เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 06-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 6 - 11 ก.พ. 66 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 06-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ไม่คาดคิด เด็กสาววัย 16 โดนฉลามกัดในแม่น้ำ ดับสลด ที่ออสเตรเลีย

เด็กสาววัย 16 เคราะห์ร้าย ถูกฉลามกัดทำร้ายในแม่น้ำสวอน ในออสเตรเลีย จนเสียชีวิตสลด ด้านสารวัตรตำรวจเผยเด็กสาวขี่เจ็ตสกีเล่นกับเพื่อนๆ ก่อนโดดลงไปว่ายน้ำในแม่น้ำ



เมื่อ 5 ก.พ. 2566 สื่อต่างประเทศรายงานเกิดเหตุสะเทือนขวัญ เด็กสาววัย 16 ปี ในออสเตรเลีย ถูกฉลามจู่โจมทำร้ายขณะกำลังว่ายน้ำในแม่น้ำสวอน เมืองนอร์ท ฟรีแมนเทิน ชานเมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเด็กสาวได้เสียชีวิตหลังได้รับความช่วยเหลือขึ้นมาจากแม่น้ำ

ตามรายงานระบุว่า เด็กสาวเคราะห์ร้ายมาจากเมืองเพิร์ธ และขณะเกิดเหตุได้ขี่เจ็ตสกีกับเพื่อนๆ ท่องเที่ยวในแม่น้ำสวอน โดยได้รับความช่วยเหลือนำตัวขึ้นจากแม่น้ำที่บริเวณสะพาน ฟรีแมนเทิล ทางใต้ของเมืองเพิร์ธ หลังจากเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยเด็กสาวถูกฉลามกัดจนบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณขา ในขณะที่หน่วยกู้ภัยได้รีบมายังริมฝั่งแม่น้ำในจุดที่นำเด็กสาวขึ้นมา แต่แพทย์ฉุกเฉินไม่สามารถยื้อชีวิตเธอไว้ได้

ด้านสารวัตรตำรวจ พอล โรบินสัน จากสำนักงานตำรวจเวสเทิร์น ออสเตรเลีย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เด็กสาวได้กระโดดลงไปในแม่น้ำสวอนเพื่อว่ายน้ำเล่นกับโลมาที่กำลังว่ายอยู่ใกล้ๆ โดยสารวัตรตำรวจโรบินสัน อธิบายถึงเหตุการณ์นี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมากๆ และครอบครัวของเด็กสาวได้รับทราบเหตุร้ายแล้ว ในขณะเดียวกัน ทางการได้แจ้งให้แก่ประชาชนระมัดระวังอันตรายมากขึ้นจากฉลาม ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประมง ยังกล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องไม่ปกติที่มีฉลามอยู่ในบางพื้นที่ของแม่น้ำ

สำหรับเหตุการณ์ฉลามกัดเด็กสาววัย 16 ปีในแม่น้ำสวอนนี้ นับเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกในช่วง 100 ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุเด็กชายวัย 13 ปีถูกฉลามกัดจนเสียชีวิตในปีค.ศ. 1923 ในขณะที่เกิดเหตุฉลามกัดทำร้ายคนขณะว่ายน้ำในทะเล ในออสเตรเลีย ประมาณ 20 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่แล้วที่รัฐนิว เซาท์ เวลส์ และเวสเทิร์น ออสเตรเลีย


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2621560

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 06-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


"ดร.ธรณ์" โพสต์ยินดีพบ 3 วาฬบรูด้าโผล่อวดโฉมอุทยานฯ หมู่เกาะอ่างทอง



ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์เรื่องราวน่ายินดีหลังพบ 3 วาฬบรูด้าเข้ามาหากินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง วอนผู้บังคับเรือและไกด์นำเที่ยวหากเจอวาฬไม่ควรนำเรือเข้าใกล้วาฬมากกว่ารัศมี 100 เมตร และควรปฏิบัติตามกฎของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เรื่องราวน่ายินดีหลังพบบวาฬบรูด้าเข้ามาหากินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "วาฬบรูด้าขึ้นที่อุทยานหมู่เกาะอ่างทองครับ ขึ้นในที่นี้ไม่ใช่แค่ขึ้นมากินปลา แต่ทำท่าว่าจะขึ้นมาเที่ยวบนฝั่ง เพื่อนธรณ์ดูเองแล้วกันว่าอยู่ใกล้แค่ไหน Amazing Thailand สุดๆ

วาฬแม่ลูกคู่นี้คือ แม่วันดี กับเจ้าวันรุ่ง วงจรของวาฬในอ่าวไทย ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะรวมอยู่ในอ่าวตัว ก. เพราะตามฝูงปลาที่เข้ามาหาอาหาร เป็นช่วงน้ำจืดไหลลงทะเล ธาตุอาหารสมบูรณ์ แพลงก์ตอนเยอะ ปลาเล็กชอบ วาฬก็ชอบปลาเล็ก พอเข้าต้นปี วาฬ 50+ ตัวเริ่มแยกย้ายหากินในอ่าวตอนนอก มีบางตัวเข้ามาที่หมู่เกาะอ่าวทอง

เมื่อสัก 5-6 ปีก่อนเริ่มมีรายงานอยู่บ้าง จากนั้นเข้าช่วงโควิด ทะเลเงียบ วาฬเยอะเห็นชัด ปี 64 มี 4 ตัว ปี 65 มี 6 ตัว ปีนี้ เท่าที่มีรายงานพบ 3 ตัวแล้วครับ แต่ที่เด็ดขาดมากคือวาฬบุกเข้าเกือบถึงฝั่ง ผมยังไม่เคยเห็นภาพวาฬบรูด้าในไทยเข้าใกล้ฝั่งขนาดนี้มาก่อน หมายความว่าเธอเริ่มสบายใจ กล้าพาลูกเข้ามาจนแทบเกยหาด เป็นภาพมหัศจรรย์ที่บ่งบอกถึงความเป็นสุดยอดทะเลไทยได้เป็นอย่างดี แล้วการท่องเที่ยวเริ่มมา พวกเธอจะเป็นอะไรไหม? เราพออุ่นใจได้ เพราะอุทยานรู้ดีและเข้มงวด ลองอ่านคำสั่งของพี่ๆ เจ้าหน้าที่ได้ครับ ให้ผู้บังคับเรือและไกด์นำเที่ยวในบริเวณดังกล่าวปฏิบัติตามคำสั่งและข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่ ดังนี้

หากเจอวาฬ ไม่ควรนำเรือเข้าใกล้วาฬมากกว่ารัศมี 100 เมตร และไม่ควรเปลี่ยนทิศทางและความเร็วเรือ ไม่แล่นเรือขวางหรือไล่ตามวาฬ ถ้าวาฬว่ายน้ำออกจากตำแหน่งที่มองเห็น ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ตาม งดใช้เสียงดัง หรือใช้เสียงให้น้อยที่สุด วาฬจะใช้คลื่นเสียงในการสื่อสาร หาอาหาร และเดินทาง หากเสียงดังอาจจะเป็นการรบกวนการสื่อสารของวาฬได้

อ่านดูแล้วคงสบายใจ วาฬแม่ลูกได้รับการดูแล อยากให้ช่วยกันบอกต่อไป ให้เป็นที่รับรู้กันมากๆ อย่ายุพี่ๆ คนเรือ เข้าไปอีกนิดไม่เป็นไรหรอก เพราะมันอาจเป็น หากเราช่วยกัน น้องวาฬสบายใจ เข้ามาหาเราเอง มาถึงฝั่งด้วยล่ะ! ว่าแต่ ขึ้นฝั่งต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานนะจ๊ะ คุณวาฬ!"


https://mgronline.com/onlinesection/.../9660000011284

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 06-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


อยู่ด้วยกัน 5 ชั่วโมง! นักท่องเที่ยวตื่นตา ฉลามวาฬ 7 เมตร โผล่ทะเลระยอง ว่ายเล่นกับนักดำน้ำ



วันที่ 5 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ครูอ๊อฟ ครูฝึกดำน้ำสกูบา ของ เรือเดอะทอย ทัวร์ หลังจากที่มีการแชร์รูป นักดำน้ำกำลังว่ายเล่นกับ ปลาฉลามวาฬ ตัวยาวกว่า7เมตร มีคนสนใจแห่สอบถามถึงสถานที่ ว่าอยู่บริเวณใดของทะเลระยอง

ครูอ๊อฟ เปิดเผยว่า วันนี้ได้พานักดำน้ำ และนักท่องเที่ยว แล่นเรือออกไปดำน้ำบริเวณหินเพลิง ห่างจากชายฝั่งอ่าวมะจามป้อม ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ประมาณ 13 ไมล์ทะเล พอไปถึงนักดำน้ำก็ได้ลงไปดำน้ำดูปะการัง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำ

ปรากฎว่าขณะที่นักดำน้ำกำลังเพลิดเพลินกับการดำน้ำดูปะการัง จู่ๆ ปลาฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 7 เมตร ได้ว่ายเข้ามาที่เรือซึ่งลอยลำอยู่ แล้วยังว่ายไปเล่นกับนักดำน้ำด้วยท่าทีที่เชื่อง ว่ายวนเวียนไปมาระหว่างเรือกับนักดำน้ำ จนทำให้นักท่องเที่ยวบนเรือแห่ถ่ายรูปฉลามวาฬ ที่ไม่ยอมไปไหน ว่ายอยู่กับนักดำน้ำร่วม 5 ชั่วโมง พอแล่นเรือกลับ ปรากฎว่าฉลามวาฬยังว่ายตามเรือมาส่ง ก่อนจะว่ายหายไป

ครูอ๊อฟ กล่าวต่อว่า ฉลามวาฬตัวนี้ นับว่าเชื่องไม่ตื่นกลัวคน คาดว่าเป็นฉลามวาฬตัวเดิมที่จะมาปรากฎตัวให้เห็นทุกปีในบริเวณหินเพลิง โดยจะมาอยู่ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ ของทุกปี จึงมีนักดำน้ำมาชมกันเป็นประจำ

ด้านนักดำน้ำและนักท่องเที่ยว ต่างก็ประทับใจ ที่เจอกับฉลามวาฬ แบบใกล้ชิด และ ยังเชื่องชอบเล่นกับคน นับว่าเป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืม ซึ่งใครสนใจก็สามารถมาเที่ยวชมกันได้ โดยขึ้นเรือที่อ่าวมะขามป้อม ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง โดยจะมีเรือพาออกไปทุกวัน


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7493974

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 06-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


กรมประมงสั่งเบรกโปรโมต "ปลาเก๋าหยก"

กรมประมง สั่ง ซีพีเอฟ ยุติการทำการตลาด "ปลาเก๋าหยก" ชี้เป็นการทำผิดเงื่อนไขจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ก่อนที่จะรายงานให้กรมประมงทราบ ย้ำปลาชนิดนี้เป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นอันตรายต่อระบบนิเวศ ห้ามเพาะเลี้ยงในประเทศไทย



กรมประมง เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุ จากกรณีที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ทำการเปิดตัว "ปลาเก๋าหยก" พร้อมโปรโมตเป็น "วากิวแห่งสายน้ำ อุดมด้วยโอเมก้า 3 สัตว์น้ำเศรษฐกิจใหม่ของไทย" ซึ่งกรณีดังกล่าวได้ขออนุญาตกรมประมงนำเข้าลูกปลาจากประเทศจีน เพื่อทดลองเพาะเลี้ยงที่ฟาร์มปลา ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยชูระบบการเลี้ยงที่ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทำการตลาดปั้นเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ จนเกิดเป็นกระแสความสนใจของสาธารณชนต่อประเด็นการแพร่กระจายของสัตว์น้ำต่างถิ่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศแหล่งน้ำของประเทศไทยในอนาคต นั้น

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า "ปลาเก๋าหยก" หรือ Jade perch มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scortum barcoo เป็นปลาน้ำจืด ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย และมีการนำเข้ามาเพาะเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจในประเทศจีนและมาเลเซีย โดยปลาเก๋าหยกจัดเป็น 1 ในสัตว์น้ำต่างถิ่น 13 ชนิด ที่ห้ามเพาะเลี้ยงในประเทศไทย ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำพื้นถิ่นหายาก หรือป้องกันอันตรายมิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ ซึ่งผู้จะทำการเพาะเลี้ยงต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมประมงหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมประมงมอบหมาย หากผู้ใดฝ่าฝืนตามมาตรา 65 วรรคสอง ต้องระวางโทษตามมาตรา 144 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง นำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับกรณีของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้ขออนุญาตกรมประมงนำเข้าปลาเก๋าหยกเพื่อการศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงเมื่อปี 2561 ซึ่งหลังจากระยะทดลองได้มีการชำแหละปลาทั้งหมดเป็นเนื้อปลา เหลือเพียงพ่อแม่พันธุ์ จำนวน 40 คู่ ต่อมาบริษัทฯ ได้ขออนุญาตดำเนินการศึกษาวิจัยการเพาะพันธุ์ การเลี้ยง และการตลาดผลิตภัณฑ์ปลา Jade perch ในระบบปิดน้ำหมุนเวียนเชิงพาณิชย์ เมื่อเดือน เมษายน 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ ซึ่งกรมประมงได้อนุญาตให้ศึกษาวิจัยดังกล่าว โดยผ่านมติของคณะกรรมการด้านความหลากหลายและด้านความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง (IBC) ซึ่งต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กรมประมงกำหนด คือเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น โดยบริษัทฯ ต้องดำเนินการในพื้นที่ที่กรมประมงอนุญาตเท่านั้น และห้ามเคลื่อนย้ายปลามีชีวิตออกจากบริเวณที่อนุญาตโดยเด็ดขาด ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการทดลองเพื่อศึกษาวิจัยด้านการตลาด กรมประมงอนุญาตให้จำหน่ายเป็นผลผลิตที่ไม่มีชีวิตเท่านั้น เช่น ปลาแช่แข็ง และอนุญาตให้จำหน่ายในช่องทางของบริษัทในเครือตามที่บริษัทเสนอแผนการศึกษามาเท่านั้น เช่น ซีพีเฟรชมาร์ท โลตัส แม็คโคร ทั้งนี้ การดำเนินการศึกษาวิจัยต้องรายงานให้กรมประมงรับทราบทุกขั้นตอน ตลอดจนต้องส่งผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์แก่กรมประมง

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า การออกข่าวประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ดังกล่าว ได้ดำเนินการนอกเหนือจากกรอบโครงการวิจัยที่บริษัทเสนอต่อกรมประมงเพื่อขอรับอนุญาต และมีการทำประชาสัมพันธ์รวมถึงทำการตลาดโดยจำหน่ายปลาเก๋าหยกในเชิงพาณิชย์ก่อนที่จะรายงานให้กรมประมงทราบ โดยขณะนี้กรมประมงได้แจ้งให้บริษัทฯ ระงับการประชาสัมพันธ์ดังกล่าวภายใน 3 วัน มิฉะนั้น กรมประมงจะดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดนี้ ซึ่งหมายความว่า บริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับปลาเก๋าหยกได้


https://www.mcot.net/view/Etq6VVvv

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 06-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ร้านอาหาร ยอมรับผิด ตั้งโต๊ะบริการลูกค้าริมหาดจอมเทียน

เจ้าของร้านอาหาร ยอมรับผิด ตั้งโต๊ะ- เก้าอี้ บริเวณริมชายหาดจอมเทียนพัทยา จ.ชลบุรี ระบุ นำโต๊ะไปตั้งไว้เพื่อให้บริการลูกค้า ล่าสุดได้นำออกแล้ว ขณะที่เทศบาลนาจอมเทียน พร้อมเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่โดยบอกว่ายังไม่รับมอบพื้นที่จากทางเจ้าท่า



วันนี้ (5 ก.พ.2566) น.ส.ระพีพรรณ รัตนเหลี่ยม นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน จ.ชลบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณชายหาดจอมเทียนพัทยา จุดที่มีร้านอาหารนำโต๊ะ เก้าอี้ กว่า 30 ชุด พร้อมเสาไฟส่องสว่าง มาตั้งเรียงรายบนพื้นทรายชายหาด เพื่อรองรับลูกค้าที่จะมานั่งรับประทานอาหาร

จากการตรวจสอบพบว่า จุดดังกล่าวเป็นที่ที่น้ำท่วมถึงยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการดูแลของใคร โดยเทศบาลจะเรียกเจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นจุดที่น้ำท่วมถึง เป็นเขตรับผิดชอบของใคร ซึ่งเมื่อชัดเจนแล้ว จึงจะพิจารณาว่า จะเอาผิดกับเจ้าของร้านอย่างไรหรือไม่

ขณะเดียวกัน เจ้าของร้านอาหารที่นำเก้าอี้ไปจัดเรียงได้ออกมายอมรับผิดพร้อมกล่าวขอโทษ โดยอ้างว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยกเก้าอี้มานั่งที่ชายหาด เมื่อลูกค้าเห็นก็อยากนั่งด้วย จึงจัดโต๊ะเพิ่มจนกลายเป็นภาพอย่างที่เห็น แต่ล่าสุดได้รื้อโต๊ะออกจากชายหาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าพัทยา เปิดเผยว่า จุดที่มีการบุกรุกของร้านอาหารดังกล่าว เป็นโครงการเสริมชายหาดที่ทำต่อมาจากชายหาดพัทยา เฟสแรกเพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว บริเวณหาดจอมเทียน ได้ส่งมอบให้กับเทศบาลตำบลนาจอมเทียนเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2565

ขณะนี้ ยังคงดำเนินการเสริมทรายชายหาดในพื้นที่เขตเมืองพัทยา และจะดำเนินการในระยะต่อไปจนครบทุกพื้นที่ตามแผนงาน ส่วนการเอาผิดผู้ที่บุกรุกเป็นอำนาจของเทศบาลตำบลนาจอมเทียน


https://www.thaipbs.or.th/news/content/324250

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:54


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger