เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 30-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกพัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนลดลง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.?4 ธ.ค. 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง คาดว่าในช่วงวันที่ 4?5 ธ.ค. 2565 จะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 3?4 ธ.ค. 2565


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. ? 5 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียสส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

สำหรับในช่วงวันที่ 3 ? 5 ธ.ค. 65 คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 2 ? 3 ธ.ค. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลซียและภาคใต้ตอนล่าง คาดว่า ในช่วงวันที่ 4 ? 5 ธ.ค. 65 จะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. ? 5 ธ.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 3 ? 4 ธ.ค. 65



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฉบับที่ 4 (336/2565)

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.?4 ธ.ค. 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิ จะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง คาดว่าในช่วงวันที่ 4?5 ธ.ค. 2565 จะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้


วันที่ 2 ธันวาคม 2565

ภาคใต้: จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส


ช่วงวันที่ 3-4 ธันวาคม 2565

ภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 3?4 ธ.ค. 2565 โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 30-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ใหญ่จริง! ปลากระโทงยักษ์หนัก 200 กก. เรืออวนล้อมจับได้หลังเกาะพีพี ตัวเดียวขายได้กว่าหมื่นบาท

กระบี่ - ชาวประมงเรืออวนล้อมจับปลากระโทง หรือปลาใบยักษ์ น้ำหนัก 200 กิโลกรัม ได้บริเวณหลังเกาะพีพี จ.กระบี่ สร้างความเต้นตี่นให้ลูกเรือ ตัวเดียวขายได้หมื่นกว่าบาท



วันนี้ (29 พ.ย.) สื่อโซเชียลได้มีการแชร์ภาพและคลิปขณะที่ลูกเรือประมงอวนล้อมจับ กำลังใช้เชือกดึงปลากระโทง หรือปลาใบ ขนาดใหญ่ขึ้นมาจากอวน สร้างความตื่นเต้น แก่ลูกเรือเป็นอย่างมาก จากการสอบถาม ทราบว่า เรือลำดังกล่าวชื่อเรือศรีมงคลชัย 2 มีนายพิศาล ประมงค์ เป็นไต้ก๋งเรือ สำหรับปลากระโทง หรือปลาใบตัวดังกล่าวมีน้ำหนักประมาณ 200 กิโล จับได้บริเวณทะเลหลังเกาะพีพี เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยจำหน่ายในราคา กก.60 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 12,000 บาท

ปลากระโทง เป็นที่รู้จักกันทั่วไปของชาวประมงในชื่อของปลาใบ มีลักษณะเด่นคือ สามารถกระโดดพ้นน้ำได้ในระยะสูง รูปร่างยาวสวยงาม จึงได้รับฉายาว่าราชินีแห่งท้องทะเล ปลากระโทงจะมีเนื้อเยอะ ทำให้สามารถแล่ออกมาเป็นชิ้นๆ เหมาะแก่การนำมาทำเป็นปลาหวาน หรือปลาเค็ม กินกับข้าวต้ม


https://mgronline.com/south/detail/9650000113654

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 30-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


หมุดกระทงของท่าน ลงท้องเต่านะ หลักฐานชัดจากซากเต่าทะเล ชลบุรี

29 พ.ย.65 - ขอเป็นตัวสุดท้าย พบซากเต่าทะเล เกยตื้นหาดกินรี จ.ชลบุรี พบเศษหมุดตะปูจากกระทง พลาสติก อวนอยู่ในท้องเต่า อุดตันระบบลำไส้



ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ (ศอพต.) ได้รับแจ้งจาก พ.จ.อ.จุลทิตย์ ศรีอนันต์ เจ้าหน้าที่กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก เมื่องันที่ 27 พ.ย.65 พบ "ซากเต่าทะเล" ขนาดใหญ่ลอยเกยตื้นที่บริเวณริมหาดกินรี (หาดขลอด) อ.สัตหีบจ.ชลบุรี

ศอพต. จึงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปรับซาก และนำกลับมาผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลเต่าทะเลกองทัพเรือ เบื้องต้นหลังจากที่สัตวแพทย์ประจำศูนย์ ศอพต. เข้าทำการตรวจสอบพบว่าเป็น ?เต่าตนุ? ขนาดกระดองกว้าง 90 ซม. ยาว 96.5 ซม. เป็รเพศเมีย อายุประมาณ 20 ปี พบเลขรหัสไมโครชิพ 116918551A (อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเป็นเต่าจากที่ใด)

น.สพ.กิริน สรพิพัฒน์เจริญ สัตวแพทย์ประจำศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ระบุว่า สภาพซากเน่ามาก ไม่พบบาดแผลภายนอกลำตัว อวัยวะหลายส่วนเริ่มเน่าสลาย ภายในระบบทางเดินอาหารพบ อาหารจำพวก สาหาร่ายทะเลแมงกระพรุน ไข่ปลา

โดยในระบบทางเดินอาหารยังพบขยะทะเล และสิ่งแปลกปลอมภายในระบบทางเดินอาหารจำนวนมาก เช่น หมุดตะปูจากกระทง อวน เชือกไนล่อน แผ่นพลาสติก อุดตันในลำไส้ เมื่อรวมน้ำหนักเศษอวนขณะแห้ง มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม และเมื่อรวมปนกับเศษอาหารและขยะอื่น ๆ ภายในลำไส้จะมีน้ำหนักทั้งหมด มากกว่า 2 กิโลกรัม

ทั้งนี้ สาเหตุการตาย เนื่องจากสภาพซากเน่ามากเลยทำให้ไม่สามารถดูวิการ รอยโรค และบาดแผลอื่น ๆ ได้ชัดเจน

- แต่ชี้ชัดว่าเกิดจากการที่เต่าทะเลกินขยะทะเลเข้าไปจำนวนมาก
- ทำให้อุดตันอยู่ในระบบทางเดินอาหารตั้งแต่บริเวณกระเพาะอาหารไปจนถึงลำไส้ใหญ่
- ทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดการอักเสบ ไม่สามารถย่อยอาหาร และขับถ่ายออกมาได้ตามปกติ
- จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เต่าทะเลจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด


https://www.mcot.net/view/cR2sCqJM

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 30-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


กรมทช. เร่งแก้ปัญหาการระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลือง

ชลบุรี 29 พ.ย. ? อธิบดีกรมทช. นำตรวจติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลืองบริเวณ เกาะขามอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เตรียมประกาศพื้นที่คุ้มครองและหารือภาคส่วนต่างๆ เพื่อเร่งแก้ปัญหา



นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ดำน้ำเพื่อติดตามการระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลืองบริเวณเกาะขาม จากนั้นระบุว่า ภายหลังจากที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก (ศวบอ.) เรื่องการสำรวจระบบนิเวศแนวปะการังในปี 2564 ? 2565 จำนวนทั้งสิ้น 90 สถานี ครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ในบริเวณอ่าวไทยตอนบนและตอนกลาง พบว่า โรคแถบสีเหลืองนั้นกระจายตัวอยู่ เฉพาะบริเวณเกาะสัตหีบ ? แสมสาร จังหวัดชลบุรี จำนวน11 สถานี รายงานการพบโรคนี้เป็นการพบครั้งแรกในประเทศไทย ปะการังส่วนใหญ่ที่สำรวจพบว่า เป็นโรค ได้แก่ปะการังโขด และปะการังเขากวาง โดยปริมาณการพบคิดเป็นร้อยละ 1 ? 10 ของปะการังทั้ง 2 ชนิด

ขณะนี้ได้มีการกระจายตัวของโรคระบาดไปยังปะการังหลายชนิดเช่น ปะการังเขากวาง ปะการังโขด ปะการังลายดอกไม้ ปะการังดอกไม้ ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังวงแหวน ปะการังช่องเล็ก และปะการังช่องเหลี่ยม ซึ่งถือว่า การแพร่ระบาดของโรคในแนวปะการังเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร จะต้องมีการวางแผนเพื่อศึกษาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะบริเวณที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคนั้นมีขนาดของพื้นที่รวม 1,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ใช้คำว่า โรคระบาด ซึ่งข้อมูลจากนักวิชาการของกรมทช. แจ้งว่า การระบาดที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Vibrio ซึ่งปะการังแต่ละชนิดก็จะเป็นแบคทีเรียที่แตกต่างกัน ภายหลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อศึกษาและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กลไกของคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเพื่อพิจารณาและกลั่นกรองร่วมกันนอกจากนี้กรมทช. ได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ประกอบด้วย กองทัพเรือ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอีกทั้งช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อทรัพยากรปะการัง

ทั้งนี้กรมทช. จะกำหนดขอบเขตเพื่อเตรียมประกาศพื้นที่คุ้มครอง พร้อมทั้งหารือร่วมกับอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลเพื่อหาทางออกหลังจากที่แปลงเพาะปลูกปะการังได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย พร้อมย้ำว่า การย้ายปะการังที่ไม่ได้รับผลกระทบออกจากปะการังที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียนั้น เมื่อได้สำรวจแล้วพบว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะปะการังที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนมหาศาล จะต้องวางแผนเป็นอย่างดีและใช้กำลังพลเป็นจำนวนมากอย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับทีมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านปะการังอีกครั้ง เพื่อช่วยกันหาแนวทางในการขนย้ายปะการังที่ติดเชื้อออกจากพื้นที่ต่อไป.


https://tna.mcot.net/agriculture-1067032

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 30-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


ชาวชุมพร 300 คน ขีดเส้นตาย 10 วัน ยกเลิกมติ ครม. คุ้มครอง สวล. 4 ตำบล อ.ปะทิว

ชาวประมง-ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.ชุมพร 300 คน ขีดเส้นตาย 10 วัน ให้ "ยกเลิก" มติ ครม.คุ้มครอง สวล. 4 ตำบล อ.ปะทิว



วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร เวลา 09.30 น. ตัวแทนชาวประมง ชาวบ้าน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน อ.ปะทิว ประมาณ 300 คน นำโดย นางชงโค นิลสถิตย์ นายกสมาคมชาวประมงปะทิว-คอสน นายจรูญ ไชยะ นายกสมาคมชาวประมงด่านสวี นายพิศาล สันติวิชยะ นายกสมาคมประมงปากน้ำชุมพร พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ นายกสมาคมชาวประมงปากน้ำชุมพร

นายไตรฤกษ์ มือสันทัด ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายสมโชค พันธุรัตน์ ประธานเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชน อ.ปะทิว ผู้แทนจากสมาคมประมงทั้ง 8 อำเภอ ร่วมกันชุมนุมโดยชูป้ายมีข้อความ "หยุดมติ ครม.อัปยศ รังแกประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ 4 ตำบล ชุมโค ปากคลอง สะพลี บางสน"

โดยเรียกร้องให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ความเห็นชอบ ?ร่างประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอำเภอปะทิวในบริเวณชายฝั่งพื้นที่ 4 ตำบลใน อ.ปะทิว ประกอบด้วย ต.ปากคลอง ต.ชุมโค ต.บางสน และ ต.สะพลี? ที่ออกมาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เนื่องจากร่างประกาศดังกล่าวหากมีผลบังคับใช้ จะส่งผลกระทบต่อการทำอาชีพประมง การท่องเที่ยวโดยชุมชน และวิถีชีวิตของประชาชนใน 4 ตำบลอย่างรุนแรง

ต่อมา นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายเจริญโชค พรหมชุติมา นายอำเภอปะทิว และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ลงมาพบผู้ร่วมชุมนุม ก่อนรับมอบหนังสือเรียกร้องจากแกนนำผู้ชุมนุม สรุปได้ว่า ขอให้ทบทวนและยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 ตุลาคม 2565 เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ ต.ปากคลอง ต.ชุมโค ต.บางสน และ ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร พ.ศ. ?.

เนื่องจากมติดังกล่าวถือเป็นการรังแกประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริต เช่น มาตรการที่ระบุว่าพื้นที่ชายหาดและทะเลที่อยู่ถัดออกไปจากชายหาด 5,400 เมตร ห้ามทำการประมงโดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ และห้ามก่อสร้างอาคารทุกชนิด พื้นที่แนวสันทราย ห้ามขุด ถม หรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติของพื้นที่บริเวณแนวสันทราย และพื้นที่ในเขตคุ้มครอง รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมการใช้เครื่องมือทำการประมง ห้ามก่อสร้างอาคารทุกชนิดในพื้นที่ที่วัดจากแนวชายฝั่งทะเลเข้าไปในแผ่นดิน ระยะ 20 เมตร ฯลฯ

ถือเป็นมาตรการที่ชาวบ้านในพื้นที่ 4 ตำบลไม่สามารถยอมรับได้ โดยนางชงโคได้กล่าวยืนยันหลังยื่นหนังสือเรียกร้องว่า จะให้เวลารัฐบาลเพียง 10 วันในการยกเลิกมติ ครม.ดังกล่าว แพราะขณะนี้เวลาผ่านมากว่า 1 เดือนแล้วที่ ครม.มีมติออกมา จึงเหลือเวลาอีกประมาณ 50 กว่าวันเท่านั้นที่ร่างประกาศจะมีผลบังคับใช้ หากครบกำหนด 10 วันแล้วยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเรื่องนี้ ชาวบ้าน ชาวประมง และผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้ง 4 ตำบลจะเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป

นายวิสาห์กล่าวว่า จังหวัดชุมพรรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงและชาวบ้านใน อ.ปะทิวในเรื่องนี้ หลังจากรับมอบหนังสือเรียกร้องแล้ว จะรีบนำส่งให้รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ทันที


https://www.prachachat.net/local-economy/news-1133125

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 30-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


เปิดภาพถ่ายทางอากาศครั้งแรกของ "อ่าวมาหยา" ในรอบหลายเดือน



ทรายหาดขาว น้ำทะเลใสที่สะท้อนจนเห็นพื้นด้านล่างคล้ายกระจก สอดสลับกับสีสันของปะการังที่เติบโตขึ้นใต้ผืนน้ำ สัตว์น้ำน้อยใหญ่ อย่างฉลามหูดำ ว่ายน้ำอวดสายตานักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทย ที่ได้เข้ามาสัมผัสความงดงามของอ่าวมาหยาอีกครั้ง หลังอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้ประกาศปิดอ่าวมาหยา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2561 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน

ธรรมชาติที่สวยงามซึ่งค่อยๆ ฟื้นตัวอวดสายตาชาวโลก ทำให้อ่าวมาหยา กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครหลายคนอยากมาสัมผัส และความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมาก ทำให้ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต้องเข้ามาบริการจัดการ เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวล้นหาด

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะเปิดให้เข้ามาเที่ยวตั้งแต่ 07.00-18.00 น. รอบละ 375 คน แต่ละรอบอยู่ในอ่าวมาหยาได้ไม่เกินคนละ 1 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้เรือโดยสารเข้ามาจอดหน้าหาดอีกแล้ว แต่ให้ไปจอดเทียบท่าที่ท่าเรือโล๊ะซามะแทน อีกทั้ง ห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อแนวปะการัง

นายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า หลังการเปิดอ่าวมาหยา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาโดยเฉลี่ยวันละ 4,100 คน ซึ่งเต็มจำนวนที่อ่าวมาหยาจะรองรับได้

โดยผู้ที่จะมาเที่ยวอ่าวมาหยา จะต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ เท่านั้น และจะต้องปฏิบัติตามกฎข้อปฏิบัติของอุทยาน เช่น การห้ามลงเล่นน้ำ ห้ามเก็บปะการัง และสัตว์ทะเลทุกชนิด ห้ามใช้ครีมกันแดนที่มีสารเคมี ซึ่งเป็นอันตรายต่อปะการัง ห้ามทิ้งขยะ ห้ามทิ้งสมอเรือในแนวประการัง และ ห้ามให้อาหารปลาโดยเด็ดขาด ผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 5,000 บาท

โดยก่อนหน้านี้ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการนำเที่ยว และนักท่องเที่ยวถึงความจำเป็นที่จะต้องวางกฎระเบียบให้เข้มงวดขึ้น เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของอ่าวมาหยา ที่ผ่านการพักฟื้นอย่างเต็มที่จนสวยงาม จึงอยากอนุรักษ์และรักษาความสมบูรณ์นี้ไว้ให้นานที่สุด

"อ่าวมาหยา" เป็นที่รู้จักทั่วโลก หลังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดอะบีช ซึ่งมีนักแสดงนำชื่อดัง อย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เมื่อปี 2542 โดยอำนวยการสร้างโดยบริษัททเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์

แต่ในระหว่างถ่ายทำ มีการปรับแต่งพื้นที่อ่าวมาหยาขนาดใหญ่ ทั้งปลูกต้นไม้ ปรับสภาพพื้นที่ ก่อสร้างที่ปลูกสร้างอย่างอื่น หรือ การนำแพขนานยนต์มาเข้าเทียบท่า จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดี ยาวนานกว่า 23 ปี

จนกระทั่ง วันที่ 13 ก.ย.2565 ศาลฎีกาพิพากษาให้ กรมป่าไม้ เยียวยาฟื้นฟูสภาพอ่าวมาหยาให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม ส่วนบริษัท ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นเงิน 10 ล้านบาท เพื่อใช้ในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในอ่าวมาหยา


https://www.thaipbs.or.th/news/content/322063

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:02


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger