและยังคงมีฝนเกิดขึ้นบางพื้นที่


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 6 - 7 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ในขณะที่ในช่วงวันที่ 8 - 11 ธ.ค. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่างและช่องแคบมะละกา ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในช่วงวันที่ 9 ? 11 ธ.ค. 65


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 06-12-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


กรมทะเลและชายฝั่ง แจงผลชันสูตรซากพะยูนตาย ในพื้นที่อำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชี้แจงผลชันสูตรซากพะยูนตาย ในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สำหรับสาเหตุการตายไม่สามารถระบุได้ แต่สันนิษฐานว่าตายอย่างเฉียบพลัน



วันที่ 5 ธ.ค. 2565 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล เพจขยะมรสุม MONSOONGARBAGE THAILAND ในกรณีที่พบซากพะยูน บริเวณอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขนาดยาวเกือบ 2 เมตร น้ำหนักราว 200 กิโลกรัม อายุประมาณ 15-20 ปี โดยพบเชือกรัดหาง รอยแทงคล้ายมีด และเขี้ยวที่ถูกตัดออกไปนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับรายงานผลการชันสูตรซากพะยูนตัวดังกล่าวจากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่าสภาพซากมีรอยกรีดบริเวณส่วนหัวและหางเกิดหลังการตาย พบรอยเชือกรัดบริเวณหัวหลังจมูก ซึ่งกล้ามเนื้อใกล้รอยรัดช้ำ แสดงว่ารอยรัดเกิดก่อนตาย

เมื่อตรวจสอบกะโหลกพบเขี้ยวคู่หลัง 1 คู่ ซึ่งยังไม่โผล่พ้นริมฝีปาก ไม่พบร่องรอยการถูกตัด เขี้ยวคู่หน้าหลุดไปแล้วตามธรรมชาติ ซึ่งจะหลุดในช่วงวัยรุ่น และเมื่อตรวจสอบอวัยวะภายในพบว่าอวัยวะส่วนใหญ่เน่าสลาย พบเฉพาะอวัยวะทางเดินอาหารบางส่วน ซึ่งพบหญ้าทะเลในกระเพาะอาหารและไส้ติ่ง แสดงว่าพะยูนยังสามารถหากินได้ก่อนตาย สำหรับสาเหตุการตายไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากซากเน่า แต่สันนิษฐานว่าพะยูนตายอย่างเฉียบพลันเนื่องจากยังพบอาหารในทางเดินอาหารอยู่และพะยูนมีชั้นไขมันที่สมบูรณ์

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า กรม ทช. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่บินโดรนสำรวจในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นแหล่งหญ้าทะเลที่สำคัญในพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง ซึ่งในช่วงเดือน ก.พ. 2565 พบพะยูนอย่างน้อย 3 ตัว หากินอยู่ในพื้นที่ และได้มีการติดตามรอยกินของพะยูนในแนวทะเลในช่วง เม.ย. 2565 พบรอยกินพะยูนกระจายอยู่แนวหญ้าทะเลตรงบริเวณอ่าวพุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ หากทุกท่านพบเจอสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นทั้งมีชีวิตและตาย สามารถแจ้งเบาะมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อกรม ทช. จะแจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป.


https://www.thairath.co.th/news/local/2570788

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 06-12-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


กรม ทช. ช่วยชีวิต 'วาฬนำร่องครีบสั้น' เกยตื้น จังหวัดนราธิวาส



วาฬนำร่องครีบสั้น- เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ได้รับแจ้งจากเครือข่ายประมงพื้นบ้าน บ้านโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ว่าพบวาฬนำร่องครีบสั้น เกยตื้นที่หาดนราทัศน์ (ฝั่งธารทิพย์) เจ้าหน้าที่มูลนิธิเมตตาธรรม เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเคียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ ได้ทำการช่วยเหลือผลักดันลงสู่ทะเล และในเวลา 14.30 น.

ได้รับแจ้งจากเครือข่ายที่เฝ้าระวังการเกยตื้น พบว่า วาฬนำร่องครีบสั้น ตัวดังกล่าวกลับมาเกยตื้นอีกครั้งบริเวณหาดนราทัศน์ ห่างจากจุดเกยตื้นจุดเดิมประมาณ 500 เมตร สาเหตุการเกยตื้นของวาฬตัวดังกล่าวอาจจะป่วย และในพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ตอนล่างมีคลื่นลมแรง

ทั้งนี้ กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศวทล.ได้ส่งสัตวแพทย์ประจำศูนย์ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยชีวิตวาฬนำร่องครีบสั้น อย่างใกล้ชิดเพื่อทำการรักษา และฟื้นฟูให้หายเป็นปกติ และปล่อยกลับสู่ทะเลในโอกาสต่อไป


https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_3710857

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 06-12-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


กรมโยธาฯ แจง "กำแพงกันคลื่นชายฝั่ง" ผ่านการศึกษาเข้มงวด ไม่กระทบ ปปช.



กรมโยธาฯ แจงยืนยัน การสร้างเขื่อน ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ยึดแก้ไขความเดือดร้อนในพื้นที่ ตามหลักวิชาการ โดยผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่าถึงกรณี กลุ่ม Beach for life และ เครือข่ายประชาชน ทวงคืนชายหาด ได้ยื่นข้อเรียกร้อง เกี่ยวกับโครงการ ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ให้รัฐบาลดำเนินการตาม 3 ข้อ คือ

1. ขอให้คณะรัฐมนตรี ยกเลิกคำสั่ง การให้อำนาจ กรมโยธาธิการ ดำเนินการป้องกันและ แก้ไขปัญหา การกัดเซาะชายฝั่ง

2. ขอให้คณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเอาโครงการกำแพงกันคลื่นกลับมา เป็นโครงการที่ต้องทำการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิ ให้แก่ประชาชน และชุมชน และ

3.ขอให้คณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้มีการฟื้นฟู สภาพชายหาด ที่ได้รับความเสียหาย จากการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น

กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอชี้แจง ว่า กรมฯ มีหน้าที่แก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ตามกฎหมายทุกประการ โดยได้ดำเนินโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ภายใต้พรบ.ส่งเสริมการบริหารจัดการ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 โดยมี คณะทำงานเพื่อพิจารณากลั่นกรอง และ ให้ข้อเสนอแนะ ทั้งจากนักวิชาการ ภาคปชช. NGO และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกโครงการที่จะก่อสร้างปีงบประมาณ 2565 จะต้องผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กรมฯ ได้ปรับการออกแบบ เป็นโครงสร้างป้องกัน รูปแบบผสมผสาน ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม เพิ่มการเสริมทราย ชายหาดหน้าเขื่อน ซึ่งจะใช้แทนโครงสร้าง ป้องกันการกัดเซาะ ที่มีขนาดใหญ่ ในบริเวณพื้นที่ชายหาดท่องเที่ยว เพื่อลดผลกระทบ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ก่อสร้าง

โดยจะดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างเพื่อป้องกันการกัดเซาะในพื้นที่เดือดร้อนเร่งด่วน และจำเป็นตามหลักวิศวกรรมเท่านั้น ดังนั้น การยุติบทบาท จะส่งผลต่อสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ

สำหรับประเด็น การทบทวน ให้นำโครงการ กำแพงกันคลื่น กลับมาเป็นโครงการ ที่ต้องทำการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น ในขณะนี้ อยู่ระหว่าง การพิจารณาทบทวน โดยสำนักงานนโยบาย และ แผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว

โดยกรมฯ พร้อมจะดำเนินการต่อไป ส่วนแนวทางการฟื้นฟูสภาพชายหาดบริเวณพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทยที่ได้รับความเสียหาย มีหน่วยงาน ที่รับผิดชอบดูแล คือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


https://www.nationtv.tv/news/social/378895075

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:36


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger